19 อาหารที่ลดอาการอักเสบ กินแล้วเหล่าอาการอักเสบที่เป็นอยู่จะบรรเทาเบาบางลง แถมไม่ต้องเป็นกังวลเรื่องสารเคมีหรืออาการแพ้จากยาเลยสักนิด
อาการอักเสบสามารถเกิดขึ้นกับร่างกายของเราได้แทบทุกส่วน
และเชื่อว่าบางคนต้องเจ็บป่วยด้วยอาการอักเสบมาแทบนับครั้งไม่ถ้วน
ซึ่งแต่ละครั้งที่เกิดอาการก็คงเลือกที่จะรักษาด้วยตัวยาชนิดใดชนิดหนึ่งใช่ไหมคะ
แต่วันนี้หากไม่อยากเสี่ยงแพ้ยาหรือไม่ต้องการให้สารตกค้างจากยาอยู่ในร่างกายอีกต่อไปแล้ว
เราก็มีตัวเลือกเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ 19 อย่างที่ช่วยลดอาการอักเสบได้ชะงัด อิ่มอร่อยแถมบรรเทาอาการอักเสบต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในร่างกายได้ชิล ๆ
แครอท
ผักชนิดหัวสีส้มสดใสชนิดนี้มีแบต้าแคโรทีนสูงมาก อีกทั้งยังมีสารที่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานแก่ร่างกาย มีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อ ซึ่งจะออกฤทธิ์ในการรักษาไข้หวัด ไอ เจ็บคอ ปอดอักเสบ ลดการอักเสบและบวมได้
ขิง
ขิงมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อที่คล้ายคลึงกับยาต้านอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDS) ซึ่งกลไกการออกฤทธิ์นี้ทั้งช่วยบรรเทาอาการปวด และลดการอักเสบติดเชื้อในร่างกายได้ชะงัดนัก โดยไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ให้ต้องกังวลเลย โดยคุณสามารถนำขิงสดมาต้มแล้วดื่มหรือจะเลือกรับคุณประโยชน์จากขิงด้วยชาขิงก็เข้าท่าไม่เบา
ชาคาโมมายล์
ดอกคาโมมายล์มีสารเทอร์ฟีนอยด์ (Terpenoids) และไอโซฟลาโวนอยด์ (Isoflavonoids) ซึ่งช่วยต้านการอักเสบ โดยเฉพาะอาการอักเสบที่เกิดกับข้อต่อของร่างกาย ดังนั้นใครไม่ค่อยปลื้มกลิ่นและรสของขิงจะเลือกจิบชาคาโมมายล์ก็ได้ค่ะ
กรดไขมันโอเมก้า
กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันชนิดดีที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับ มีคุณสมบัติช่วยต้านอาการอักเสบและการติดเชื้อ อีกทั้งยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำงานของสมอง โดยสามารถเลือกกินอาหารประเภทปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาสวาย ปลาช่อน หรือจะเป็นผลไม้อย่างอะโวคาโด เพื่อรับโอเมก้า 3 มาบรรเทาอาการอักเสบและติดเชื้อของร่างกายก็แล้วแต่ชอบเลย
พริกป่น
พริกป่นมีดีอยู่ที่ “แคปไซซิน” ซึ่งไม่เพียงแต่ให้รสชาติเผ็ดร้อนเท่านั้น ทว่าสารแคปไซซินยังมีคุณสมบัติลดอาการอักเสบ แถมมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ที่สำคัญความเผ็ดร้อนของพริกป่นยังสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญได้เป็นอย่างดีเชียวล่ะ
อบเชย
ชื่อเสียงดังกระฉ่อนในเรื่องช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน ทว่าการวิจัยยังค้นพบเพิ่มเติมว่า อบเชยมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและลดอาการอักเสบร่วมด้วย นอกจากนี้อบเชยยังช่วยป้องกันไม่ให้หลอดเลือดอุดตัน ส่งผลให้หัวใจแข็งแรง แถมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าโพลีฟีนอล ซึ่งมีประโยชน์ต่อหัวใจ และไฟเบอร์ก็สูง สามารถช่วยลดอาการกรดไหลย้อนได้อีกต่างหาก
