วิธีเตรียมตัวเตรียมใจกลับมาทำงานหลังจากหยุดพักผ่อนยาว ๆ ไป ปลุกตัวเองให้คึกคักพร้อมลุยงานอย่างเต็มที่อีกครั้งแบบสุดชิล
เพิ่งกลับมาจากเที่ยวกันมายาว
ๆ หลายคนก็รู้สึกเหมือนยังเพลียไม่หาย
พูดให้ตรงก็ต้องบอกว่าไม่พร้อมจะทำงานอย่างจริงจังเลยล่ะ
แต่ในเมื่องานไม่เดินเงินก็ไม่เข้ากระเป๋า
จะทำยังไงดีให้พลังฮึดอยากทำงานกลับมากันล่ะ เอ้า ! ลองวิธีเหล่านี้สิจ๊ะ
เชื่อเลยว่าตลอดวันหยุดที่ผ่านมาคุณเที่ยวแบบหามรุ่งหามค่ำ
จัดหนักทั้งอาหารการกินและของมึนเมาไม่ยั้ง
ดังนั้นไม่ต้องสงสัยแล้วล่ะหากรู้สึกอ่อนเปลี้ยเพลียแรงในวันหยุดสุดท้ายก่อนกลับไปสู่โลกแห่งความเป็นจริง
ซึ่งวิธีแก้ไขในเบื้องต้นก็ไม่มีอะไรยากค่ะ เพียงนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
หากเป็นไปได้เข้านอนก่อน 23.00 น. จะดีกับร่างกายมาก
อย่างน้อยก็ลดอาการอ่อนเพลียจากที่ใช้ร่างกายสุดคุ้มมาหลายวัน
ตื่นเช้ามาออกกำลังกาย
การออกกำลังกายในช่วงรุ่งเช้าช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นหลายเท่าเลยนะคะ ไม่เชื่อลองตื่นเช้ามาวิ่งจ๊อกกิ้งสักครึ่งชั่วโมงสิ แล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของร่างกายที่รู้สึกสดชื่นขึ้น เหมือนพร้อมแล้วที่จะออกไปลุยงาน ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามภาระหน้าที่ ชีวิตดี๊ดีกว่าตอนที่ตื่นสายแล้วต้องรีบทำธุระส่วนตัวแข่งกับเวลาเป็นไหน ๆ
จัดเต็มอาหารเช้า
กองทัพต้องเดินด้วยท้องฉันใด
ร่างกายเราก็ต้องการอาหารเช้าเพื่อไปเติมเต็มการทำงานของส่วนต่าง ๆ
ในร่างกายด้วยเช่นกัน ดังนั้นก่อนกลับไปสู่โลกแห่งการทำงานตามเดิม
ควรต้องจัดเต็มมื้อเช้าไปให้พร้อม
อิ่มท้องแล้วจะได้ลุยงานได้เต็มที่ยังไงล่ะ
เคลียร์โต๊ะทำงาน
ก่อนเคลียร์งานกองโต
แนะนำให้จัดการกับสถานที่ทำงานของคุณให้เรียบร้อยก่อน
ทั้งฝุ่นและกองขยะที่ทิ้งค้างไว้ตั้งแต่อาทิตย์ก่อนก็ทำความสะอาดให้เรียบร้อย
หรือหากมีเวลามากพอจะจัดโต๊ะทำงานใหม่ก็คงเติมความสดชื่นให้การทำงานได้ไม่น้อยเลย
ไล่เรียงตารางงาน
หยุดพักไปตั้งหลายวันอาจมีบ้างที่หลง ๆ ลืม ๆ ว่าเราค้างงานอะไรเอาไว้
ดังนั้นกลับมาทำงานวันแรกก็เริ่มเช็กทั้งอีเมล เช็กกับลูกค้า หัวหน้างาน
และฝ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน หน้าที่การงานจะได้ไม่ตกหล่นนะจ๊ะ
เลิกซะเถอะนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง
