ประโยชน์ของน้ำลูกเดือยหรือแค่ลูกเดือยเพียว ๆ ก็มีสรรพคุณที่ดีต่อสุขภาพหลายอย่าง ทั้งช่วยลดน้ำหนัก บำรุงตับ ป้องกันมะเร็ง และอื่น ๆ ที่คนจีนต้องยกให้ลูกเดือยเป็นยาอายุวัฒนะ
ประโยชน์ของลูกเดือยมีอะไรบ้าง เห็นหลายคนพูดถึงน้ำลูกเดือยจนแทบจะติดแฮชแท็กฮิตกันอยู่แล้ว
หรือบางทีก็เหลือบไปเห็นเมนูเพื่อสุขภาพหลายอย่างจะมีลูกเดือยร่วมเป็นหนึ่งในส่วนประกอบด้วย
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เรารู้สึกคันไม้คันมือจนต้องนำเอาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องประโยชน์ของน้ำลูกเดือยและประโยชน์ของลูกเดือยในด้านต่าง
ๆ มาบอกต่อกันตรงนี้
ลูกเดือยเป็นธัญพืชประเภทเดียวกับข้าว ดังนั้นลูกเดือยจึงเป็นธัญพืชที่มีคาร์โบไฮเดรตหรือแป้งผสมอยู่ ลักษณะของลูกเดือยจะเป็นเม็ดกลมรี มีสีขาว ขนาดเม็ดเล็ก ๆ รสชาติจืดและออกมันเล็กน้อย ที่สำคัญลูกเดือยยังเป็นธัญพืชพื้นเมืองของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้บ้านเรา ดังนั้นสามารถหาลูกเดือยกินได้ไม่ยากเลยล่ะค่ะ
ลูกเดือย สรรพคุณเจ๋งแค่ไหนกัน
ก่อนจะไปรู้สรรพคุณของลูกเดือยกัน เรามาดูคุณค่าทางสารอาหารของลูกเดือยตามที่เว็บไซต์ usda.gov ของกระทรวงเกษตรฯ สหรัฐฯ ระบุไว้กันก่อน แล้วจะไม่รู้สึกแปลกใจเลยว่าลูกเดือยทำไมถึงขึ้นชื่อว่า ยาอายุวัฒนะสำหรับแพทย์แผนจีน
ลูกเดือยปริมาณ 100 กรัม ประกอบด้วย…
- ส่วนประกอบของน้ำ 8.67 มิลลิลิตร
- ให้พลังงาน 378 กิโลแคลอรี
- โปรตีน 11.02 กรัม
- ไขมันทั้งหมด 4.22 กรัม
- คาร์โบไฮเดรต 72.85 กรัม
- ไฟเบอร์ (จากทั้งหมดที่ร่างกายควรได้รับ) 8.5 กรัม
- แคลเซียม 8 มิลลิกรัม
- ธาตุเหล็ก 3.01 มิลลิกรัม
- แมกนีเซียม 114 มิลลิกรัม
- ฟอสฟอรัส 285 มิลลิกรัม
- โพแทสเซียม 195 มิลลิกรัม
- โซเดียม 5 มิลลิกรัม
- สังกะสี 1.68 มิลลิกรัม
- ไทอามิน 0.421 มิลลิกรัม
- ไรโบฟาวิน (วิตามินบี-2) 0.290 มิลลิกรัม
- ไนอาซิน 4.720 มิลลิกรัม
- วิตามิน B6 0.384 มิลลิกรัม
- โฟเลท 85 ไมโครกรัม
- วิตามิน E 0.05 มิลลิกรัม
- วิตามิน K 0.9 ไมโครกรัม
- กรดไขมันอิ่มตัว 0.723 กรัม
- กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 0.773 กรัม
- กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงคู่ 2.134 กรัม
- คอเลสเตอรอล 0 มิลลกรัม
ประโยชน์ของลูกเดือย ที่ต้องรู้ไว้เลย
