อาหารคลีน อาหารลดน้ำหนัก อาหารเพื่อสุขภาพ... คุณก็สามารถทานอาหารแบบนี้ได้บ่อย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องควักเงินจ่ายจนกระเป๋าแห้ง ขอบอกว่าเด็ดมาก
ยุคนี้คำว่า "เพื่อสุขภาพ" เป็นอะไรที่มาแรงมาก ๆ ค่ะ เพราะคนไทยหันมาใส่ใจสุขภาพของตัวเองมากขึ้น เลยเกิดกระแสทานอาหารเพื่อสุขภาพอย่างที่เรียกว่า "อาหารคลีน" ตามกันมา แต่เอ๊ะ...หลายคนคงกำลังตั้งคำถามอยู่ในใจว่า การจะทานอาหารเพื่อสุขภาพแบบนี้ต้องมีเงินถุงเงินถังหรือเปล่า เพราะส่วนประกอบอาหารหรือเครื่องปรุงก็มีราคาสูงกว่าอาหารปกติอยู่พอตัวเชียว ใครคิดแบบนี้อยู่ คุณ สมาชิกหมายเลข 1738453 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็ขอตอบคำถามนี้ด้วยกระทู้ "กินอยู่อย่างเฮลธ์ตี้ แต่ใช้เงินไม่มาก ทำได้นะ !" ซึ่งคอนเฟิร์มว่าจริง ๆ แล้ว เราสามารถประหยัดแคลอรีพ่วงกับการประหยัดตังค์ได้ ใครว่าต้องจ่ายแพงเพื่อทานอาหารเฮลธ์ตี้ล่ะ ลองอ่านแล้วทำตามไอเดียดี ๆ ข้างล่างนี้ได้เลยค่ะ
ส่วนใครที่อยากได้สูตรเด็ดรวมทั้งทิปส์ดี ๆ เกี่ยวกับสุขภาพ ก็เข้าไปส่องเฟซบุ๊ก RawiBody กันต่อได้เลย เพราะยังมีบทความน่าสนใจอีกเพียบเลยค่ะ งานนี้ถูกใจคนรักสุขภาพแน่นอน
วันนี้จะมานำเสนอ การกินอยู่แบบเฮลธ์ตี้ คลีน ๆ ที่ไม่จำเป็นต้องแพงอย่างที่หลาย ๆ คนคิดกัน แต่เราสามารถกินอาหารเพื่อสุขภาพได้ โดยซื้อตามกำลังที่เรามีจ่าย ทำอาหารทานเองอุ่นใจด้วย เพราะสะอาด รู้ว่าเราใส่อะไร และปรับให้เข้ากับเป้าหมายของเรา เช่น ลดน้ำหนักหรือเพิ่มน้ำหนัก
แต่ขอออกตัวไว้ก่อนว่าคำว่า "healthy" เนี่ย อาจไม่สุดโต่งถึงขั้นซื้อไก่ออแกนิกส์ ผักปลอดสารพิษ ปลาแซลมอนจากนอร์เวย์ที่ว่ายน้ำทวนคลื่น และมีไขมันโอเมก้า 3 ระดับท็อปคลาส ไข่ free range ที่แม่ไก่วิ่งหัวเราะเล่นมีความสุข หรือเนื้อสัตว์ไร้ฮอร์โมนต่าง ๆ นานา สุดจะบรรยาย เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะมีกำลังซื้อของพวกนั้นได้
เอาเป็นว่าแค่ทานอาหารแปรรูปให้น้อยที่สุด และในปริมาณที่เหมาะสม = นิยามคำว่า Healthy ของกระทู้นี้แล้วกันนะคะ เนื่องจาก จขกท. เป็นผู้หญิงร่าง (ไม่) บอบบาง (เท่าใดนัก) ปริมาณอาหารก็จะเป็นของผู้หญิง ซึ่งถ้าคุณเป็นผู้ชายก็คงต้องเพิ่มและจ่ายแพงกว่า ขึ้นอยู่กับว่าจะลดน้ำหนักหรือเพิ่ม หรือแค่อยากกินเฮลธ์ตี้
การช้อปครั้งนี้จะอยู่ได้ 1 อาทิตย์ คำนวณคร่าว ๆ ก็ประมาน 20 มื้อ บวก ลบ เพราะคงไม่มีใครทำกับข้าวทานเองทุกมื้อใช่มั้ยคะ มันต้องมีไปกินกับเพื่อนหรือครอบครัวบ้างสิ !
