กลิ่นเต่าเหม็น ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิง อย่าปล่อยให้กลิ่นเต่าเหม็นจนทำให้เสียบุคลิก มาจัดการด้วยสารพัดวิธีกำจัดกลิ่นต่อไปนี้กันดีกว่า รับรองเอาอยู่ !
สาว ๆ คนไหนที่มีปัญหากลิ่นเต่ากลิ่นตัวที่แก้ไม่ตก ชนิดที่เรียกได้ว่าโรลออน น้ำหอม ก็เอาไม่อยู่ หรือเหงื่อออกทีไรก็เป็นต้องมีกลิ่นตามมาทุกครั้งจนทำให้เสียบุคลิกและเสียความมั่นใจตลอดเวลาที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับคนอื่น หากใครที่กำลังมีปัญหาแบบนี้ วันนี้กระปุกดอทคอมมีทางออกด้วยการนำสารพัดวิธีจัดการกลิ่นเต่าเจ้าปัญหาให้อยู่หมัดมาฝากกันค่ะ หากใครที่ไม่อยากให้คนอื่นต้องมาล้อเลียนว่าเป็นผู้หญิงที่มีกลิ่นเต่าเหม็นอีกต่อไป รีบมาจัดการด้วยวิธีต่อไปนี้กันเลย
อาบน้ำเป็นประจำทุกเช้า-เย็น
การอาบน้ำชำระล้างร่างกายและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งที่สาว ๆ ควรจะต้องทำเป็นประจำไม่ให้ขาด เพราะทุกวันนี้เวลาออกจากบ้านเราต้องเจอกับฝุ่นละออง ควันเหม็น ๆ รวมทั้งเหงื่อไคลต่าง ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้มีกลิ่นเต่ากลิ่นตัวได้ทั้งสิ้น ดังนั้น การอาบน้ำจะช่วยทำให้ร่างกายสะอาดและหอมสดชื่น และจะช่วยลดกลิ่นเต่าได้ แต่ทั้งนี้ควรอาบน้ำด้วยสบู่ที่มีสารยับยั้งเชื้อแบคทีเรียโดยตรงด้วยจะช่วยแก้ปัญหาได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
ใช้โรลออนหรือสารส้มทารักแร้
ทุกครั้งหลังอาบน้ำเสร็จ สิ่งที่สาว ๆ จะต้องไม่ลืมก็คือใช้โรลออนทุกครั้ง แต่ทั้งนี้สำหรับใครที่ใช้โรลออนแล้วเอาไม่อยู่ แนะนำให้ใช้สารส้มแทนค่ะ ซึ่งวิธีนี้คนสมัยก่อนใช้ดับกลิ่นตัวได้ผลดีกันนักล่ะ แถมยังจะช่วยทำให้รักแร้ขาวขึ้นได้อีกด้วย
ใช้มะนาวทารักแร้
วันว่าง ๆ ให้นำมะนาวสด ๆ มาฝานเป็นแว่น ๆ จากนั้นให้นำมาทาถูเบา ๆ ตรงบริเวณรักแร้ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก วิธีนี้จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นเต่า ซึ่งสาว ๆ สามารถทำได้บ่อย ๆ เท่าที่ต้องการ
จัดการกลิ่นเต่าติดเสื้อด้วยน้ำมะนาว
หากเสื้อของใครมีกลิ่นเต่าติดอยู่ สามารถจัดการได้ด้วยน้ำมะนาวค่ะ โดยให้บีบน้ำมะนาวใส่ในถ้วย นำแปรงมาชุบแล้วนำไปถูแขนเสื้อบริเวณใต้วงแขน เสร็จแล้วทิ้งไว้สักประมาณ 10 นาที ก่อนนำไปซัก วิธีนี้จะช่วยดับกลิ่นเต่าติดเสื้อให้หายไปได้
งดอาหารบางชนิด
การรับประทานอาหารก็มีส่วนทำให้เรามีกลิ่นเต่าได้นะคะสาว ๆ โดยเฉพาะอาหารจำพวกเครื่องเทศ และอาหารที่มีสารโคลีนสูง อย่างเช่น แกงกะหรี่ หัวหอม กระเทียม เต้าเจี้ยว ผักชี เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้ต่อมเหงื่อบริเวณใต้วงแขนขับไขมันออกมามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีกลิ่นตัวออกมานั่นเอง ดังนั้น ทางที่ดีควรเลี่ยงอาหารจำพวกนี้จะดีที่สุดค่ะ
โกนขนรักแร้เป็นประจำ
เพราะขนรักแร้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นเต่า ดังนั้น การโกนขนหรือถอนขนรักแร้เป็นประจำก็สามารถช่วยลดกลิ่นได้ค่ะ
โบท็อกซ์
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีกลิ่นตัวแรงจนลองมาสารพัดวิธีแล้วก็ยังแก้ไม่หาย แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการฉีดโบท็อกซ์ค่ะ เพราะวิธีนี้ถือเป็นวิธีรักษากลิ่นเต่าโดยตรง และได้ผลดีเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเช่นกันค่ะ