"เอาน่า พรุ่งนี้ก็ทัน" ใครติดนิสัยชอบพูดประโยคนี้บอกเลยว่าชีวิตคุณคงวุ่นวายไม่หาย โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องงานทุกอย่างก็คงไม่ราบรื่นพาให้ไม่อยากทำงานไปซะเปล่า ๆ ถ้าอย่างนั้นจะดีกว่าไหมหากคุณเลิกเลื่อนวันผัดเวลา แล้วลงมือทำในสิ่งที่ต้องทำอย่างเต็มที่ที่สุด เชื่อไหมว่าแค่นี้อารมณ์ทำงานก็มาเต็มแล้ว
ถึงเวลาพักก็พักให้เต็มที่
เวลาทำงานก็ทำงานให้เต็มที่ แต่ถึงเวลาพักเมื่อไรให้หยุดงานทุกอย่างลงทันที แล้วจับกลุ่มเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันเมาท์ถึงวันหยุดที่เพิ่งผ่านไป เรียกคืนบรรยากาศคึกคักเบียดความตึงเครียดจากงานในออฟฟิศให้เกลี้ยง ถือซะว่าเป็นช่วงเวลาได้ปลดปล่อยอีกหน่อยก่อนกลับไปทำงานต่อในช่วงบ่าย
ปล่อยให้ความสนุกสนานในช่วงวันหยุดผ่านพ้นไป แล้วกลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินกันต่อด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ดูนะคะ เชื่อเถอะว่าชีวิตจะดีขึ้นจริง ๆ
นอนให้พอ
ตื่นเช้ามาออกกำลังกาย
การออกกำลังกายในช่วงรุ่งเช้าช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่ามากขึ้นหลายเท่าเลยนะคะ ไม่เชื่อลองตื่นเช้ามาวิ่งจ๊อกกิ้งสักครึ่งชั่วโมงสิ แล้วคุณจะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของร่างกายที่รู้สึกสดชื่นขึ้น เหมือนพร้อมแล้วที่จะออกไปลุยงาน ไปทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามภาระหน้าที่ ชีวิตดี๊ดีกว่าตอนที่ตื่นสายแล้วต้องรีบทำธุระส่วนตัวแข่งกับเวลาเป็นไหน ๆ
จัดเต็มอาหารเช้า
เคลียร์โต๊ะทำงาน
เลิกซะเถอะนิสัยผัดวันประกันพรุ่ง
"เอาน่า พรุ่งนี้ก็ทัน" ใครติดนิสัยชอบพูดประโยคนี้บอกเลยว่าชีวิตคุณคงวุ่นวายไม่หาย โดยเฉพาะถ้าเป็นเรื่องงานทุกอย่างก็คงไม่ราบรื่นพาให้ไม่อยากทำงานไปซะเปล่า ๆ ถ้าอย่างนั้นจะดีกว่าไหมหากคุณเลิกเลื่อนวันผัดเวลา แล้วลงมือทำในสิ่งที่ต้องทำอย่างเต็มที่ที่สุด เชื่อไหมว่าแค่นี้อารมณ์ทำงานก็มาเต็มแล้ว
ถึงเวลาพักก็พักให้เต็มที่
เวลาทำงานก็ทำงานให้เต็มที่ แต่ถึงเวลาพักเมื่อไรให้หยุดงานทุกอย่างลงทันที แล้วจับกลุ่มเพื่อนร่วมงานที่สนิทกันเมาท์ถึงวันหยุดที่เพิ่งผ่านไป เรียกคืนบรรยากาศคึกคักเบียดความตึงเครียดจากงานในออฟฟิศให้เกลี้ยง ถือซะว่าเป็นช่วงเวลาได้ปลดปล่อยอีกหน่อยก่อนกลับไปทำงานต่อในช่วงบ่าย
ปล่อยให้ความสนุกสนานในช่วงวันหยุดผ่านพ้นไป แล้วกลับมาตั้งหน้าตั้งตาทำมาหากินกันต่อด้วยเคล็ดลับเหล่านี้ดูนะคะ เชื่อเถอะว่าชีวิตจะดีขึ้นจริง ๆ