ทิ้งไปเถอะกับความเครียดที่ถาโถมใส่เรามาทั้งวัน อย่าให้สิ่งเหล่านั้นมารบกวนการนอนหลับในคืนนี้เลย
ความเครียดจากการทำงานที่รุมเร้าเรามาทั้งวันคงไม่สามารถสลัดทิ้งไปได้ง่าย ๆ แม้จะหมดเวลางานไปแล้ว แต่หลายคนยังแบกเอาความยุ่งยากเหล่านั้นกลับมานอนคิดต่อที่บ้าน คิดยังไงก็ไม่จบ จนนอนไม่หลับ ลองนำ 5 เทคนิคดี ๆ ข้างล่างนี้ไปใช้กำราบความเครียดของคุณดูก่อนจะเข้านอนในคืนนี้ เรื่องแย่ ๆ ที่ควรปล่อยวางบ้างแล้วจะได้ไม่ตามเข้าไปในความฝันให้ปวดหัวทั้งกลางวันและกลางคืน
เดินเล่นชิล ๆ
ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนัก ๆ ก่อนเข้านอนถึงจะหยุดความหงุดหงิดได้ แค่เพียงเดินทอดน่องในสวนสาธารณะ หรือเดินเล่นธรรมดา ๆ ชมนู่น ชมนี่ระหว่างทางกลับบ้าน ก็ช่วยลดความตึงเครียดที่ถาโถมใส่เรามาทั้งวันได้
ก่อนเข้านอนสัก
10 นาที ลองหยิบปากกาและกระดาษขึ้นมาจดเหตุการณ์และเรื่องราวแย่ ๆ
ที่คุณพบเจอมาในวันนี้ดูค่ะ
แม้ว่าการเขียนบรรยายความรู้สึกที่เกิดขึ้นจะไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้
แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้คุณได้ระบาย ได้เรียบเรียงลำดับความคิด
ทบทวนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
และเป็นการบอกว่าเราจะวางปัญหาไว้ในกระดาษแผ่นนี้นะ
ตอนนี้ถึงเวลาต้องปล่อยวางแล้ว เรื่องอื่น ๆ
ค่อยมาเริ่มต้นกันใหม่เมื่อตื่นขึ้นมาในวันพรุ่งนี้
อาบน้ำชโลมจิตใจ
น้ำก็เป็นตัวช่วยบำบัดสุขภาพจิตได้ดี ถ้าเจอเรื่องหนัก ๆ มาทั้งวัน ลองให้เวลากับการอาบน้ำให้มากขึ้น โดยให้น้ำไหลผ่านตัวอย่างช้า ๆ สายน้ำที่ค่อย ๆ ไหลผ่านร่างกายจะช่วยลดอุณหภูมิความเครียดในตัวคุณ และยังได้ประโยชน์คูณสองหากคุณอาบน้ำอุ่น เพราะคุณจะรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย ทำให้หลับสนิท ไม่ต้องนอนก่ายหน้าผากคิดไม่ตกกับเรื่องที่เจอมาระหว่างวัน
หรือถ้าบ้านใครมีอ่างอาบน้ำด้วย ก็ลงไปแช่ทั้งตัวเลยค่ะ แล้วหยดน้ำมันหอมระเหยลงไปในอ่างอาบน้ำ ให้กลิ่นหอม ๆ ช่วยทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย จนลืมเรื่องเครียดไปได้เลย
สวดมนต์ดูบ้าง
ตอนเด็ก ๆ คุณแม่อาจเคยสอนให้เราสวดมนต์ก่อนนอน ซึ่งตอนนั้นก็ทำตามแต่โดยดีอย่างไม่คิดอะไร พอโตขึ้นก็เลิกทำไป วันนี้เราขอแนะนำให้คุณกลับไปสวดมนต์ก่อนเข้านอนอีกครั้ง หรือจะนั่งสมาธิสักครู่ก็ได้ค่ะ ทั้งการสวดมนต์และนั่งสมาธิสัก 10-15 นาทีขึ้นไป จะช่วยหยุดความกังวลของสมอง ร่างกายจะหลั่งสารเซโรโทนินออกมา เราจะรู้สึกนิ่งสงบ ผ่อนคลายอารมณ์ และทำให้นอนหลับได้ดีขึ้นด้วย
กอดคนข้างกาย
จะบอกให้ว่าการสัมผัสด้วยการกอดเป็นวิธีผ่อนคลายความเครียดที่ทำง่ายและได้ผลจริง เพราะในการกอดแต่ละครั้งนั้น ร่างกายจะเกิดกระบวนการต่าง ๆ เช่น หัวใจเต้นรัวขึ้น เลือดลมสูบฉีด รู้สึกอารมณ์ดี ทำให้หัวสมองนึกถึงแต่เรื่องดี ๆ มีพลังฮึกเหิมขึ้นมากจากการให้กำลังใจของคนที่เรารัก