ขอแบ่งเป็นหมวดหมู่
1. เนื้อสัตว์ (โปรตีน) ประกอบไปด้วย ไก่และปลาเป็นหลัก (สามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ทุกอาทิตย์)
2. แป้ง (คาร์โบไฮเดรต) ได้แก่ ข้าว (ขัดสีหรือไม่ขัดสีก็ได้) และผลไม้
3. ผักหลากหลายชนิด สำหรับใยอาหารสุดแสนจะจำเป็น
เริ่มด้วยโปรตีน
* "ไก่" ราคาประมาณ 100 บาท/กก. ซื้อมาเลย 2 กก. ใช้ครั้งละประมาณ 150 กรัม สำหรับผู้หญิงอิ่มชัวร์
ก็จะได้ประมาณ 12 มื้อละ
* "ปลา" ปลานิลถูกมากกกก ทานมื้อละครึ่งตัว คงอยู่ท้องนะ เพราะกินกับอย่างอื่นด้วย ซื้อมา 4 ตัวก็จะได้ 8 มื้อเดี๊ยวจะบอกว่าเอาไปทำอะไรทานดี
ต่อมาเป็น แป้ง !
เราเลือกกิน "ข้าว" เพราะ มันธรรมชาติที่สุด มิหนำซ้ำยังถูกปากคนไทยมากที่สุด และถูกแสนถูก
ซื้อมาเลยถุงใหญ่ที่เขาขายกันทั่วไปเพราะคุ้มสุด จะเป็นข้าวขาวหรือข้าวไม่ขัดสีก็ได้ค่ะ เพราะตอนนี้ที่ศึกษาอยู่มีข้อน่าคิดจากนักวิทยาศาสตร์ ว่าที่จริงแล้วข้าวขาวอาจจะดีกว่าข้าวไม่ขัดสีในเรื่องของแบคทีเรียที่ใช้ย่อยในลำไส้ของเรา (แต่จะยังไม่ถกเถียงเรื่องนี้ 555)
* "ผลไม้" ใคร ๆ ก็รู้ว่าผลไม้มีประโยชน์ เพราะฉะนั้นเลือกมาเลยสัก 3 ชนิด และเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ทุกอาทิตย์เพื่อความหลากหลาย
"ผัก ๆๆๆ ใบเขียว"
เอาง่ายที่สุดแบบไม่ต้องผ่านการปรุงหรือกรรมวิธีใด ๆ ทั้งสิ้น ขอให้ท่านตรงไปที่สลัดบาร์ในซูเปอร์มาร์เกตค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ท็อปส์ของเซ็นทรัล กรูเม่ตามเดอะมอลล์ ฟู้ดแลนด์ หรือ Fuji supermarket สำหรับชาวกรุง ขีดละประมาณ 25 บาท ก็จัดมาเลยเอาตามความชอบกินผัก
TIPs :
1. เลือกแต่ผักสลัดที่เบา ๆ ผักใบเขียว ใบสีแดง อย่าไปตักพวกหนัก ๆ เช่น ฟักทองหรือมันฝรั่ง แค่นี้ก็ไม่แพงแล้วค่ะ ถูกกว่าซื้อเป็นห่อสำเร็จรูปเยอะ
2. เลือกใส่ถุง แทนใส่กล่อง เพราะเบากว่าและยังได้ช่วยลดโลกร้อนนิดหน่อย (คิดเข้าข้างตัวเอง) "มะเขือเทศ" ซื้อมาสัก 4-5 ลูก ไว้หั่นใส่สลัดเพื่อเพิ่มรสชาติ
1. เนื้อสัตว์ (โปรตีน) ประกอบไปด้วย ไก่และปลาเป็นหลัก (สามารถเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้ทุกอาทิตย์)
2. แป้ง (คาร์โบไฮเดรต) ได้แก่ ข้าว (ขัดสีหรือไม่ขัดสีก็ได้) และผลไม้
3. ผักหลากหลายชนิด สำหรับใยอาหารสุดแสนจะจำเป็น
เริ่มด้วยโปรตีน
* "ไก่" ราคาประมาณ 100 บาท/กก. ซื้อมาเลย 2 กก. ใช้ครั้งละประมาณ 150 กรัม สำหรับผู้หญิงอิ่มชัวร์
ก็จะได้ประมาณ 12 มื้อละ
* "ปลา" ปลานิลถูกมากกกก ทานมื้อละครึ่งตัว คงอยู่ท้องนะ เพราะกินกับอย่างอื่นด้วย ซื้อมา 4 ตัวก็จะได้ 8 มื้อเดี๊ยวจะบอกว่าเอาไปทำอะไรทานดี
ต่อมาเป็น แป้ง !
