มหัศจรรย์ ! น้องลูกนก ชีวิตเปลี่ยน แค่ 7 เดือน ลดน้ำหนักได้ 63 กก.




มหัศจรรย์! น้องลูกนก ชีวิตเปลี่ยน แค่ 7 เดือน ลดน้ำหนักได้ 63 กก.

 

          ทำเอาชาวเน็ตฮือฮาไปตาม ๆ กัน เมื่อ "น้องลูกนก" ผู้ใช้นามแฝงว่า BabyBirdz13 ในเว็บไซต์พันทิป ตั้งกระทู้ในเว็บไซต์พันทิป บอกเล่าประสบการณ์ความพยายามลดความอ้วนของตัวเองที่ทำให้คนที่ได้รู้อึ้งสุด ๆ เพราะน้องลูกนก นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ปี 4 ใช้เวลาเพียงแค่ 7 เดือน สามารถลดน้ำหนักลงได้ถึง 63 กิโลกรัม !!!

          น้องลูกนก เล่าว่า เมื่อก่อนเธอมีน้ำหนักถึง 131 กิโลกรัม ถือว่าอ้วนมาก ๆ สำหรับผู้หญิงคนหนึ่ง สาเหตุก็เพราะเธอชอบกินมาก ใครห้ามก็ไม่ฟัง เมื่ออ้วนมาก ๆ เข้า ก็จะมีแต่คนบอกให้ลดน้ำหนักลงบ้างเถอะ แต่เธอก็ไม่สนใจ เพราะคิดว่าการกินคือความสุขของเรา

          กระทั่งเมื่อ 7 เดือนที่แล้ว "น้องลูกนก" ก็ตัดสินใจลดน้ำหนัก เพราะได้ไปบนไว้ว่า จะไม่กินข้าวเย็นกับน้ำอัดลม 1 เดือน หากได้จับมือกับ "นิชคุณ" ศิลปินในดวงใจของเธอซึ่งมาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทยนั่นเองและเธอก็ได้จับมือกับ "นิชคุณ" จริง ๆ เธอจึงต้องแก้บนด้วยการไม่ทานข้าวเย็น และน้ำอัดลมเป็นเวลา 1 เดือน

          อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่แก้บนอยู่นั้น "น้องลูกนก" ก็นึกได้ว่า เธอกำลังจะเรียนจบแล้วนะ หากได้ใส่ชุดรับปริญญาถ่ายรูปสวย ๆ กับครอบครัวก็คงดี คิดได้ดังนั้น "น้องลูกนก" ก็ตัดใจจากของกิน เดินหน้าลดน้ำหนักทันที ซึ่งเพียงแค่เดือนเดียว เธอสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 10 กิโลกรัม เธอจึงยิ่งมีกำลังใจเดินหน้าลดน้ำหนักต่อไปเรื่อย ๆ จนผ่านมา 7 เดือน น้ำหนัก 131 กิโลกรัม ก็เหลือเพียง 68 กิโลกรัมเท่านั้น

          ว่าที่บัณฑิตสาว ยังบอกด้วยว่า หลังจากลดน้ำหนักแล้วชีวิตเปลี่ยนไปมากจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว เพราะมีแต่คนชม บ้างคนก็เข้ามาทักว่าไปทำศัลยกรรมที่ไหน ซึ่งจริง ๆ เป็นเพราะเธอลดน้ำหนักต่างหากล่ะ และหลายคนที่ได้ทราบเรื่องของเธอก็ถามไถ่กันมากมายเลยทีเดียวว่า "น้องลูกนก" มีเคล็ดลับอย่างไร เจ้าตัวเลยตอบคำถามถึงเคล็ดลับที่เธอใช้ลดน้ำหนัก ดังนี้

1. ลดน้ำหนักอย่างไร? 

           ลดวิธีธรรมดา สามัญที่สุดเลยค่ะ ออกกำลังกายและควบคุมอาหารเท่านั้นเอง แต่สิ่งสำคัญคือ กำลังใจ ความมุ่งมั่น ความพยายาม ความอดทน ทุกอย่างจะต้องรวมกัน ต้องใจสู้นะคะ ถึงจะทำได้จริง ๆ คะ เราเข้าใจค่ะว่ามันยาก แต่เชื่อเถอะค่ะว่าทุกคนทำได้ถ้าตัดสินใจแล้วว่าจะสู้!!!!!

2. มีเคล็ดลับอย่างไร?

           ไม่มีเคล็ดลับอะไรเลยค่ะ ต้องชนะใจตัวเองให้ได้และอย่างที่บอกต้องใจสู้จริง ๆ ;) แต่การออกกำลังกายและควบคุมอาหารเท่าที่เราทำมา เราค้นพบว่าแต่ละคนจะมีสูตรไม่เหมือนกันนะคะ แล้วแต่สรีระของแต่ละคน

3. กินยาอะไร?