กานพลู
สารเคมีชื่อว่า "ยูจีนอล" ในกานพลูเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยต้านอาการอักเสบ โดยทำหน้าที่ยับยั้งโปรตีน COX-2 ซึ่งเป็นโปรตีนที่ไปกระตุ้นอาการอักเสบ และเมื่อรวมกับน้ำมันภายในกานพลูซึ่งมีฤทธิ์ในการต่อสู้กับแบคทีเรีย เราจึงสามารถนำกานพลูมารักษาอาการปวดฟันได้ด้วย โดยอมกานพลูไว้ในปากจนกานพลูเริ่มนิ่มจึงค่อย ๆ เคี้ยวกานพลูช้า ๆ เพื่อคั้นน้ำมันในกานพลูออกมาบรรเทาอาการอักเสบและอาการปวดฟันให้หายชะงัด
ขมิ้นชัน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัตเกอร์สในรัฐนิวเจอร์ซีย์พบว่า สารเคอร์คูมิน สารเคมีที่ทำให้เกิดสีเหลืองในขมิ้นชันมีความเชื่อมโยงกับการลดการอักเสบและลดอาการของโรคสะเก็ดเงิน อีกทั้งขมิ้นชันยังมีคุณสมบัติช่วยต้านมะเร็งได้เป็นอันดับต้น ๆ โดยสามารถช่วยระงับการอักเสบที่ก่อให้เกิดการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้นั่นเอง
วาซาบิ
วาซาบิมีฤทธิ์ในการต่อต้านการอักเสบและต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด โดยการศึกษาทำให้นักวิจัยเชื่อว่า ประโยชน์ของวาซาบิสามารถช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคไขข้ออักเสบ โรคลำไส้อักเสบ โรคหัวใจวาย และภาวะช็อกจากพิษที่มาจากการติดเชื้อได้ และเมื่อทำการศึกษาเพิ่มเติมอีกก็พบว่า สาร 6-MITC ที่อยู่ในวาซาบิมีศักยภาพในการรักษาความแข็งแรงของหลอดเลือดและการอักเสบของหลอดเลือดได้ด้วย
ผักใบเขียว
ขึ้นชื่อว่าผักก็รู้เลยว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายแน่ ๆ โดยเฉพาะคุณสมบัติของคลอโรฟีล วิตามิน A และไฟเบอร์ในผักใบเขียวทุกชนิด ที่ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถลดอาการอักเสบของผิว ต้านสิว และลดริ้วรอยได้ไม่แพ้ครีมราคาแพงตามเคาน์เตอร์ห้างเลยล่ะ
ชาเขียวไร้คาเฟอีน (Decaf green tea)
ชาเขียวนับเป็นสุดยอดชาที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ดี ๆ ทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีฤทธิ์ต่อต้านสิวและการอักเสบได้ดีสุด ๆ ซึ่งถ้าอยากรับประโยชน์จากชาเขียวอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ควรเลือกดื่มชาเขียวชนิดไม่มีคาเฟอีน (Decaf green tea) และต้องดื่มชาเขียวแบบร้อนด้วยนะคะ
โฮลเกรน
ไฟเบอร์ในโฮลเกรนและธัญพืชส่วนใหญ่เป็นไฟเบอร์ชนิดที่สามารถลดระดับ CRP (C-reactive protein) หรือโปรตีนที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองอาการอักเสบที่เกิดขึ้น ดังนั้นก็แปลได้ว่า หากร่างกายมี CRP ที่น้อยลง อาการอักเสบก็จะเบาบางลงด้วยเช่นกัน แต่ที่สำคัญควรเลือกกินโฮลเกรนแท้ 100% ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลปะปนอยู่ด้วยนะ
ถั่วเปลือกแข็ง