ลูกเดือยมีฤทธิ์เป็นยาเย็นช่วยบำรุงกำลัง บำรุงปอด ตับ ไต ม้าม มีสรรพคุณทางด้านขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้ไข้ แก้ท้องเสีย หล่อลื่นกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้ปัญหาทางเดินหายใจ ไขข้อกระดูก บรรเทาอาการเหน็บชา แก้ชักกระตุก ลดอาการบวมน้ำ รักษาอาการปอดอ่อนแอและเป็นเลือด รักษาฝีที่ลำไส้ แก้ร้อนในกระหายน้ำ
อีกทั้งยังมีสารคอกซีโนไลด์ (Coxenolide) ซึ่งมีสรรพคุณในการยับยั้งการเกิดเนื้องอก จึงเชื่อว่าลูกเดือยมีความสามารถในการลดความเสี่ยงโรคมะเร็งได้ และสำหรับผู้หญิง ลูกเดือยยังช่วยแก้อาการตกขาวได้ดี อีกทั้งกรดอะมิโนต่าง ๆ ในลูกเดือยยังช่วยกระตุ้นการทำงานของเมลาโทนิน ทำให้หลับสบายมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหลายคนจึงนิยมดื่มน้ำลูกเดือยเพื่อแก้ปัญหานอนไม่หลับด้วยค่ะ
สรรพคุณลูกเดือยช่วยบำรุงไต
เนื่องจากลูกเดือยมีฤทธิ์บำรุงตับและไตได้ แถมยังช่วยขับปัสสาวะได้ดี ดังนั้นหากกินลูกเดือยเป็นประจำ ไตก็จะทำงานเป็นปกติ อีกทั้งเมื่อเราปัสสาวะได้อย่างเหมาะสม ไม่ติดขัด ก็จะไม่มีสิ่งใดตกค้างอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ ไตก็ไม่จำต้องทำงานหนักจนเหนื่อย
เมนูลูกเดือยน่าหม่ำสุด ๆ
ได้รู้ประโยชน์ของลูกเดือยกันแล้ว คราวนี้เรามาลองทำเมนูลูกเดือยกันดีกว่าค่ะ ลูกเดือยเม็ดกลม ๆ จะนำไปประกอบเป็นเมนูอะไรได้บ้าง ดูได้ตามนี้
น้ำลูกเดือยและประโยชน์ที่ต้องลิ้มลอง
ลูกเดือยเป็นธัญพืชประเภทคาร์โบไฮเดรต เวลานำเม็ดมาคั้นเป็นน้ำจึงได้ความเข้มข้นและความมันอยู่ในตัว ซึ่งนอกจากความอร่อยแล้ว ลูกเดือยยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อการทำงานของสมองและฮอร์โมนเมลาโทนิน เมื่อดื่มน้ำลูกเดือยอุ่น ๆ จึงช่วยให้นอนหลับสบายขึ้นนั่นเอง
นอกจากนี้รากหรือเมล็ดเดือยยังมีฤทธิ์ทำให้การหมุนเวียนของเลือดที่ผิวหนังดีขึ้น จึงทำให้เส้นผมงอกงามดีด้วยนะคะ
วิธีทำน้ำลูกเดือย
เตรียมส่วนผสม
- ลูกเดือยแห้ง 100 กรัม
- ธัญพืช (ตามชอบ) เช่น งาขาว, เม็ดบัว, ถั่วอัลมอนด์
- น้ำเปล่า 6 ถ้วย
- น้ำตาลทราย (ความหวานตามชอบ) ลูกเดือยแห้ง 100 กรัม
- ธัญพืช (ตามชอบ) เช่น งาขาว, เม็ดบัว, ถั่วอัลมอนด์
วิธีทำ
- แช่ลูกเดือยในน้ำทิ้งไว้อย่างน้อย 1 คืน จนลูกเดือยเริ่มนิ่มขึ้น สะเด็ดน้ำ เตรียมไว้
- ใส่ลูกเดือย ธัญพืช และน้ำ 3 ถ้วยลงในเครื่องปั่น จากนั้นปั่นจนส่วนผสมละเอียดเข้ากัน แล้วนำไปกรองเอาเฉพาะน้ำ (หรือถ้าใครชอบแบบเข้มข้นไม่ต้องกรองก็ได้)
