น้ำอัดลมหวานซ่า รสชาติที่ถูกปากหลายต่อหลายคนมานาน จนบางทีอาจจะเรียกได้ว่าติดน้ำอัดลมจนเหมือนเป็นสารเสพติดชนิดหนึ่ง ซึ่งการที่เราติดน้ำอัดลมมากขนาดนี้ก็ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพอย่างไม่ต้องสืบ
ดังนั้นจะดีไหมหากเราจะเลิกดื่มน้ำอัดลมเป็นของขวัญให้สุขภาพตัวเราเอง เพราะรู้หรือไม่ว่า แค่เพียงคุณเลิกดื่มน้ำอัดลมได้ในวันนี้ ก็รับไปเลย 12 สิ่งดี ๆ ที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายเรา
1. ฟินกับรสชาติอาหารอื่น ๆ มากกว่าที่เคย
น้ำอัดลมอุดมไปด้วยปริมาณน้ำตาลมหาศาล และน้ำตาลเหล่านี้ยังให้ความหวานมากกว่าน้ำตาลตัวจริงถึง 400-8,000 เท่า ! ซึ่งความหวานเกินพิกัดเช่นนี้จะเข้าไปควบคุมต่อมรับรสหวานภายในสมอง สั่งการให้เราอยากกินอาหารรสหวาน หรือกินติดหวานมากขึ้นเรื่อย ๆ
อีกทั้งรสหวานที่กลั้วอยู่ในปากและลิ้น ก็จะทำให้ต่อมรับรสผิดเพี้ยนไป คราวนี้เวลากินอาหารรสชาติอื่น ๆ ก็จะไม่ได้รับรสที่แท้จริงของมัน ดังนั้นหากคุณเลิกดื่มน้ำอัดลมได้ ร่างกายก็จะค่อย ๆ ปรับสู่โหมดดั้งเดิม ทำให้รับรสชาติอาหารทุกจานได้ดีขึ้นนั่นเอง
2. ลดความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2
สถาบัน Diabetes Care ทำการวิจัยแล้วพบว่า ผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำทุกวันจะมีความเสี่ยงโรคเบาหวานชนิดที่ 2 เพิ่มขึ้นกว่าคนที่ไม่ได้ดื่มน้ำอัดลมราว ๆ 26% และแม้จะเลือกดื่มแต่น้ำอัดลมน้ำตาลน้อย หรือน้ำอัดลมชนิดปราศจากน้ำตาล ก็ไม่ได้ช่วยให้ความเสี่ยงลดลงแต่อย่างใด
นอกจากนี้การวิจัยยังพบด้วยว่า 2 ใน 3 ของผู้ที่ดื่มน้ำอัดลมก่อนมื้ออาหาร ร่างกายของเขาเหล่านี้จะกระตุ้นให้ตับอ่อนปล่อยอินซูลินออกมามากกว่าปกติ ส่งผลให้ยิ่งเสี่ยงต่อโรคเบาหวานชนิดที่ 2 มากขึ้นโดยไม่รู้ตัวด้วยนะ ดังนั้นเลิกติดน้ำอัดลมกันสักทีดีไหม
อยากลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วนก็ต้องงดเลยพวกน้ำอัดลมทั้งหลาย เพราะน้ำอัดลมขนาด 12 ออนซ์ที่ดื่มกันนั้นหิ้วมาทั้งน้ำตาล 39 กรัม พ่วงด้วยแคลอรีอีก 90 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว !
อ้อ ! และไม่ใช่แค่งดดื่มน้ำอัดลมอย่างเดียวนะคะ บรรดาชา กาแฟ หรือน้ำอะไรก็แล้วแต่ที่ไม่ใช่น้ำเปล่า ดื่มเข้าไปก็เพิ่มความอ้วนได้หมด
4. ไตจะดีขึ้น
ผลการศึกษาเมื่อปี 2013 ชี้ว่า เมื่อเราดื่มน้ำอัดลม ไตก็จะเสี่ยงต่อโรคมากขึ้นเท่านั้น อย่างน้อย ๆ ก็เสี่ยงต่อการตกตะกอนในไตจนอาจนำไปสู่โรคนิ่วในไตได้
ดังนั้นหากหยุดดื่มน้ำอัดลมได้เมื่อไร นั่นก็เปรียบเสมือนเราช่วยลดภาระให้ไตทำงานได้สะดวกขึ้น ลดความเสี่ยงต่อโรคไต และอาการไตล้มเหลว
5. สุขภาพหัวใจดีกว่าเดิม
ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดพบว่า น้ำอัดลมเป็นปัจจัยกระตุ้นความเสี่ยงโรคหัวใจล้มเหลว เนื่องจากการดื่มน้ำอัดลมจะทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น อีกทั้งปริมาณน้ำตาลและสารพัดสารในน้ำอัดลมยังอาจเพิ่มความเสี่ยงอื่น ๆ ต่อทั้งหลอดเลือดและหัวใจได้
