เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
เอแบคโพลล์ เผยผลสำรวจจังหวัดที่ประชาชนอยู่แล้วมีความสุขที่สุด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ขณะที่ กรุงเทพมหานคร รั้งอันดับสุดท้าย
เนื่องด้วยองค์การสหประชาชาติได้ประกาศให้วันนี้ (20 มีนาคม) เป็นวันความสุขสากล ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน หรือศูนย์วิจัยความสุขชุมชน (Academic Network for Community Happiness Observation and Research, ANCHOR) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จึงได้เผยผลการจัดอันดับจังหวัดแห่งความสุขของประเทศไทย โดยศึกษาตัวอย่างประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไปใน 77 จังหวัดทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 12,429 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 - 19 มีนาคม 2556
ทั้งนี้ เมื่อวิเคราะห์ ความสุข เป็นความรู้สึกที่มากกว่าความพึงพอใจของประชาชนภายในประเทศต่อดัชนีความสุข 17 ตัวชี้วัด จากคะแนนเต็ม 10 พบว่า แนวโน้มลดลงจาก 7.61 ในเดือนธันวาคมปี 2555 มาอยู่ที่ 6.58 ในผลวิจัยครั้งล่าสุด ซึ่งผลการสำรวจที่น่าสนใจ ได้แก่ ผลการจัดอันดับค่าร้อยละของประชาชนที่อยู่อาศัยในแต่ละจังหวัด พบว่า จังหวัดที่ประชาชนอยู่แล้วมีความสุขมากที่สุด 3 จังหวัด มีดังนี้
อันดับที่ 1 ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีคะแนนร้อยละ 60.9
อันดับที่ 2 ได้แก่ จังหวัดพังงา มีคะแนนร้อยละ 60.7
อันดับที่ 3 ได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ มีคะแนนร้อยละ 60.0
ดร.นพดล กล่าวต่อว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ประชาชนเลือกอยู่ในจังหวัดแห่งความสุขของประเทศไทย เช่น ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติ, วิถีชีวิตชาวบ้าน, เป็นเมืองที่สงบ, ผู้คนมีความช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินสูง เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม พบว่า จังหวัดที่มีอยู่แล้วความสุขน้อย รั้ง 3 อันดับสุดท้ายของประเทศ มีดังนี้
อันดับที่ 75 ได้แก่ จังหวัดภูเก็ต มีคะแนนร้อยละ 24.2
อันดับที่ 76 ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ มีคะแนนร้อยละ 22.0
อันดับที่ 77 ได้แก่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร มีคะแนนร้อยละ 20.8
สำหรับปัจจัยสำคัญที่ทำให้จังหวัดเหล่านี้รั้งท้ายในเรื่องความสุข ได้แก่ มีลักษณะวัตถุนิยมระดับมากถึงมากที่สุด, มีคดีอาชญากรรมสูง, ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัวและชุมชนอยู่ในขั้นวิกฤต, มีปัญหายาเสพติด, เป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งรุนแรงแตกแยก และสาธารณชนไม่มีความวางใจต่อรัฐบาลและการเมืองท้องถิ่นที่มากพอ เป็นต้น