เราเลือกกิน "ข้าว" เพราะ มันธรรมชาติที่สุด มิหนำซ้ำยังถูกปากคนไทยมากที่สุด และถูกแสนถูก
ซื้อมาเลยถุงใหญ่ที่เขาขายกันทั่วไปเพราะคุ้มสุด จะเป็นข้าวขาวหรือข้าวไม่ขัดสีก็ได้ค่ะ เพราะตอนนี้ที่ศึกษาอยู่มีข้อน่าคิดจากนักวิทยาศาสตร์ ว่าที่จริงแล้วข้าวขาวอาจจะดีกว่าข้าวไม่ขัดสีในเรื่องของแบคทีเรียที่ใช้ย่อยในลำไส้ของเรา (แต่จะยังไม่ถกเถียงเรื่องนี้ 555)
* "ผลไม้" ใคร ๆ ก็รู้ว่าผลไม้มีประโยชน์ เพราะฉะนั้นเลือกมาเลยสัก 3 ชนิด และเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ทุกอาทิตย์เพื่อความหลากหลาย
"ผัก ๆๆๆ ใบเขียว"
เอาง่ายที่สุดแบบไม่ต้องผ่านการปรุงหรือกรรมวิธีใด ๆ ทั้งสิ้น ขอให้ท่านตรงไปที่สลัดบาร์ในซูเปอร์มาร์เกตค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ท็อปส์ของเซ็นทรัล กรูเม่ตามเดอะมอลล์ ฟู้ดแลนด์ หรือ Fuji supermarket สำหรับชาวกรุง ขีดละประมาณ 25 บาท ก็จัดมาเลยเอาตามความชอบกินผัก
TIPs :
1. เลือกแต่ผักสลัดที่เบา ๆ ผักใบเขียว ใบสีแดง อย่าไปตักพวกหนัก ๆ เช่น ฟักทองหรือมันฝรั่ง แค่นี้ก็ไม่แพงแล้วค่ะ ถูกกว่าซื้อเป็นห่อสำเร็จรูปเยอะ
2. เลือกใส่ถุง แทนใส่กล่อง เพราะเบากว่าและยังได้ช่วยลดโลกร้อนนิดหน่อย (คิดเข้าข้างตัวเอง) "มะเขือเทศ" ซื้อมาสัก 4-5 ลูก ไว้หั่นใส่สลัดเพื่อเพิ่มรสชาติ
แหล่งช้อป :
ใกล้อันไหน ไปอันนั้น Lotus & BigC - เนื้อสัตว์, ไข่ไก่, ผลไม้ Tops, Foodland, Fuji - สลัดบาร์ หรือ !จะไปตลาดสดก็ตามสะดวกเลยค่ะ
ท๊าด๊าาาา และแล้วก็มาถึงไอเดียว่าเราจะเอาอาหารที่เราซื้อมาทำอะไรรับประทานได้บ้าง มีไอเดียสำหรับ 9 มื้อซึ่งสามารถสลับกินได้ในหนึ่งอาทิตย์
Theme : คือ ง่าย ๆ ไม่ต้องปรุงแต่งมาก ประหยัดเวลา เอาเข้าเตาอบปุ๊บเสร็จ หรือลงกระทะปุ๊บ ตักขึ้นได้ทันทีไม่ต้องมานั่งรอตุ๋นกันเป็นชาติ เพราะเวลาของท่านมีค่า (จะได้ไปนั่งดูซีรีส์ต่อ --” hahaha)
แต่ก่อนจะทำอาหาร แน่นอนมันต้องมีเครื่องปรุงบ้างอะไรบ้าง ก็ลงทุนสักร้อยบาทนิด ๆ แต่อยู่ได้นานนนนน
* "สเปรย์น้ำมัน" อันนี้แพงหน่อยแต่ใช้ได้นาน ข้อดีคือประหยัดแคลอรี เช่น ปกติ ไข่ดาวทอดที่ใช้น้ำมัน มี 150 kcal แต่ถ้าใช้เจ้านี่ก็จะเหลือแค่ 70 kcal ลดไปเกินครึ่ง (สำหรับคนกำลังลดน้ำหนักมันมีความหมายนะ) แต่คนที่ไม่ได้จะลดน้ำหนักจะใช้น้ำมันปกติก็ได้ค่ะ
