อาการคันปากมดลูกถือเป็นโรคที่น่ารำคาญสำหรับผู้หญิง ว่าแต่โรคนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร และมีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง มาหาคำตอบกันเลยค่ะ
จะมีอาการคันบริเวณแถว ๆ ปากมดลูกหรือปากช่องคลอด และอาจจะมีตกขาวสีขุ่น ๆ มากผิดปกติร่วมด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วปัญหานี้มักจะเกิดได้ง่ายจากการอับชื้น ทั้งนี้สามารถรักษาได้โดยการรับประทานยา หรือสอดยาฆ่าเชื้อราเข้าไปในช่องคลอด
ผ้าอนามัยบางยี่ห้ออาจจะไม่ถูกกับสาว ๆ บางคน ทำให้เกิดอาการแพ้ขึ้นมาได้ ซึ่งอาการแพ้นี้ส่วนใหญ่มักจะมีผดผื่นขึ้นมาบริเวณอวัยวะเพศร่วมกับมีอาการคันบริเวณปากมดลูก ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนไปใช้ผ้าอนามัยยี่ห้ออื่น และควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ เมื่อมีประจำเดือน
เป็นการอักเสบจากเชื้อรา อาจเกิดขึ้นได้จากการกินยาคุมกำเนิดหรือกินยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน การสวนล้างช่องคลอด หรือการตั้งครรภ์ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เชื้อราเจริญเติบโตมากขึ้นทำให้ปากมดลูกเกิดการอักเสบ โดยจะมีผื่นคันขึ้นมาและจะรู้สึกคันบริเวณปากมดลูกอย่างมาก มีตกขาวขุ่น ๆ บางรายอาจจะมีอาการปวดแสบเวลาปัสสาวะ หรือเจ็บปวดในขณะที่มีการร่วมเพศด้วย
เช่น โรคแคนดิดา เชื้อราชนิดหนึ่งที่จะทำให้ปากมดลูกเกิดอาการคันได้อย่างรุนแรง โดยเชื้อราชนิดนี้มีชื่อว่า "ส่าเทียม" หากมีการติดเชื้อที่อวัยวะเพศจะมีการตกขาวมาก และอวัยวะเพศจะมีการอักเสบ ส่งผลให้มีอาการคันอย่างมากตามมา ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการใช้ยาเหน็บฆ่าเชื้อบริเวณช่องคลอด
สำหรับคนที่เป็นโรคนี้จะมีการคันตามผิวหนัง มีการติดเชื้อรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณช่องคลอดของผู้หญิง ซึ่งอาจจะทำให้มีอาการคันได้
เมื่อรู้สาเหตุที่อาจทำให้คุณเกิดอาการคันในบริเวณที่ลับกันไปแล้ว ทั้งนี้ก็อาจจะยังชี้ชัดไม่ได้ว่าอาการของคุณนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ ทั้งนี้ถ้าอยากจะให้แน่ใจและอยากจะหายจากอาการคัน กระปุกดอทคอมขอแนะนำให้คุณสาว ๆ ไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการตรวจเช็กจะดีที่สุด เพื่อที่จะได้ทำการรักษาให้ตรงจุด และอาการคันนั้นจะได้หายเร็วขึ้นยังไงล่ะคะ
โรคที่น่ารำคาญโรคหนึ่งสำหรับผู้หญิง หนึ่งในนั้นก็คือ
การคันในที่ลับ
ซึ่งเวลาอยู่ในที่สาธารณะจะเป็นสิ่งที่น่ารำคาญและสร้างความกังวลใจให้กับสาว
ๆ ได้อย่างมาก เนื่องจากไม่สามารถที่จะเกาในส่วนนั้นต่อหน้าผู้อื่นได้
ซึ่งโรคนี้ถือว่าเป็นโรคที่พบได้บ่อย ๆ ในผู้หญิง บางรายอาจมีอาการคันมาก
บางรายอาจมีอาการคันน้อย หรือบางรายก็อาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย
ซึ่งทั้งหมดนี้จะมีสาเหตุมาจากอะไร
และเป็นสัญญาณเตือนของโรคอะไรได้บ้างนั้น
วันนี้กระปุกดอทคอมมีข้อมูลมาให้สาว ๆ ได้ศึกษากันแล้วค่ะ
อาการคันปากมดลูก อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังต่อไปนี้
มีเชื้อราในช่องคลอด
จะมีอาการคันบริเวณแถว ๆ ปากมดลูกหรือปากช่องคลอด และอาจจะมีตกขาวสีขุ่น ๆ มากผิดปกติร่วมด้วย โดยส่วนใหญ่แล้วปัญหานี้มักจะเกิดได้ง่ายจากการอับชื้น ทั้งนี้สามารถรักษาได้โดยการรับประทานยา หรือสอดยาฆ่าเชื้อราเข้าไปในช่องคลอด
แพ้ผ้าอนามัย
ผ้าอนามัยบางยี่ห้ออาจจะไม่ถูกกับสาว ๆ บางคน ทำให้เกิดอาการแพ้ขึ้นมาได้ ซึ่งอาการแพ้นี้ส่วนใหญ่มักจะมีผดผื่นขึ้นมาบริเวณอวัยวะเพศร่วมกับมีอาการคันบริเวณปากมดลูก ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการเปลี่ยนไปใช้ผ้าอนามัยยี่ห้ออื่น และควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ เมื่อมีประจำเดือน
ช่องคลอดอักเสบ
เป็นการอักเสบจากเชื้อรา อาจเกิดขึ้นได้จากการกินยาคุมกำเนิดหรือกินยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน การสวนล้างช่องคลอด หรือการตั้งครรภ์ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เชื้อราเจริญเติบโตมากขึ้นทำให้ปากมดลูกเกิดการอักเสบ โดยจะมีผื่นคันขึ้นมาและจะรู้สึกคันบริเวณปากมดลูกอย่างมาก มีตกขาวขุ่น ๆ บางรายอาจจะมีอาการปวดแสบเวลาปัสสาวะ หรือเจ็บปวดในขณะที่มีการร่วมเพศด้วย
ติดเชื้อจากความสัมพันธ์ทางเพศ
เช่น โรคแคนดิดา เชื้อราชนิดหนึ่งที่จะทำให้ปากมดลูกเกิดอาการคันได้อย่างรุนแรง โดยเชื้อราชนิดนี้มีชื่อว่า "ส่าเทียม" หากมีการติดเชื้อที่อวัยวะเพศจะมีการตกขาวมาก และอวัยวะเพศจะมีการอักเสบ ส่งผลให้มีอาการคันอย่างมากตามมา ซึ่งสามารถรักษาได้โดยการใช้ยาเหน็บฆ่าเชื้อบริเวณช่องคลอด
ติดเชื้อทริโคโมแนส
เชื้อทริโคโมแนส
ถือเป็นอีกโรคหนึ่งที่เกิดได้จากการมีความสัมพันธ์ทางเพศ
ลักษณะอาการจะมีตกขาวสีเขียว และมีกลิ่นเหม็น พร้อม ๆ
กับมีอาการคันที่รุนแรงมาก บางรายอาจจะถึงขั้นเจ็บปวดอวัยวะเพศร่วมด้วย
สามารถรักษาได้โดยการรับประทานยาฆ่าเชื้อปรสิต
แต่ทั้งนี้เมื่อหายแล้วก็อาจเป็นได้อีก
ดังนั้นจึงควรมีการรักษาฝ่ายชายร่วมด้วย
เป็นโรคเบาหวาน
สำหรับคนที่เป็นโรคนี้จะมีการคันตามผิวหนัง มีการติดเชื้อรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณช่องคลอดของผู้หญิง ซึ่งอาจจะทำให้มีอาการคันได้
เมื่อรู้สาเหตุที่อาจทำให้คุณเกิดอาการคันในบริเวณที่ลับกันไปแล้ว ทั้งนี้ก็อาจจะยังชี้ชัดไม่ได้ว่าอาการของคุณนั้นเกิดจากอะไรกันแน่ ทั้งนี้ถ้าอยากจะให้แน่ใจและอยากจะหายจากอาการคัน กระปุกดอทคอมขอแนะนำให้คุณสาว ๆ ไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อทำการตรวจเช็กจะดีที่สุด เพื่อที่จะได้ทำการรักษาให้ตรงจุด และอาการคันนั้นจะได้หายเร็วขึ้นยังไงล่ะคะ