- เทส่วนผสมที่กรองแล้วใส่ลงหม้อ นำขึ้นตั้งไฟอ่อน ๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป (ปริมาณตามต้องการ) คนผสมไปเรื่อย ๆ จนน้ำตาลทรายละลาย และส่วนผสมเดือด ปิดไฟ (หรือนำไปต้มในหม้อหุงข้าวก็ได้ตามสะดวก) จากนั้นวางพักไว้จนเย็น ตักใส่ถ้วย พร้อมดื่ม
ทั้งนี้ใครที่ยังไม่คุ้นชินกับรสชาติของน้ำลูกเดือย จะเลือกดื่มน้ำสมุนไพรหรือน้ำเต้าหู้ผสมลูกเดือยก็ได้เช่นกันค่ะ
นมลูกเดือย
อย่าลืมว่าลูกเดือยแอบมีโปรตีนและแคลเซียมอยู่ไม่น้อย ฉะนั้นจึงสามารถนำลูกเดือยมาคั้นแบบเข้มข้นและผสมน้ำผึ้งดื่มให้กลายเป็นนมลูกเดือยผสมน้ำผึ้งได้ หรือจะนำลูกเดือย กล้วยหอม โยเกิร์ต นมสด และน้ำเชื่อม ปั่นจนเนื้อเนียนละเอียด เทใส่แก้ว ก็จะกลายเป็นสมูทตี้ลูกเดือยนมสด พร้อมดื่มทันที
ข้าวต้มลูกเดือย
คุณสมบัติที่เป็นธัญพืชประเภทเดียวกับข้าว โดยมีคาร์โบไฮเดรตผสมอยู่เราจึงสามารถนำลูกเดือยมาต้มเป็นข้าวต้มลูกเดือยได้สบาย ๆ กินแล้วให้พลังงานสูง ไฟเบอร์สูง คาร์โบไฮเดรตต่ำ และปราศจากแคลอรี จึงช่วยให้อิ่มเบาสบายท้อง กลายเป็นเมนูสุขภาพที่น่าลิ้มลอง อีกทั้งยังแก้ปัญหาระบบขับถ่ายที่ฝืดเคืองได้อีกต่างหาก
เปียกลูกเดือย
ไม่เพียงแต่อาหารคาวและเมนูเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ลูกเดือยยังนำมาทำเป็นขนมหวานอย่างเมนูเปียกลูกเดือยได้ด้วยนะคะ โดยนำลูกเดือยแห้งไปแช่น้ำจนนิ่ม แล้วต้มให้พอได้ที่ ใส่กะทิ และปรุงรสด้วยน้ำตาลกับเกลือ โดยอาจจะผสมถั่วเหลือง มะพร้าว ข้าวโพดลงไปเพิ่มความอร่อยและคุณค่าทางสารอาหารด้วยก็ได้
กินลูกเดือยแล้วอ้วนไหม
หลายคนกังวลว่ากินลูกเดือยแล้วจะอ้วน เนื่องจากลูกเดือยมีลักษณะคล้าย ๆ ข้าว แถมเมื่อรู้ว่ามีคาร์โบไฮเดรตผสมอยู่ด้วยคงน่าจะกังวลเรื่องอ้วนกันไปใหญ่ ซึ่งจริง ๆ แล้วต้องบอกว่าอย่าเพิ่งเข้าใจลูกเดือยผิดดีกว่า เพราะแม้ลูกเดือยจะมีคาร์โบไฮเดรต แต่ก็มีเพียงแค่ 72.85 กรัมต่อลูกเดือย 100 กรัมเท่านั้น ในขณะที่ให้พลังงานได้ตั้ง 378 กิโลแคลอรี พกพาไฟเบอร์มาอีก 8.5 กรัม ที่สำคัญคอเรสเตอรอลเป็น 0 ! ฉะนั้นการันตีได้เลยว่าลูกเดือยไม่ทำให้อ้วนแน่นอน อีกทั้งเผลอ ๆ กินลูกเดือยแทนข้าวยังจะช่วยคุณลดน้ำหนักได้อีกด้วยนะ
ลูกเดือยพกพาประโยชน์จัดเต็มมาขนาดนี้ ใครที่ยังไม่เคยลิ้มลองลูกเดือยเลยสักครั้งในชีวิต น่าจะเปลี่ยนใจมาชิมลูกเดือยสักเมนู เริ่มแรกอาจจะลองกินน้ำเต้าหู้ใส่ลูกเดือยหรือเปียกลูกเดือยชิมลางไปก่อนก็ได้ เห็นไหมคะว่าลูกเดือยช่วยเรื่องสุขภาพได้แค่ไหน ไม่ลองแล้วจะเสียใจนะเอ้า
ขอบคุณข้อมูลจาก
womanplus
สมุนไพรดอทคอม
ธัญพืชพลังธรรมชาติ