* "น้ำปลา หรือ ซีอิ๊ว" ชอบอันไหนก็เลือกอันนั้น แต่ถ้าเลือกไม่ได้ก็ซื้อมันเลยทั้งสองอัน เดี๋ยวนี้เขามีแบบ Low sodium แล้ว เหมาะสำหรับคนที่ความดันสูงน้ำหนักเกิน และคนที่ไม่ออกกำลังกาย เพราะคนออกกำลังก็จะต้องการโซเดียมมากกว่าคนทั่วไป อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่ใช้มากเกินไปก็ไม่มีปัญหาค่ะ
* "เกลือ" เพิ่มความกลมกล่อมให้อาหาร
* "กระเทียม" เผื่อจะผัดนู่นนี่ เพิ่มรสชาติ
* "พริก" สำหรับคนไทยเป็นอะไรที่ขาดบ่ด้าย
เครื่องครัวที่ต้องมีก็คือ
* เตา
* กระทะ + ตะหลิว
* หม้อ สำหรับต้ม (แต่ถ้าไม่ได้ทำแกงจืด ลวกเฉย ๆ ที่จริงแล้วใช้กระทะใส่น้ำก็ได้นะ)
* เตาอบ สำหรับคนที่อยู่คอนโดคนเดียวแนะนำให้ซื้อเตาอบแบบในรูป เพราะราคาย่อมเยาและสามารถอบ ย่างได้ทุกอย่าง ของคาว ของหวาน ข้อเสียคือมันเล็ก จึงใส่อาหารได้ไม่มากแค่นั้นเองค่ะ
มื้อแรก ปลาลวกหรืออบหรือย่าง แค่เอาเข้าเตาอบ 20 นาที แล้วไปอาบน้ำหรือทำอะไรก็ได้ เสร็จปุ๊บพร้อมทาน หรือจะแพ็กไปทานระหว่างวันก็เลิศ
ด้านขวาเป็นอกไก่นึ่ง ที่จะกินเปล่า ๆ คงจืด เลยไปขอซื้อน้ำจิ้มร้านข้าวมันไก่มาโรย อร่อยเลย (เน้นว่าไม่ได้คลีนสุดโต่ง สายกลาง ๆ นะคะ ชีวิตจะดี) แต่ถ้าใครแอดวานซ์ชอบกินกับซีอิ๊วหรือน้ำปลาก็สบ๊าย
อันนี้เป็นเมนูไข่ ๆๆๆ จะกินไข่ทีละหลาย ๆ ฟองก็ได้ไม่มีใครว่า คอเลสเตอรอลไม่ได้มาจากพวกไข่แดง หรืออาหารทะเลนะคะ มันมาจากแป้ง น้ำตาลและไลฟ์สไตล์การกินที่มากเกินไป เพราะฉะนั้นกินไข่ได้มีประโยชน์มาก ชอบแบบไหนก็เลือกแบบนั้น มีสเปรย์น้ำมันแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องแคลอรีด้วย ตักข้าวร้อน ๆ เหยาะซอส = ฟิน !
ต่อมาเป็นเมนูสลัดที่ทำให้เราทานผักได้เยอะขึ้น หรือสำหรับคนที่ลดแป้ง เพิ่มโปรตีนด้วยการทานกับไข่ต้ม หรือไก่ย่าง จะได้ความกลมกล่อมจากไก่ย่างที่หมักมาแล้วโดยไม่ต้องใช้สลัดเดรสซิ่งเพิ่ม (รอสูตรหมักไก่แพร้พส์)
สุดท้าย คือเมนูข้าวผัด หั่นกระเทียม ฉีดสเปรย์น้ำมัน ใส่ไข่ ผัดข้าว ปรุงรสตามชอบ จะเพิ่มไก่ด้วยก็แล้วแต่
ที่สำคัญอย่าลืมทานคู่กับผักนะคะ ใช้สเปรย์น้ำมันประหยัดแคลอรีไปได้ประมาณ 150-200 kcal ต่อจานเลยน้า
สรุปแล้ว เราจะใช้จ่ายค่าอาหารประมาณ 900 บาท +- ตกมื้อละ 45 บาทเอง อิ่มหนำ สุขภาพดี สบายกาย สบายใจ เย้
ใครถูกใจสูตรอาหารคลีนของคุณ สมาชิกหมายเลข 1738453 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ก็ลองไปทำทานกันดูเพื่อสุขภาพที่ดีได้เลย