นอกจากนี้การกอดยังช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารโดปามีน หรือสารแห่งความสุขออกมามากขึ้น รวมถึงเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) และเซโรโทนิน (Serotonin) ทำให้เรารู้สึกมีความสุข พึงพอใจ รู้สึกยินดี จนลืมความทุกข์ไปเลยเชียวล่ะ
บางครั้งเราไม่สามารถหนีปัญหาได้ แต่การหยุดให้ร่างกายได้พักจากปัญหาเหล่านั้นบ้าง ก็จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ผลดีขึ้นเหมือนกันนะคะ
ความเครียดจากการทำงานที่รุมเร้าเรามาทั้งวันคงไม่สามารถสลัดทิ้งไปได้ง่าย ๆ แม้จะหมดเวลางานไปแล้ว แต่หลายคนยังแบกเอาความยุ่งยากเหล่านั้นกลับมานอนคิดต่อที่บ้าน คิดยังไงก็ไม่จบ จนนอนไม่หลับ ลองนำ 5 เทคนิคดี ๆ ข้างล่างนี้ไปใช้กำราบความเครียดของคุณดูก่อนจะเข้านอนในคืนนี้ เรื่องแย่ ๆ ที่ควรปล่อยวางบ้างแล้วจะได้ไม่ตามเข้าไปในความฝันให้ปวดหัวทั้งกลางวันและกลางคืน
เดินเล่นชิล ๆ
ไม่จำเป็นต้องออกกำลังกายหนัก ๆ ก่อนเข้านอนถึงจะหยุดความหงุดหงิดได้ แค่เพียงเดินทอดน่องในสวนสาธารณะ หรือเดินเล่นธรรมดา ๆ ชมนู่น ชมนี่ระหว่างทางกลับบ้าน ก็ช่วยลดความตึงเครียดที่ถาโถมใส่เรามาทั้งวันได้
จดเรื่องแย่ ๆ ลงในกระดาษ
อาบน้ำชโลมจิตใจ
น้ำก็เป็นตัวช่วยบำบัดสุขภาพจิตได้ดี ถ้าเจอเรื่องหนัก ๆ มาทั้งวัน ลองให้เวลากับการอาบน้ำให้มากขึ้น โดยให้น้ำไหลผ่านตัวอย่างช้า ๆ สายน้ำที่ค่อย ๆ ไหลผ่านร่างกายจะช่วยลดอุณหภูมิความเครียดในตัวคุณ และยังได้ประโยชน์คูณสองหากคุณอาบน้ำอุ่น เพราะคุณจะรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย ทำให้หลับสนิท ไม่ต้องนอนก่ายหน้าผากคิดไม่ตกกับเรื่องที่เจอมาระหว่างวัน
หรือถ้าบ้านใครมีอ่างอาบน้ำด้วย ก็ลงไปแช่ทั้งตัวเลยค่ะ แล้วหยดน้ำมันหอมระเหยลงไปในอ่างอาบน้ำ ให้กลิ่นหอม ๆ ช่วยทำให้คุณรู้สึกผ่อนคลาย จนลืมเรื่องเครียดไปได้เลย
ตอนเด็ก ๆ คุณแม่อาจเคยสอนให้เราสวดมนต์ก่อนนอน ซึ่งตอนนั้นก็ทำตามแต่โดยดีอย่างไม่คิดอะไร พอโตขึ้นก็เลิกทำไป วันนี้เราขอแนะนำให้คุณกลับไปสวดมนต์ก่อนเข้านอนอีกครั้ง หรือจะนั่งสมาธิสักครู่ก็ได้ค่ะ ทั้งการสวดมนต์และนั่งสมาธิสัก 10-15 นาทีขึ้นไป จะช่วยหยุดความกังวลของสมอง ร่างกายจะหลั่งสารเซโรโทนินออกมา เราจะรู้สึกนิ่งสงบ ผ่อนคลายอารมณ์ และทำให้นอนหลับได้ดีขึ้นด้วย
กอดคนข้างกาย
จะบอกให้ว่าการสัมผัสด้วยการกอดเป็นวิธีผ่อนคลายความเครียดที่ทำง่ายและได้ผลจริง เพราะในการกอดแต่ละครั้งนั้น ร่างกายจะเกิดกระบวนการต่าง ๆ เช่น หัวใจเต้นรัวขึ้น เลือดลมสูบฉีด รู้สึกอารมณ์ดี ทำให้หัวสมองนึกถึงแต่เรื่องดี ๆ มีพลังฮึกเหิมขึ้นมากจากการให้กำลังใจของคนที่เรารัก
นอกจากนี้การกอดยังช่วยกระตุ้นให้สมองหลั่งสารโดปามีน หรือสารแห่งความสุขออกมามากขึ้น รวมถึงเอ็นดอร์ฟิน (Endorphin) และเซโรโทนิน (Serotonin) ทำให้เรารู้สึกมีความสุข พึงพอใจ รู้สึกยินดี จนลืมความทุกข์ไปเลยเชียวล่ะ
บางครั้งเราไม่สามารถหนีปัญหาได้ แต่การหยุดให้ร่างกายได้พักจากปัญหาเหล่านั้นบ้าง ก็จะช่วยให้ประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้ผลดีขึ้นเหมือนกันนะคะ