ถั่วเปลือกแข็งอย่างอัลมอนด์อุดมไปด้วยแคลเซียม, ไฟเบอร์ และวิตามิน E ส่วนวอลนัทก็อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 อีกทั้งถั่วทุกชนิดยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ค่อนข้างสูง จึงสามารถรักษาเนื้อเยื่อและอวัยวะที่ถูกทำลายจากอาการติดเชื้อหรืออักเสบได้
ถั่วเหลือง
ผลการศึกษาจากสัตว์เมื่อปี 2007 ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารเพื่อสุขภาพ Journal of Inflammation เผยว่า ไอโซฟลาโวน (Isoflavones) และเอสโตรเจนที่ถูกค้นพบในถั่วเหลืองสามารถช่วยลดโปรตีน CRP ลงได้ แถมยังมีจุดเด่นในเรื่องช่วยลดอาการข้างเคียงจากการอักเสบที่เกิดกับกระดูกและหัวใจในหนูได้เป็นอย่างดี
โยเกิร์ตและนมไขมันต่ำ
ผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำมีแคลเซียมและโพรไบโอติกส์ที่สามารถลดอาการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแพทย์หญิงคาเรน เอช คอสเทนบาเดอร์ ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและไขข้อจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เผยว่า นอกจากสรรพคุณของนมไขมันต่ำจะช่วยบรรเทาอาการอักเสบแล้ว วิตามิน D, แคลเซียม และโปรตีนจากนมยังช่วยบำรุงกระดูก อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่จะลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งและความเสี่ยงต่าง ๆ ของร่างกายหลายอย่าง แต่ทั้งนี้ก็จะมีข้อยกเว้นสำหรับคนที่แพ้โปรตีนของนมอยู่บ้างนะคะ
มะเขือเทศ
มะเขือเทศเป็นผักฉ่ำน้ำที่อุดมไปด้วยไลโคปีน ซึ่งมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบได้ โดยเฉพาะจะช่วยบรรเทาอาการอักเสบของปอดได้มาก ดังนั้นใครสะดวกจะกินเป็นลูกสด ๆ หรือจะนำไปปั่นเป็นสมูธตี้เย็นชื่นใจก็แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ
กระเทียมและหอม
สมุนไพรอย่างกระเทียมและหอมมีสรรพคุณในการบรรเทาโรคที่ใกล้เคียงกับฤทธิ์ของยาต้านอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDS) มาก ๆ ที่สำคัญยังมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบที่เกิดจากสารเคมีและสารสังเคราะห์ที่ปะปนเข้ามาในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยนะ
น้ำมันมะกอก
การศึกษาจากประเทศสเปนเมื่อปี 2010 พบว่า น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยกรดไขมันชนิดดี และมีสรรพคุณในการรักษาโรคเทียบเท่ายาต้านอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDS) เช่นกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยบรรเทาอาการปวดและอาการอักเสบของร่างกายแล้ว น้ำมันมะกอกยังดีต่อสุขภาพหัวใจมากพอสมควรเลยด้วยล่ะ
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
ผลไม้แทบทุกชนิดจะมีคุณสมบัติต่อต้านอาการอักเสบด้วยเหตุผลที่ว่ามีไขมันต่ำและมีสารต้านอนุมูลอิสระ ทว่าเรื่องต้านอาการอักเสบโดยตรงต้องยกให้ผลไม้ตระกูลเบอร์รีค่ะ เนื่องจากไม่เพียงแต่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเท่านั้น แต่ยังพกสารแอนโทไซยานินมาด้วย จึงมีประสิทธิภาพในการต้านเชื้ออักเสบที่เริดเว่อร์