น้ำตาลในน้ำอัดลมที่สูงปรี๊ดขนาดนั้น แน่นอนว่าต้องมีส่วนทำลายเคลือบฟันและบ่อนทำลายเนื้อฟันของเราไม่มากก็น้อย ซึ่งทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความถี่และปริมาณน้ำอัดลมที่ดื่มเป็นประจำด้วย
โดยหากติดน้ำอัดลมขั้นสุด ชนิดที่ต้องดื่มทุกวัน วันละหลายกระป๋อง แบบนี้รับรองเลยว่าเคลือบฟันของคุณน่าจะถูกครอบงำไปด้วยคราบน้ำตาลจากน้ำอัดลม จนทำให้ฟันเหลืองไปแล้วแน่ ๆ ฉะนั้นเพียงแค่เลิกดื่มน้ำอัดลมแล้วหันมาดื่มน้ำเปล่ามากขึ้น ฟันของคุณก็จะขาวขึ้นจากการที่คราบน้ำตาลหลุดจากเคลือบฟันไปทีละนิดละหน่อย
7. ฉลาดขึ้นด้วยนะ แค่เลิกดื่มน้ำอัดลม
แค่เลิกดื่มน้ำอัดลมก็ทำให้ฉลาดขึ้น ! เพราะการดื่มน้ำอัดลมต่อเนื่องยาวนานอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงกับการทำงานของสมองได้ ฉะนั้นเมื่อคุณเลิกดื่มน้ำอัดลม สมองก็เหมือนได้โมดิฟายด์ตัวเองใหม่ เส้นเลือดในสมองก็จะสะอาด ไหลเวียนเลือดและสารอาหารได้ดีขึ้น
อ้อ ! แล้วอย่าคิดว่าการเลี่ยงไปดื่มน้ำอัดลมประเภทปราศจากน้ำตาลจะช่วยให้หลุดพ้นจากความเสี่ยงสุขภาพได้นะคะ เพราะสารแอสปาร์แตมในน้ำอัดลมประเภทนี้จะไปป่วนสารเคมีในสมองและเส้นประสาท ชักนำให้เกิดอาการปวดศีรษะ อาการใจสั่น และโรคนอนไม่หลับได้
8. เข้าห้องน้ำน้อยครั้งลง
ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ คงไม่มีใครปลื้มกับมันมากนัก ซึ่งหากอยากตัดความรำคาญในจุดนี้ก็ควรเลิกดื่มน้ำอัดลมจะดีกว่า เพราะน้ำอัดลมก็มีฤทธิ์ขับปัสสาวะไม่ต่างจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลย
9. ภูมิต้านทานสตรองกว่าเดิม
นอกจากน้ำอัดลมจะมีสารที่ให้ความหวานแทนน้ำตาล ตัวบ่อนทำลายแบคทีเรียชนิดดีในลำไส้แล้ว ก็ยังแฝงไปด้วยน้ำตาลปริมาณที่เกินกว่าร่างกายจะเบิร์นไหว ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดเกินพิกัด เสี่ยงต่อโรคเบาหวาน มีโอกาสเป็นโรคอ้วนได้ง่าย เรียกได้ว่านำพาโรคมารุมเร้า แล้วอย่างนี้ภูมิต้านทานจะรับมือไหวได้ยังไงจริงไหมล่ะ ฉะนั้นก่อนที่ภูมิต้านทานจะแย่ไปกว่านี้ เรามาเลิกดื่มน้ำอัดลมกันเถอะ
น้ำอัดลมก็มีคาเฟอีน ตัวช่วยปลุกพลังให้ร่างกายเหมือนกาแฟ ซึ่งหากดื่มน้ำอัดลมมาก ๆ ร่างกายก็จะได้รับคาเฟอีนมากตามไปด้วย และแทนที่จะรู้สึกระปรี้กระเปร่าเพราะได้รับคาเฟอีน เราอาจรู้สึกง่วงซึมจากผลกระทบของคาเฟอีนที่มากเกินไปก็ได้
11. กระดูกแข็งแรง
ผลการศึกษาเมื่อปี 2014 แสดงให้เห็นว่า การดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำจะเพิ่มความเสี่ยงโรคกระดูกเสื่อมในผู้หญิงมากขึ้น 14% ดังนั้นแค่หยุดดื่มน้ำอัดลม ความเสี่ยงโรคไขข้อกระดูกต่าง ๆ ก็จะลดลงแล้ว
โทษของน้ำอัดลมมีไม่น้อยอย่างที่ได้เห็นกัน ดังนั้นแค่เพียงเลิกดื่มน้ำอัดลมได้อย่างเด็ดขาด หรืออย่างน้อย ๆ ก็ลดปริมาณการดื่มน้ำอัดลมได้บ้าง สุขภาพร่างกายของเราก็จะได้รับการฟื้นฟู อายุก็ยืนยาวขึ้นมากกว่าเดิม
ถ้าเลิกดื่มน้ำอัดลมแล้วชีวิตจะดีขึ้นขนาดนี้ เราจะมัวรอฤกษ์ดีกันทำไมล่ะคะ มาเลิกดื่มน้ำอัดลมกันตั้งแต่วันนี้เลยเป็นไง !
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Lifehack
Prevention