ดร.นพดล กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองขณะนี้กำลังมีความเสี่ยงสูงที่จะลดทอนความสุขของประชาชน แต่เพื่อให้ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศสามารถอยู่เป็นสุขได้ทุกสถานการณ์จึงขอเสนอ โรดแมปความสุขประเทศไทย ดังนี้
ประการแรก ได้แก่ ช่วยกันกระตุ้นจิตสำนึก “กตัญญูรู้คุณแผ่นดิน” ให้เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางเพื่อรักษา “ค่านิยมร่วม” ในเอกลักษณ์แห่งความเป็นคนไทยหรือ DNA ของความเป็นคนไทย เพราะเป็นคุณค่าที่หล่อหลอมคนไทยมาหลายร้อยปีในการแสดงออกซึ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และประชาชนทุกคนที่มาอาศัยพักพิงในผืนแผ่นดินไทยต้องไม่ยอมให้ใครมาดัดแปลง DNA ของความเป็นคนไทย เพราะนี่เป็นหนทางหนึ่งในการรวมทุกคนในชาติเข้าด้วยกันบนผืนธงไตรรงค์ด้วยสันติวิธี
ประการที่สอง ได้แก่ ทำให้เกิดความวางใจของสาธารณชนต่อรัฐบาล โดยรัฐบาลต้องเปิดเผยรายละเอียดของงบประมาณบนเว็บไซต์ของรัฐบาลที่ทำให้สาธารณชนสามารถแกะรอยตรวจสอบได้ตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำของทุกเม็ดเงินที่รัฐบาลใช้จ่ายไป
ประการที่สาม ได้แก่ หนุนเสริมความวางใจของสาธารณชนต่อเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเปิดเผยรายละเอียดในใบเสร็จรับเงินค่าปรับ ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ว่านำเงินไปใช้จ่ายด้านใดบ้างเช่น ส่งให้รัฐบาลพัฒนาประเทศ ให้การปกครองส่วนท้องถิ่นพัฒนาชุมชน ให้ห้องสมุดประชาชน ให้หน่วยงานต้นสังกัดและที่เกี่ยวข้อง
ประการที่สี่ ได้แก่ กำหนดเป้าหมายของชาติและผลประโยชน์ร่วมกัน เช่น ประเทศไทยจะเป็นผู้นำของชุมชนเศรษฐกิจอาเซียน ในการกำหนดนโยบายสาธารณะและทิศทางการพัฒนาระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียนเพื่อประโยชน์ของทุกคนในชาติจึงจำเป็นที่คนไทยส่วนใหญ่ต้องสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษเพื่อทำงานร่วมกับชาวต่างชาติทั่วโลกที่มาประเทศไทยได้ดี เป็นต้น
สำหรับการจัดอันดับค่าร้อยละของประชาชนผู้อยู่อาศัยในแต่ละจังหวัดที่มีความสุขมากถึงมากที่สุด ใน 77 จังหวัดของประเทศ สามารถเรียงตามลำดับได้ดังนี้
1. จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีคะแนน ร้อยละ 60.9
2. จังหวัดพังงา มีคะแนนร้อยละ 60.7
3. จังหวัดชัยภูมิ มีคะแนนร้อยละ 60.0
4. จังหวัดปราจีนบุรี มีคะแนนร้อยละ 57.0
5. จังหวัดอุทัยธานี มีคะแนนร้อยละ 56.6
6. จังหวัดจันทบุรี มีคะแนนร้อยละ 56.3
7. จังหวัดสุโขทัย มีคะแนนร้อยละ 56.3
8. จังหวัดพะเยา มีคะแนนร้อยละ 55.6
9. จังหวัดแพร่ มีคะแนนร้อยละ 55.6
10. จังหวัดน่าน มีคะแนนร้อยละ 54.8
11. จังหวัดหนองคาย มีคะแนนร้อยละ 54.3
12. จังหวัดลำปาง มีคะแนนร้อยละ 53.9
13. จังหวัดพิษณุโลก มีคะแนนร้อยละ 53.4
14. จังหวัดมหาสารคาม มีคะแนนร้อยละ 53.1
15. จังหวัดสระแก้ว มีคะแนนร้อยละ 52.6
16. จังหวัดเพชรบูรณ์ มีคะแนนร้อยละ 52.6
17. จังหวัดลำพูน มีคะแนนร้อยละ 52.2