ทั้งนี้ผลการศึกษาก็แยกมาให้ชัดเลยค่ะว่า เบอร์รีสีแดงจะช่วยลดอาการอักเสบของข้อและกระดูก บลูเบอร์รีช่วยป้องกันการอักเสบของลำไส้ ส่วนสตรอว์เบอร์รีดีกับสาว ๆ ที่มีระดับ CRP สูง เพราะสตรอว์เบอร์รีช่วยลดระดับโปรตีนชนิดนี้ได้ดีมาก
อาการอักเสบที่มักจะเกิดขึ้นกับร่างกายของเราจะบรรเทาเบาบางและหายไปในที่สุดด้วยอาหารทั้งหมดนี้นี่ล่ะค่ะ แต่ก็อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้ลองพิสูจน์ด้วยตัวเองนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Reader’s digest
Health
แครอท
ผักชนิดหัวสีส้มสดใสชนิดนี้มีแบต้าแคโรทีนสูงมาก อีกทั้งยังมีสารที่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานแก่ร่างกาย มีคุณสมบัติเป็นยาฆ่าเชื้อ ซึ่งจะออกฤทธิ์ในการรักษาไข้หวัด ไอ เจ็บคอ ปอดอักเสบ ลดการอักเสบและบวมได้
ขิง
ขิงมีฤทธิ์ช่วยบรรเทาอาการปวดข้อที่คล้ายคลึงกับยาต้านอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDS) ซึ่งกลไกการออกฤทธิ์นี้ทั้งช่วยบรรเทาอาการปวด และลดการอักเสบติดเชื้อในร่างกายได้ชะงัดนัก โดยไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ ให้ต้องกังวลเลย โดยคุณสามารถนำขิงสดมาต้มแล้วดื่มหรือจะเลือกรับคุณประโยชน์จากขิงด้วยชาขิงก็เข้าท่าไม่เบา
ชาคาโมมายล์
ดอกคาโมมายล์มีสารเทอร์ฟีนอยด์ (Terpenoids) และไอโซฟลาโวนอยด์ (Isoflavonoids) ซึ่งช่วยต้านการอักเสบ โดยเฉพาะอาการอักเสบที่เกิดกับข้อต่อของร่างกาย ดังนั้นใครไม่ค่อยปลื้มกลิ่นและรสของขิงจะเลือกจิบชาคาโมมายล์ก็ได้ค่ะ
กรดไขมันโอเมก้า
กรดไขมันโอเมก้า 3 เป็นกรดไขมันชนิดดีที่ร่างกายจำเป็นต้องได้รับ มีคุณสมบัติช่วยต้านอาการอักเสบและการติดเชื้อ อีกทั้งยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในการทำงานของสมอง โดยสามารถเลือกกินอาหารประเภทปลา เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาสวาย ปลาช่อน หรือจะเป็นผลไม้อย่างอะโวคาโด เพื่อรับโอเมก้า 3 มาบรรเทาอาการอักเสบและติดเชื้อของร่างกายก็แล้วแต่ชอบเลย
พริกป่น
พริกป่นมีดีอยู่ที่ “แคปไซซิน” ซึ่งไม่เพียงแต่ให้รสชาติเผ็ดร้อนเท่านั้น ทว่าสารแคปไซซินยังมีคุณสมบัติลดอาการอักเสบ แถมมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ที่สำคัญความเผ็ดร้อนของพริกป่นยังสามารถช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญได้เป็นอย่างดีเชียวล่ะ
อบเชย
ชื่อเสียงดังกระฉ่อนในเรื่องช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวาน ทว่าการวิจัยยังค้นพบเพิ่มเติมว่า อบเชยมีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียและลดอาการอักเสบร่วมด้วย นอกจากนี้อบเชยยังช่วยป้องกันไม่ให้หลอดเลือดอุดตัน ส่งผลให้หัวใจแข็งแรง แถมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าโพลีฟีนอล ซึ่งมีประโยชน์ต่อหัวใจ และไฟเบอร์ก็สูง สามารถช่วยลดอาการกรดไหลย้อนได้อีกต่างหาก
กานพลู