หมดปัญหากลิ่นเต่ากวนใจ คุณก็จะกลายเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจมากขึ้น ดังนั้นอย่ารอช้ากันอยู่เลยค่ะ รีบมาจัดการกลิ่นเต่าตัวปัญหาให้หมดไปกันดีกว่า รับรองเลยว่าวิธีเหล่านี้แหละเอาอยู่แน่นอน
สาว ๆ คนไหนที่มีปัญหากลิ่นเต่ากลิ่นตัวที่แก้ไม่ตก ชนิดที่เรียกได้ว่าโรลออน น้ำหอม ก็เอาไม่อยู่ หรือเหงื่อออกทีไรก็เป็นต้องมีกลิ่นตามมาทุกครั้งจนทำให้เสียบุคลิกและเสียความมั่นใจตลอดเวลาที่ต้องอยู่ใกล้ชิดกับคนอื่น หากใครที่กำลังมีปัญหาแบบนี้ วันนี้กระปุกดอทคอมมีทางออกด้วยการนำสารพัดวิธีจัดการกลิ่นเต่าเจ้าปัญหาให้อยู่หมัดมาฝากกันค่ะ หากใครที่ไม่อยากให้คนอื่นต้องมาล้อเลียนว่าเป็นผู้หญิงที่มีกลิ่นเต่าเหม็นอีกต่อไป รีบมาจัดการด้วยวิธีต่อไปนี้กันเลย
การอาบน้ำชำระล้างร่างกายและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ถือเป็นสิ่งที่สาว ๆ ควรจะต้องทำเป็นประจำไม่ให้ขาด เพราะทุกวันนี้เวลาออกจากบ้านเราต้องเจอกับฝุ่นละออง ควันเหม็น ๆ รวมทั้งเหงื่อไคลต่าง ๆ ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้มีกลิ่นเต่ากลิ่นตัวได้ทั้งสิ้น ดังนั้น การอาบน้ำจะช่วยทำให้ร่างกายสะอาดและหอมสดชื่น และจะช่วยลดกลิ่นเต่าได้ แต่ทั้งนี้ควรอาบน้ำด้วยสบู่ที่มีสารยับยั้งเชื้อแบคทีเรียโดยตรงด้วยจะช่วยแก้ปัญหาได้ดียิ่งขึ้นค่ะ
ใช้โรลออนหรือสารส้มทารักแร้
ทุกครั้งหลังอาบน้ำเสร็จ สิ่งที่สาว ๆ จะต้องไม่ลืมก็คือใช้โรลออนทุกครั้ง แต่ทั้งนี้สำหรับใครที่ใช้โรลออนแล้วเอาไม่อยู่ แนะนำให้ใช้สารส้มแทนค่ะ ซึ่งวิธีนี้คนสมัยก่อนใช้ดับกลิ่นตัวได้ผลดีกันนักล่ะ แถมยังจะช่วยทำให้รักแร้ขาวขึ้นได้อีกด้วย
วันว่าง ๆ ให้นำมะนาวสด ๆ มาฝานเป็นแว่น ๆ จากนั้นให้นำมาทาถูเบา ๆ ตรงบริเวณรักแร้ ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที แล้วล้างออก วิธีนี้จะช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียอันเป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นเต่า ซึ่งสาว ๆ สามารถทำได้บ่อย ๆ เท่าที่ต้องการ
หากเสื้อของใครมีกลิ่นเต่าติดอยู่ สามารถจัดการได้ด้วยน้ำมะนาวค่ะ โดยให้บีบน้ำมะนาวใส่ในถ้วย นำแปรงมาชุบแล้วนำไปถูแขนเสื้อบริเวณใต้วงแขน เสร็จแล้วทิ้งไว้สักประมาณ 10 นาที ก่อนนำไปซัก วิธีนี้จะช่วยดับกลิ่นเต่าติดเสื้อให้หายไปได้
งดอาหารบางชนิด
การรับประทานอาหารก็มีส่วนทำให้เรามีกลิ่นเต่าได้นะคะสาว ๆ โดยเฉพาะอาหารจำพวกเครื่องเทศ และอาหารที่มีสารโคลีนสูง อย่างเช่น แกงกะหรี่ หัวหอม กระเทียม เต้าเจี้ยว ผักชี เป็นต้น เพราะอาหารเหล่านี้จะทำให้ต่อมเหงื่อบริเวณใต้วงแขนขับไขมันออกมามากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้มีกลิ่นตัวออกมานั่นเอง ดังนั้น ทางที่ดีควรเลี่ยงอาหารจำพวกนี้จะดีที่สุดค่ะ
โกนขนรักแร้เป็นประจำ
เพราะขนรักแร้เป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นเต่า ดังนั้น การโกนขนหรือถอนขนรักแร้เป็นประจำก็สามารถช่วยลดกลิ่นได้ค่ะ
โบท็อกซ์
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่มีกลิ่นตัวแรงจนลองมาสารพัดวิธีแล้วก็ยังแก้ไม่หาย แนะนำให้ไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการฉีดโบท็อกซ์ค่ะ เพราะวิธีนี้ถือเป็นวิธีรักษากลิ่นเต่าโดยตรง และได้ผลดีเลยทีเดียว แต่ทั้งนี้ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเช่นกันค่ะ
หมดปัญหากลิ่นเต่ากวนใจ คุณก็จะกลายเป็นผู้หญิงที่มีความมั่นใจมากขึ้น ดังนั้นอย่ารอช้ากันอยู่เลยค่ะ รีบมาจัดการกลิ่นเต่าตัวปัญหาให้หมดไปกันดีกว่า รับรองเลยว่าวิธีเหล่านี้แหละเอาอยู่แน่นอน