x close

ตะลึง! คนไทยติดเอดส์ชั่วโมงละคน ชี้เด็กหญิงเสียสาวตั้งแต่อายุ 12




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
 
           สธ. เผย ทุก 1 ชั่วโมง มีคนไทยติดเชื้อเอดส์เพิ่มขึ้น 1 คน ชี้เด็กผู้หญิงมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก อายุ 12 ปี พบ ม.4 ร้อยละ 40 เสียสาวแล้ว เล็งติดกล่องแจกถุงยางให้เด็กพก แม้จะมีบางส่วนยอมรับความจริงในเรื่องเพศไม่ได้
 
           วันนี้ (29 พฤศจิกายน) กระทรวงสาธารณสุข เผยว่า ทุกวันที่ 1 ธันวาคม ของทุกปี ถือเป็นวันเอดส์โลก (World AIDS DAY) ในขณะที่สถานการณ์ทั่วโลก พบจำนวนผู้ป่วยเอดส์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ในประเทศไทย มีจำนวนผู้ติดเชื้อในปี 2554 ประมาณ 1 หมื่นคน ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า ใน 1 ชั่วโมงเฉลี่ยมีคนไทยติดเชื้อเอดส์เพิ่มขึ้น 1 คน
 
           นพ.พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในประเทศไทยว่า ปัจจุบันมีจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยพบว่า ผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ต่อจำนวนประชากร 1 แสนคน เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 29 เปอร์เซ็นต์ใน พ.ศ. 2550 เป็น 44 เปอร์เซ็นต์ใน พ.ศ. 2554 และในจำนวนนี้ประมาณ 42 เปอร์เซ็นต์เป็นวัยรุ่น ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า วัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย
 
           นอกจากนี้ ยังพบว่า มีปัญหาการตั้งครรภ์โดยไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น โดยวัยรุ่น 8 ใน 10 คน ไม่ต้องการมีลูกหลังจากการตั้งครรภ์ ซึ่งหมายถึงความไม่พร้อมในการวางแผนครอบครัว และการไม่ใช้ถุงยางอนามัย ห่วงอนามัย หรือยาคุมกำเนิด จนเกิดปัญหาการติดเชื้อเอชไอวี ทั้งนี้ ยังพบอีกว่า ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ส่วนใหญ่หรือประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในวัยแรงงาน โดยเป็นกลุ่มชายรักร่วมเพศ หญิงบริการ และผู้ใช้ยาเสพติด ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงมาก โดยเฉพาะวัยแรงงานซึ่งอาจเป็นภาระสังคมในอนาคต
 
            นพ.พรเทพ ยังระบุอีกว่า จากสถิติของโครงการเอดส์แห่งสหประชาชาติ (UNAIDS) พ.ศ. 2554 พบว่า ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี 34.2 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากช่วง 10 ปีก่อน ประมาณ 5 ล้านคน มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2.5 ล้านคน เฉลี่ยติดเพิ่มนาทีละ 5 คน เสียชีวิต 1.7 ล้านคน เฉลี่ย 3 คนต่อนาที 
 
           สำหรับประเทศไทยคาดการณ์ว่าใน พ.ศ. 2555 จะมีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยสะสมรวม 1,157,589 ราย ยังมีชีวิตอยู่ 464,414 คน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 9,473 คน เฉลี่ยชั่วโมงละ 1 คน เสียชีวิต 695,905 คน และกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน โดยรายใหม่ 62 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในกลุ่มชายรักชาย พนักงานขายบริการทางเพศ ผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีด นอกจากนี้พบว่าอัตราป่วยด้วยโรคเอดส์ในกลุ่มวัยรุ่นเพศหญิงสูงกว่าเพศชายใน จำนวน 2 ต่อ 1
 
           ขณะที่รายงานการสำรวจพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ในวัยรุ่นของกรมควบคุมโรคประจำปี พบว่า วัยรุ่นไทยเริ่มมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุได้ประมาณ 12-13 ปี โดยวัยรุ่นหญิงที่ศึกษาในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 20 เปอร์เซ็นต์ยอมรับว่าเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก ส่วนวัยรุ่นหญิงในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 40 เปอร์เซ็นต์ยอมรับเช่นเดียวกัน รวมทั้งวัยรุ่นหญิงที่ศึกษาในวิทยาลัยอาชีวศึกษาระดับปวช.กว่า 50 เปอร์เซ็นต์บอกว่าเคยมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกกับคู่ของตัวเอง ทำให้เห็นว่าวัยรุ่นส่วนใหญ่ ยังมีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์รวมทั้งเชื้อเอชไอวีด้วย
 