สารเคมีชื่อว่า "ยูจีนอล" ในกานพลูเป็นอาวุธสำคัญที่ช่วยต้านอาการอักเสบ โดยทำหน้าที่ยับยั้งโปรตีน COX-2 ซึ่งเป็นโปรตีนที่ไปกระตุ้นอาการอักเสบ และเมื่อรวมกับน้ำมันภายในกานพลูซึ่งมีฤทธิ์ในการต่อสู้กับแบคทีเรีย เราจึงสามารถนำกานพลูมารักษาอาการปวดฟันได้ด้วย โดยอมกานพลูไว้ในปากจนกานพลูเริ่มนิ่มจึงค่อย ๆ เคี้ยวกานพลูช้า ๆ เพื่อคั้นน้ำมันในกานพลูออกมาบรรเทาอาการอักเสบและอาการปวดฟันให้หายชะงัด
ขมิ้นชัน
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยรัตเกอร์สในรัฐนิวเจอร์ซีย์พบว่า สารเคอร์คูมิน สารเคมีที่ทำให้เกิดสีเหลืองในขมิ้นชันมีความเชื่อมโยงกับการลดการอักเสบและลดอาการของโรคสะเก็ดเงิน อีกทั้งขมิ้นชันยังมีคุณสมบัติช่วยต้านมะเร็งได้เป็นอันดับต้น ๆ โดยสามารถช่วยระงับการอักเสบที่ก่อให้เกิดการเจริญเติบโตของเนื้องอกได้นั่นเอง
วาซาบิ
วาซาบิมีฤทธิ์ในการต่อต้านการอักเสบและต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด โดยการศึกษาทำให้นักวิจัยเชื่อว่า ประโยชน์ของวาซาบิสามารถช่วยรักษาโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคไขข้ออักเสบ โรคลำไส้อักเสบ โรคหัวใจวาย และภาวะช็อกจากพิษที่มาจากการติดเชื้อได้ และเมื่อทำการศึกษาเพิ่มเติมอีกก็พบว่า สาร 6-MITC ที่อยู่ในวาซาบิมีศักยภาพในการรักษาความแข็งแรงของหลอดเลือดและการอักเสบของหลอดเลือดได้ด้วย
ผักใบเขียว
ขึ้นชื่อว่าผักก็รู้เลยว่ามีประโยชน์ต่อร่างกายแน่ ๆ โดยเฉพาะคุณสมบัติของคลอโรฟีล วิตามิน A และไฟเบอร์ในผักใบเขียวทุกชนิด ที่ถูกพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถลดอาการอักเสบของผิว ต้านสิว และลดริ้วรอยได้ไม่แพ้ครีมราคาแพงตามเคาน์เตอร์ห้างเลยล่ะ
ชาเขียวไร้คาเฟอีน (Decaf green tea)
ชาเขียวนับเป็นสุดยอดชาที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ดี ๆ ทั้งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง มีฤทธิ์ต่อต้านสิวและการอักเสบได้ดีสุด ๆ ซึ่งถ้าอยากรับประโยชน์จากชาเขียวอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยก็ควรเลือกดื่มชาเขียวชนิดไม่มีคาเฟอีน (Decaf green tea) และต้องดื่มชาเขียวแบบร้อนด้วยนะคะ
โฮลเกรน
ไฟเบอร์ในโฮลเกรนและธัญพืชส่วนใหญ่เป็นไฟเบอร์ชนิดที่สามารถลดระดับ CRP (C-reactive protein) หรือโปรตีนที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อตอบสนองอาการอักเสบที่เกิดขึ้น ดังนั้นก็แปลได้ว่า หากร่างกายมี CRP ที่น้อยลง อาการอักเสบก็จะเบาบางลงด้วยเช่นกัน แต่ที่สำคัญควรเลือกกินโฮลเกรนแท้ 100% ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาลปะปนอยู่ด้วยนะ
ถั่วเปลือกแข็ง
ถั่วเปลือกแข็งอย่างอัลมอนด์อุดมไปด้วยแคลเซียม, ไฟเบอร์ และวิตามิน E ส่วนวอลนัทก็อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 อีกทั้งถั่วทุกชนิดยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ค่อนข้างสูง จึงสามารถรักษาเนื้อเยื่อและอวัยวะที่ถูกทำลายจากอาการติดเชื้อหรืออักเสบได้
ถั่วเหลือง
ผลการศึกษาจากสัตว์เมื่อปี 2007 ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสารเพื่อสุขภาพ Journal of Inflammation เผยว่า ไอโซฟลาโวน (Isoflavones) และเอสโตรเจนที่ถูกค้นพบในถั่วเหลืองสามารถช่วยลดโปรตีน CRP ลงได้ แถมยังมีจุดเด่นในเรื่องช่วยลดอาการข้างเคียงจากการอักเสบที่เกิดกับกระดูกและหัวใจในหนูได้เป็นอย่างดี
โยเกิร์ตและนมไขมันต่ำ
ผลิตภัณฑ์จากนมไขมันต่ำมีแคลเซียมและโพรไบโอติกส์ที่สามารถลดอาการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยแพทย์หญิงคาเรน เอช คอสเทนบาเดอร์ ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและไขข้อจากคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เผยว่า นอกจากสรรพคุณของนมไขมันต่ำจะช่วยบรรเทาอาการอักเสบแล้ว วิตามิน D, แคลเซียม และโปรตีนจากนมยังช่วยบำรุงกระดูก อีกทั้งยังมีความเป็นไปได้ที่จะลดโอกาสเกิดโรคมะเร็งและความเสี่ยงต่าง ๆ ของร่างกายหลายอย่าง แต่ทั้งนี้ก็จะมีข้อยกเว้นสำหรับคนที่แพ้โปรตีนของนมอยู่บ้างนะคะ
มะเขือเทศ
มะเขือเทศเป็นผักฉ่ำน้ำที่อุดมไปด้วยไลโคปีน ซึ่งมีส่วนช่วยลดอาการอักเสบได้ โดยเฉพาะจะช่วยบรรเทาอาการอักเสบของปอดได้มาก ดังนั้นใครสะดวกจะกินเป็นลูกสด ๆ หรือจะนำไปปั่นเป็นสมูธตี้เย็นชื่นใจก็แล้วแต่ความชอบเลยค่ะ
กระเทียมและหอม
สมุนไพรอย่างกระเทียมและหอมมีสรรพคุณในการบรรเทาโรคที่ใกล้เคียงกับฤทธิ์ของยาต้านอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDS) มาก ๆ ที่สำคัญยังมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบที่เกิดจากสารเคมีและสารสังเคราะห์ที่ปะปนเข้ามาในร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยนะ
น้ำมันมะกอก
การศึกษาจากประเทศสเปนเมื่อปี 2010 พบว่า น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยกรดไขมันชนิดดี และมีสรรพคุณในการรักษาโรคเทียบเท่ายาต้านอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDS) เช่นกัน ซึ่งนอกจากจะช่วยบรรเทาอาการปวดและอาการอักเสบของร่างกายแล้ว น้ำมันมะกอกยังดีต่อสุขภาพหัวใจมากพอสมควรเลยด้วยล่ะ
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
ผลไม้แทบทุกชนิดจะมีคุณสมบัติต่อต้านอาการอักเสบด้วยเหตุผลที่ว่ามีไขมันต่ำและมีสารต้านอนุมูลอิสระ ทว่าเรื่องต้านอาการอักเสบโดยตรงต้องยกให้ผลไม้ตระกูลเบอร์รีค่ะ เนื่องจากไม่เพียงแต่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงเท่านั้น แต่ยังพกสารแอนโทไซยานินมาด้วย จึงมีประสิทธิภาพในการต้านเชื้ออักเสบที่เริดเว่อร์
ทั้งนี้ผลการศึกษาก็แยกมาให้ชัดเลยค่ะว่า เบอร์รีสีแดงจะช่วยลดอาการอักเสบของข้อและกระดูก บลูเบอร์รีช่วยป้องกันการอักเสบของลำไส้ ส่วนสตรอว์เบอร์รีดีกับสาว ๆ ที่มีระดับ CRP สูง เพราะสตรอว์เบอร์รีช่วยลดระดับโปรตีนชนิดนี้ได้ดีมาก
อาการอักเสบที่มักจะเกิดขึ้นกับร่างกายของเราจะบรรเทาเบาบางและหายไปในที่สุดด้วยอาหารทั้งหมดนี้นี่ล่ะค่ะ แต่ก็อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าจะได้ลองพิสูจน์ด้วยตัวเองนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Reader’s digest
Health