           ขอตอบด้วยความสัตย์จริงนะคะว่าเราไม่เคย "กินยา" หรือ "ใช้ยา" ใด ๆ ก็ตามในการลดน้ำหนักเลยแม้แต่เม็ดเดียว :D

          นอกจากนี้ "น้องลูกนก" ก็ได้เปิดแฟนเพจในหน้าเฟซบุ๊ก www.facebook.com/bb.babybirdz เพื่อให้คนที่อยากลดน้ำหนักเข้ามาซักถามวิธีที่เธอใช้อยู่ด้วย รวมทั้งเป็นพื้นที่เปิดให้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน งานนี้ เลยมีคุณสาว ๆ เข้ามาถามเคล็ดลับการออกกำลังกายจาก "น้องลูกนก" เจ้าตัวเลยให้คำตอบมาว่า...

          "ในช่วงที่ออกกำลังกายหนักมาก ๆ ย้ำว่าหนักจริงค่ะ อยู่ในช่วงปิดเทอมนะคะ เรียกได้ว่าแทบจะนอนที่ฟิตเนส >~<* เช้าตื่นขึ้นมาไปฟิตเนสค่ะ เข้าคลาสก่อนพวกโยคะ ปั่นจักรยานเข้าจังหวะ หรือ กระชับด้วยลูกบอล เต้นแอโรบิก พวกนี้แล้วแต่ว่าจะเลือกแต่ละวัน หลังจากคลาสเสร็จเป็นช่วงเวลาเบิร์นค่ะ เดินบนเทรดมิว หรือลู่วิ่งนั่นเอง เดินด้วยความชันนะคะเพราะจะเซฟเข่าด้วยสำหรับคนน้ำหนักมาก ๆ เดินประมาณสองชั่วโมงค่ะ ชั่วโมงครึ่ง ชั่วโมงหนึ่งแล้วแต่วันค่ะ แต่ไม่ต่ำกว่าชั่วโมงแน่นอน ^^* ส่วนเย็นเข้าคลาสอีกค่ะ เป็นช่วงของคลาสเหมือนเดิม และอาจเบิร์นบ้าง ปรับเปลี่ยนได้ ถ้าเหนื่อยมากก็คลาสโยคะ ประมาณนี้ค่ะ สรุปแล้วววว!!! ตอนช่วงหนักจริง ๆ วันนึงออกกำลังกาย 7 ชั่วโมงค่ะ เป็นอย่างนี้สามเดือนตอนช่วงเราปิดเทอมนะคะ ^____________^*"

          ได้อ่านเรื่องราวของ "น้องลูกนก" แล้ว เชื่อว่าน่าจะเป็นแรงบันดาลใจให้คุณสาว ๆ ร่างอวบที่อยากลดน้ำหนักได้แน่นอน ขนาดคนที่มีน้ำหนักถึง 131 กิโลกรัมยังลดได้เลยเห็นไหมจ๊ะ


น้องลูกนก


          และดูเหมือนว่าเรื่องราวของ "น้องลูกนก" จะไม่ได้เป็นเพียงกระแสในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์กเสียแล้ว เพราะแม้แต่รายการ "เจาะข่าวเด่น" ทางช่อง 3 ก็ยังเชิญเธอไปร่วมพูดคุย พร้อมเปิดเผยเคล็ดลับการลดน้ำหนักที่ทำให้ใครต่อใครอึ้ง!

          โดย "น้องลูกนก" เล่าด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า เมื่อ 7 เดือนก่อนเธอมีน้ำหนัก 131 กิโลกรัม คนยังเรียกเธอว่า "ปลาวาฬ" อยู่เลย แต่มาวันนี้ เธอสามารถลดน้ำหนักได้จนเหลือ 68 กิโลกรัม ซึ่งยืนยันและสาบานได้เลยว่า ไม่ได้กินยาลดความอ้วนแม้แต่เม็ดเดียว และไม่ได้ศัลยกรรมเลยแน่นอน และแรงบันดาลใจก็มาจากการที่คุณแม่ชอบพูดเสมอ ๆ ว่า อยากให้เธอลดน้ำหนักเสียที เพื่อจะได้แต่งชุดรับปริญญาถ่ายรูปสวย ๆ เธอจึงใช้เรื่องนี้เป็นแรงผลักดันเดินหน้าลดน้ำหนักอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คุณแม่ได้ภูมิใจให้ได้ นอกจากนี้ก็เพื่อสุขภาพของตัวเองด้วย


น้องลูกนก


          เธอบอกว่า ปกติเป็นคนไม่กินหลายมื้อ แต่มื้อหนึ่งกินเยอะมาก จนเพื่อนแซวว่ากินเป็นกะละมัง (หัวเราะ) คือ มื้อหนึ่งมีทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าว ไก่ทอด ลูกชิ้นทอด น้ำอัดลม แถมยังชอบกินข้าวหลังสี่ทุ่ม ซึ่งข้าวที่กินก็อย่างเช่น ข้าวมันไก่ ข้าวขาหมู และชอบดื่มน้ำอัดลมแทนน้ำเปล่า หรือไม่ก็ดื่มชาเย็น นมเย็น น้ำหวาน แทบจะไม่ดื่มน้ำเปล่าเลย เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก จนน้ำหนักพุ่งพรวด