           นพ.พรเทพ กล่าวด้วยว่า ส่วนการป้องกันติดเชื้อเอชไอวีในกลุ่มวัยรุ่นนั้น จะขยายการติดตั้งกล่องแจกจ่ายถุงยางอนามัยในโรงเรียนเพิ่มขึ้น รวมทั้งรณรงค์ให้ผู้หญิงไทยทุกคนพกถุงยางอนามัยคนละ 2 ชิ้น ก่อนออกจากบ้าน เพื่อสร้างอำนาจต่อรองของผู้หญิงในการใช้ถุงยางอนามัยในระหว่างการมีเพศสัมพันธ์กับคู่ของตนเอง แต่ยอมรับว่าที่ผ่านมามักถูกปฏิเสธจากสถานศึกษาไม่ให้เข้าไปทำกิจกรรมรณรงค์ และติดตั้งกล่องถุงยางอนามัย เนื่องจากโรงเรียนส่วนใหญ่รับไม่ได้ และไม่อยากเป็นข่าวตามสื่อต่าง ๆ โดยเฉพาะโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
 
           ส่วนมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ของไทยในปี 2556 นพ.พรเทพ กล่าวว่า จะเร่งรัดขยายการป้องกันกลุ่มเสี่ยง โดยคณะรัฐมนตรีกำหนดให้วันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปี เป็นวันรณรงค์ตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวีแห่งชาติ โดยจะเริ่มปี 2556 เป็นต้นไป และเพิ่มการเข้าถึง โดยให้ประชาชนสามารถเข้ารับบริการตรวจเลือดฟรี ปีละ 2 ครั้ง ทุกสิทธิหลักประกันสุขภาพ และรับบริการได้ที่โรงพยาบาลรัฐทุกแห่งทั่วประเทศ โดยตั้งเป้าให้ในปี 2559 มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น และผู้ใหญ่ ลดลง 2 ใน 3 ของปี 2554 กลุ่มเด็กแรกเกิดติดเชื้อน้อยกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ และผู้เสียชีวิตลดลงจากปี 2554 ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์
 
           ด้านนายนิมิตร เทียนอุดม ผู้อำนวยการมูลนิธิเข้าถึงเอดส์ กล่าวว่า ได้เก็บข้อมูลประชาชนทั่วไปที่โทรศัพท์เข้ามาปรึกษาการป้องกันติดเชื้อเอชไอวีทางฮอตไลน์ 1663 พบว่า เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายนมีเข้ามา 4,000 กว่าราย ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเสี่ยง และจำนวนนี้มี 3,000 กว่าราย มีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน และกังวลว่าจะติดเชื้อ สำหรับพฤติกรรมเสี่ยงที่พบจากโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาปรึกษา ส่วนใหญ่เป็นการมีเพศสัมพันธ์ในคู่ของตัวเอง แต่ไม่แน่ใจว่าคู่ของตัวเองมีคนอื่นหรือไม่ และคู่ของตนอาจไม่ได้ใช้ถุงยางอนามัย โดยคาดว่า คนที่ติดเชื้อรายใหม่ 1.2 หมื่นคนต่อปี จะมีคนที่เข้าถึงบริการเพียงแค่ 3,000 คน ซึ่งน่าเป็นห่วงว่าจะทำให้อีก 8,000 กว่าคน เข้าถึงบริการได้อย่างไร เพราะคนหากคนที่ติดเชื้อ หรือไม่รู้ตัวเหล่านี้ ยังมีพฤติกรรมทางเพศแบบเดิม โอกาสที่เชื้อจะแพร่กระจายก็จะยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้น
 

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก










เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตะลึง! คนไทยติดเอดส์ชั่วโมงละคน ชี้เด็กหญิงเสียสาวตั้งแต่อายุ 12 อัปเดตล่าสุด 29 พฤศจิกายน 2555 เวลา 16:10:10 1,628 อ่าน
TOP