18. จังหวัดสุพรรณบุรี มีคะแนนร้อยละ 51.4
19. จังหวัดชัยนาท มีคะแนนร้อยละ 50.4
20. จังหวัดอุตรดิตถ์ มีคะแนนร้อยละ 50.3
21. จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีคะแนนร้อยละ 50.0
22. จังหวัดเชียงราย มีคะแนนร้อยละ 49.4
23. จังหวัดราชบุรี มีคะแนนร้อยละ 49.4
24. จังหวัดเลย มีคะแนนร้อยละ 48.7
25. จังหวัดระนอง มีคะแนนร้อยละ 48.3
26. จังหวัดฉะเชิงเทรา มีคะแนนร้อยละ 48.2
27. จังหวัดสระบุรี มีคะแนนร้อยละ 47.3
28. จังหวัดยโสธร มีคะแนนร้อยละ 47.3
29. จังหวัดตราด มีคะแนนร้อยละ 47.0
30. จังหวัดอำนาจเจริญ มีคะแนนร้อยละ 46.7
31. จังหวัดบุรีรัมย์ มีคะแนนร้อยละ 46.6
32. จังหวัดสตูล มีคะแนนร้อยละ 46.3
33. จังหวัดนครราชสีมา มีคะแนนร้อยละ 46
34. จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีคะแนนร้อยละ 46.0
35. จังหวัดนครนายก มีคะแนนร้อยละ 45.8
36. จังหวัดกาฬสินธุ์ มีคะแนนร้อยละ 45.2
37. จังหวัดกระบี่ มีคะแนนร้อยละ 45.1
38. จังหวัดเพชรบุรี มีคะแนนร้อยละ 44.5
39. จังหวัดอุดรธานี มีคะแนนร้อยละ 44.4
40. จังหวัดนครสวรรค์ มีคะแนนร้อยละ 44.2
41. จังหวัดกำแพงเพชร มีคะแนนร้อยละ 43.7
42. จังหวัดตาก มีคะแนนร้อยละ 43.0
43. จังหวัดสกลนคร มีคะแนนร้อยละ 41.9
44. จังหวัดหนองบัวลำภู มีคะแนนร้อยละ 41.4
45. จังหวัดชุมพร มีคะแนนร้อยละ 41.3
46. จังหวัดมุกดาหาร มีคะแนนร้อยละ 41.2
47. จังหวัดขอนแก่น มีคะแนนร้อยละ 40.7
48. จังหวัดชลบุรี มีคะแนนร้อยละ 40.0
49. จังหวัดปัตตานี มีคะแนนร้อยละ 38.5
50. จังหวัดร้อยเอ็ด มีคะแนนร้อยละ 38.5
51. จังหวัดเชียงใหม่ มีคะแนนร้อยละ 38.4
52. จังหวัดนครพนม มีคะแนนร้อยละ 37.9
53. จังหวัดพัทลุง มีคะแนนร้อยละ 37.6
54. จังหวัดพิจิตร มีคะแนนร้อยละ 37
55. จังหวัดอุบลราชธานี มีคะแนนร้อยละ 36.8
56. จังหวัดกาญจนบุรี มีคะแนนร้อยละ 36.6
57. จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีคะแนนร้อยละ 35.1
58. จังหวัดนนทบุรี มีคะแนนร้อยละ 34.7
59. จังหวัดศรีสะเกษ มีคะแนนร้อยละ 34.4
60. จังหวัดนครปฐม มีคะแนนร้อยละ 34.3
61. จังหวัดตรัง มีคะแนนร้อยละ 34.3
62. จังหวัดปทุมธานี มีคะแนนร้อยละ 34.2
63. จังหวัดสุรินทร์ มีคะแนนร้อยละ 33.9
64. จังหวัดสมุทรสงคราม มีคะแนนร้อยละ 33.6
65. จังหวัดบึงกาฬ มีคะแนนร้อยละ 33.3
66. จังหวัดสมุทรสาคร มีคะแนนร้อยละ 32.9
67. จังหวัดอ่างทอง มีคะแนนร้อยละ 32.8
68. จังหวัดสงขลา มีคะแนนร้อยละ 32.8
69. จังหวัดยะลา มีคะแนนร้อยละ 32.7
70. จังหวัดระยอง มีคะแนนร้อยละ 32.3
71. จังหวัดสิงห์บุรี มีคะแนนร้อยละ 32.1
72. จังหวัดนครศรีธรรมราช มีคะแนนร้อยละ 31.1
73. จังหวัดนราธิวาส มีคะแนนร้อยละ 26.8
74. จังหวัดลพบุรี มีคะแนนร้อยละ 26.4
75. จังหวัดภูเก็ต มีคะแนนร้อยละ 24.2
76. จังหวัดสมุทรปราการ มีคะแนนร้อยละ 22.0
77. จังหวัดกรุงเทพมหานคร มีคะแนนร้อยละ 20.8
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก