ตกขาวสีเหลือง อาการนี้ผิดปกติหรือไม่ และสาเหตุมาจากอะไร วันนี้กระปุกดอทคอมมีข้อมูลพร้อมวิธีรักษาอาการตกขาวมาบอกคุณสาว ๆ กันแล้วค่ะ
อาการตกขาว เป็นเรื่องใกล้ตัวของผู้หญิงทุกคนที่ต้องเคยเจอ
ซึ่งอาการตกขาวนี้มีทั้งแบบที่เป็นปกติและไม่ปกติ
สำหรับตกขาวปกตินั้นจะมีลักษณะสีขาวขุ่นคล้ายแป้งเปียก ไม่คัน
และไม่มีกลิ่น แต่ทั้งนี้คุณสาว ๆ
หลายคนอาจจะเคยเจอกับภาวะตกขาวที่ผิดปกติอยู่บ่อย ๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ "อาการตกขาวสีเหลือง" ซึ่งถือเป็นอาการตกขาวชนิดหนึ่งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้หญิงวัยเจริญพันธุ์
โดยจะมีทั้งแบบสีเหลืองเข้ม และแบบสีเหลืองใส ๆ
ซึ่งก็อาจจะมาจากหลายสาเหตุที่แตกต่างกันไป
ทั้งนี้จะเป็นเพราะอะไรได้บ้างนั้น ตามมาศึกษาข้อมูลกันเลยค่ะ
ติดเชื้อแบคทีเรีย
เกิดจากที่เชื้อแบคทีเรียเข้าไปในช่องคลอด ทำให้เกิดอาการตกขาวที่มีสีเหลืองขุ่นและมีกลิ่นคาวปลา บางรายอาจจะมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งสาเหตุนี้ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการได้รับแบคทีเรียจากการที่มีเพศสัมพันธ์
ติดเชื้อจากโรคหนองใน
การติดเชื้อจากโรคหนองใน ถือเป็นการติดเชื้อจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะรุนแรงมากกว่าแบคทีเรียชนิดอื่น ๆ โดยจะมีอาการตกขาวสีเหลืองข้นมาก คัน และจะมีอาการปวดแสบขณะปัสสาวะร่วมด้วย
ติดเชื้อรา
สำหรับการตกขาวสีเหลืองที่เกิดจากเชื้อรา ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากสาเหตุการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน หรือมีภูมิต้านทานต่ำ ซึ่งตกขาวจะมีลักษณะสีเหลืองเป็นก้อน ๆ และมีกลิ่นคล้ายกับนมบูด บางรายเวลาปัสสาวะอาจจะมีอาการแสบคัน หรือถ้าหนักมาก ๆ ก็อาจจะมีอาการคันลามไปถึงบริเวณขาหนีบได้
ติดเชื้อไวรัส
สาเหตุนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่ติดต่อมาจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ ลักษณะอาการคือจะมีตกขาวสีเหลือง มีกลิ่นผิดปกติ และจะมีตุ่มใส ๆ ขนาดเล็ก หากแตกออกก็จะกลายเป็นแผลและแสบคัน
ติดเชื้อจากพยาธิในช่องคลอด
อาการตกขาวจากสาเหตุนี้ ลักษณะจะมีสีเหลืองแต่ไม่ข้นมาก บางครั้งจะเป็นฟอง มีอาการคัน และมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ส่วนใหญ่การติดเชื้อชนิดนี้จะเป็นโรคติดต่อมาจากการมีเพศสัมพันธ์ หรืออาจจะเกิดจากแผลที่เกิดจากสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในช่องคลอด เช่น ผ้าอนามัยแบบสอด หรืออุปกรณ์ทางเพศ เป็นต้น
วิธีรักษาและป้องกันอาการตกขาวสีเหลือง
- ไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อตรวจหาสาเหตุและวิธีรักษาที่ถูกต้อง วิธีนี้จะช่วยให้หายได้เร็วที่สุด
- ใช้ยาเหน็บช่องคลอดหรือกินยาปฏิชีวนะ จะทำให้อาการตกขาวหายเร็วขึ้น ทั้งนี้ก่อนใช้ยาเหน็บหรือรับประทานยา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเสียก่อน
- รับประทานยาคูลท์เป็นประจำ จะช่วยเพิ่มจุลินทรีย์แลคโตบาซิลัสให้กับร่างกาย ซึ่งจะช่วยทำลายแบคทีเรียในช่องคลอดได้
- ล้างจุดซ่อนเร้นให้สะอาด และไม่ควรใช้สบู่ล้างบ่อย ๆ เพราะสบู่จะไปฆ่าแบคทีเรียชนิดดีออกไป ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
- ก่อนมีเพศสัมพันธ์ ควรล้างอวัยวะเพศให้สะอาดก่อนทุกครั้ง
- สวมกางเกงชั้นในที่สะอาด นุ่มสบาย และไม่อับชื้น
- เมื่อต้องใส่ผ้าอนามัยควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ
เมื่อรู้จักสาเหตุ วิธีป้องกัน และวิธีรักษาอาการตกขาวสีเหลืองเบื้องต้นกันไปแล้ว คราวนี้คุณสาว ๆ ก็คงหายสงสัยกันแล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่ทั้งนี้หากใครที่กำลังมีอาการเหล่านี้อยู่และยังไม่แน่ใจว่ามีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ หรือรักษาหลายวิธีแล้วแต่ก็ยังไม่หาย ทางที่ดีที่สุดควรไปปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมกับรักษาให้ถูกต้อง อาการตกขาวสีเหลืองจะหายได้เร็วและปลอดภัยสำหรับคุณสาว ๆ ที่สุดค่ะ
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตกขาวสีเหลือง ได้แก่
เกิดจากที่เชื้อแบคทีเรียเข้าไปในช่องคลอด ทำให้เกิดอาการตกขาวที่มีสีเหลืองขุ่นและมีกลิ่นคาวปลา บางรายอาจจะมีอาการคันร่วมด้วย ซึ่งสาเหตุนี้ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการได้รับแบคทีเรียจากการที่มีเพศสัมพันธ์
ติดเชื้อจากโรคหนองใน
การติดเชื้อจากโรคหนองใน ถือเป็นการติดเชื้อจากแบคทีเรียชนิดหนึ่งหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งจะรุนแรงมากกว่าแบคทีเรียชนิดอื่น ๆ โดยจะมีอาการตกขาวสีเหลืองข้นมาก คัน และจะมีอาการปวดแสบขณะปัสสาวะร่วมด้วย
ติดเชื้อรา
สำหรับการตกขาวสีเหลืองที่เกิดจากเชื้อรา ส่วนใหญ่มักจะเกิดจากสาเหตุการใช้ยาปฏิชีวนะเป็นเวลานาน หรือมีภูมิต้านทานต่ำ ซึ่งตกขาวจะมีลักษณะสีเหลืองเป็นก้อน ๆ และมีกลิ่นคล้ายกับนมบูด บางรายเวลาปัสสาวะอาจจะมีอาการแสบคัน หรือถ้าหนักมาก ๆ ก็อาจจะมีอาการคันลามไปถึงบริเวณขาหนีบได้
ติดเชื้อไวรัส
สาเหตุนี้เกิดจากเชื้อไวรัสที่ติดต่อมาจากการมีเพศสัมพันธ์กับผู้ที่มีเชื้อ ลักษณะอาการคือจะมีตกขาวสีเหลือง มีกลิ่นผิดปกติ และจะมีตุ่มใส ๆ ขนาดเล็ก หากแตกออกก็จะกลายเป็นแผลและแสบคัน
ติดเชื้อจากพยาธิในช่องคลอด
อาการตกขาวจากสาเหตุนี้ ลักษณะจะมีสีเหลืองแต่ไม่ข้นมาก บางครั้งจะเป็นฟอง มีอาการคัน และมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ส่วนใหญ่การติดเชื้อชนิดนี้จะเป็นโรคติดต่อมาจากการมีเพศสัมพันธ์ หรืออาจจะเกิดจากแผลที่เกิดจากสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในช่องคลอด เช่น ผ้าอนามัยแบบสอด หรืออุปกรณ์ทางเพศ เป็นต้น
วิธีรักษาและป้องกันอาการตกขาวสีเหลือง
- ไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อตรวจหาสาเหตุและวิธีรักษาที่ถูกต้อง วิธีนี้จะช่วยให้หายได้เร็วที่สุด
- ใช้ยาเหน็บช่องคลอดหรือกินยาปฏิชีวนะ จะทำให้อาการตกขาวหายเร็วขึ้น ทั้งนี้ก่อนใช้ยาเหน็บหรือรับประทานยา ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเสียก่อน
- รับประทานยาคูลท์เป็นประจำ จะช่วยเพิ่มจุลินทรีย์แลคโตบาซิลัสให้กับร่างกาย ซึ่งจะช่วยทำลายแบคทีเรียในช่องคลอดได้
- ล้างจุดซ่อนเร้นให้สะอาด และไม่ควรใช้สบู่ล้างบ่อย ๆ เพราะสบู่จะไปฆ่าแบคทีเรียชนิดดีออกไป ทำให้ติดเชื้อได้ง่าย
- ก่อนมีเพศสัมพันธ์ ควรล้างอวัยวะเพศให้สะอาดก่อนทุกครั้ง
- สวมกางเกงชั้นในที่สะอาด นุ่มสบาย และไม่อับชื้น
- เมื่อต้องใส่ผ้าอนามัยควรเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ
เมื่อรู้จักสาเหตุ วิธีป้องกัน และวิธีรักษาอาการตกขาวสีเหลืองเบื้องต้นกันไปแล้ว คราวนี้คุณสาว ๆ ก็คงหายสงสัยกันแล้วใช่ไหมล่ะคะ แต่ทั้งนี้หากใครที่กำลังมีอาการเหล่านี้อยู่และยังไม่แน่ใจว่ามีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ หรือรักษาหลายวิธีแล้วแต่ก็ยังไม่หาย ทางที่ดีที่สุดควรไปปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมกับรักษาให้ถูกต้อง อาการตกขาวสีเหลืองจะหายได้เร็วและปลอดภัยสำหรับคุณสาว ๆ ที่สุดค่ะ