          เมื่อถามว่าไปหาวิธีลดน้ำหนักมาจากไหน น้องลูกนก บอกว่า วิธีลดน้ำหนักของเธอก็ทั่วไป คือ การออกกำลังกาย และควบคุมอาหาร โดยเดือนแรกเธอยังไม่ได้ออกกำลังกาย ทำแต่เพียงการคุมอาหาร เพื่อแก้บนว่าจะได้จับมือกับนิชคุณ จนน้ำหนักลดไปได้ 10 กิโลกรัม


น้องลูกนก


          จากนั้น ในเดือนที่ 2 น้องลูกนก ก็เริ่มออกกำลังกายอย่างหนักด้วยการเข้าฟิตเนส ต้องเดินบนลู่วิ่งประมาณ 2 ชั่วโมง แล้วไปเข้าคลาสปั่นจักรยานเข้าจังหวะ เต้นแอโรบิก โยคะ ทรงตัวบนลูกบอล ซึ่งทำทั้งเช้าและเย็น พร้อมกับการควบคุมอาหาร คือ กลับมาทานเป็นมื้อเช้า กลางวัน เย็น แทนที่จะทานมื้อดึกเหมือนแต่ก่อน และเลิกทานอาหารที่มีแคลอรี่สูงทั้งหมด เช่น ข้าวมันไก่ ของทอด อาหารฟาส์ตฟู้ด หอยทอด แล้วทานอาหารแคลอรี่ต่ำแทน เช่น ต้มยำ แกงจืด ยำ ผัก สลัด

          น้องลูกนก บอกว่า เธอต้องใจแข็งอย่างมากในการลดน้ำหนัก แต่เวลาที่ตั้งใจจะลดน้ำหนักให้ได้แล้ว เธอจะรู้สึกแทบไม่อยากกินอาหารของชอบเลย ผ่านมา 7 เดือน ข้าวมันไก่ของโปรด น้ำอัดลมของชอบก็ยังไม่ทาน เพราะคิดเสมอว่า เดี๋ยวไว้ผอมแล้วค่อยทานก็ได้ เพราะเธอตัดสินใจแล้วว่าจะทำให้ได้ เพื่อตัวเองและครอบครัว และในช่วงที่ลดน้ำหนักก็ตั้งใจมาก ๆ โดยไม่มีวันไหนที่รู้สึกว่าจะยอมแพ้เลย


น้องลูกนก


          ส่วนเรื่องยาลดความอ้วนนั้น "น้องลูกนก" ยืนยันว่า ไม่คิดจะใช้เลย เพราะคิดเสมอว่า อะไรที่ทำแล้วได้ผลเร็ว มันไม่ได้ผลยั่งยืน เธอพยายามลดจนผอมขนาดนี้แล้ว เธอจะไม่กลับไปกินจนอ้วนแบบเดิมแน่ ๆ โดยตั้งเป้าจะลดน้ำหนักอีก 8 กิโลกรัม เพื่อให้เหลือ 60 กิโลกรัมตามที่ตั้งใจให้ได้ ซึ่งก็มีเพื่อน ๆ ช่วยเชียร์และให้กำลังใจ

          น้องลูกนก กล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า วันนี้รู้สึกคุ้มค่ามาก ๆ ที่ลดน้ำหนักได้ขนาดนี้จนเหมือนกับมีชีวิตใหม่ ร่างกายก็รู้สึกกะปรี้กะเปร่าแข็งแรงมากขึ้น จากเดิมที่ตอนอ้วนแทบจะไม่เดินเลย ไปไหนก็ใช้มอเตอร์ไซค์เอา แต่ตอนนี้เดินตลอด ระยะทางไกลแค่ไหนก็เดินได้

         
 ในตอนท้าย น้องลูกนก ยังย้ำว่า วิธีลดน้ำหนักของเธอไม่ใช่การอดอาหาร แต่ต้องเลือกกิน และไม่กินยาลดความอ้วน ซึ่งการลดน้ำหนักลงพรวดพราดขนาดนี้ ก็ไม่ได้ทำให้เธอมีผิวแตกลายอย่างที่กังวล เพราะเธออ้วนมาตั้งแต่เด็ก ๆ เหมือนกับร่างกายก็ค่อย ๆ ปรับมาเรื่อย ๆ อีกทั้งการที่เธอใช้วิธีออกกำลังกายก็ยิ่งช่วยกระชับเนื้อได้ส่วนหนึ่งด้ว


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
มหัศจรรย์ ! น้องลูกนก ชีวิตเปลี่ยน แค่ 7 เดือน ลดน้ำหนักได้ 63 กก. อัปเดตล่าสุด 11 เมษายน 2560 เวลา 17:08:51 13,859 อ่าน
TOP
x close