ข้อความถึงคนที่ยังอยู่ : เรื่องจริงเกินดราม่า

เมาไม่ขับ

          "ไม่คิดว่าจะเป็นการบอกครั้งสุดท้าย และเขาจะไม่ได้กลับมาอีกเลย…"

          ประโยคสุดท้ายที่มาพร้อมกับเสียงสะอื้นของแม่ตุ้ม ชุลีพร คูยิ่งรัตน์ สะกดอารมณ์คนทั้งกองถ่าย ภาพของผู้กำกับและทีมงานที่ปาดน้ำตา กับเรื่องจริงของผู้สูญเสียคนรักจากอุบัติเหตุ       

          "แคมเปญนี้เราใช้บทเรียนจริงของคนที่จากไป มาเตือนให้ระวังเรื่องการขับขี่ในช่วงเทศกาล ผ่านโซเชียลมีเดียในการดำเนินเรื่อง ให้ดูเหมือนว่าคนที่จากไปแล้วกลับมาเตือน คำเตือนแบบนี้ถือว่า เล่นแรง" คุณอารยะ สุริหาร ผู้กำกับของหนังโฆณาชิ้นนี้ พูดถึงคอนเซปต์ของการนำเสนอ กับครั้งแรกที่เขาได้ยินจากครีเอทีฟ

เมาไม่ขับ
คุณอารยะ สุริหาร
          "ผมว่ามันต่าง... มันมีความแตกต่างจากทุกแคมเปญที่ผ่านมา แม้กระทั่งแคมเปญรณรงค์เรื่องอุบัติเหตุของ สสส. ที่ทำมาทุกปี เพราะเรื่องที่เราทำมันเป็นเรื่องจริง ใครที่ได้เห็นเพื่อนหรือญาติที่เสียชีวิตไปแล้ว มาโพสต์เตือนให้ขับขี่รถอย่างระมัดระวัง ข้อแรกเลยคือก็ต้องหยุด และคิดถึงสิ่งที่โพสต์ว่าใครมาล้อเล่นอะไรแบบนี้ แต่ตอนจบที่เฉลยว่าเป็นข้อความที่มาจากญาติ หรือคนที่เขาต้องสูญเสีย มันเหมือนเป็นผลกระทบสองชั้น ทั้งเตือนใจ และสะเทือนใจ" คุณจิรัฐ อรินฤทธิ์ ครีเอทีฟเจ้าของแนวคิดของงานชิ้นนี้ อธิบายภาพของงานให้ชัดขึ้น

เมาไม่ขับ
คุณจิรัฐ อรินฤทธิ์

          "เราเลือกเคสไว้ 4 เคส พอวันถ่ายทำ ได้เจอญาติผู้เสียชีวิตจริง ๆ แล้วมันหดหู่มาก ที่ผ่านมาเรารับรู้จากข่าว หรือจากคนที่อยู่ไกลตัว แต่ตอนนี้เขาอยู่ตรงหน้าเรา และฟังจากปากเขา มันสะเทือนใจ"

          ผู้กำกับเล่าถึงบรรยากาศในวันถ่ายทำว่าการถ่ายทำใช้เวลาไม่มาก เพราะทั้ง 4 เคส เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง การสะกดคนดูให้มีอารมณ์ร่วม รวมถึงการดึงพลังออกมาจึงไม่ใช่เรื่องยาก แต่จุดที่พีคที่สุด คือ การร้องไห้ของทั้งผู้กำกับ และทีมงานตลอดการถ่ายทำ

เมาไม่ขับ

          ชุลีพร คูยิ่งรัตน์ หรือแม่ตุ้ม หนึ่งในผู้ถ่ายทอดเรื่องราวการสูญเสียลูกชาย จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ พูดถึงโครงการนี้ว่า "อยากให้ทุกคนในสังคมได้ตระหนักถึงเรื่องอุบัติเหตุ ว่าเป็นการพลัดพรากแบบไม่มีการบอกลา จากคนที่เรารัก เพื่อว่าทุกคนจะได้ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้"

          "ผมคิดว่างานทุกชิ้นของ สสส. มีเจตนาที่ดีต่อสังคม หลังจากที่ได้ทำแคมเปญนี้ ผมคิดว่าไม่ว่าจะเป็นเทศกาลหรือเวลาไหนก็ตาม การขับขี่รถโดยประมาทนั้นอันตรายมาก มันไม่ได้ส่งผลเฉพาะผู้ขับขี่คนเดียว โชคดีก็จะแค่บาดเจ็บ พิการ แต่ว่าถ้าเสียชีวิต คนที่อยู่ข้างหลังเรา ไม่ว่าจะเป็นญาติ เป็นพ่อเป็นแม่ หรือเป็นเพื่อน เป็นคนรู้จัก มันมีผลกระทบต่อพวกเขาทั้งนั้น เพราะงั้นดีที่สุดก็ไม่ควรประมาท มีสติในการขับขี่ตลอดเวลา"
 
          บทสรุปจากผู้กำกับที่ได้ชื่อว่า กำกับหนังโฆษณาที่เศร้าที่สุดแห่งปี

          รับชมคลิปได้ที่ https://youtu.be/rUyw8qy3Q3g




ภาพและข้อมูลจาก



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ข้อความถึงคนที่ยังอยู่ : เรื่องจริงเกินดราม่า อัปเดตล่าสุด 28 ธันวาคม 2559 เวลา 11:52:14 4,980 อ่าน
TOP
x close