เชื้อราที่ขาหนีบ ผู้หญิง ถือเป็นภัยเงียบที่สาว ๆ อย่างเราไม่ควรมองข้าม ว่าแต่เชื้อราที่ขาหนีบเกิดจากอะไร อันตรายแค่ไหน วันนี้กระปุกดอทคอมมีข้อมูลมาให้สาว ๆ ได้ศึกษากันแล้วค่ะ
หากพูดถึงปัญหาโรคผิวหนังที่สาว ๆ อย่างเราต้องเผชิญ "เชื้อราที่ขาหนีบ"
ถือเป็นโรคที่สาว ๆ มีโอกาสเป็นได้บ่อย ๆ เพราะในบ้านเราอย่างที่รู้ ๆ
กันว่าอากาศร้อนชื้น
จึงทำให้บริเวณใต้ร่มผ้าอย่างบริเวณขาหนีบเกิดความอับชื้นได้ง่าย
จนกลายเป็นผดผื่นแดง และมีอาการคันตามมา ทั้งนี้หากปล่อยไว้ไม่รีบรักษา
เชื้อราก็อาจจะลามไปยังอวัยวะส่วนอื่น ๆ ก็เป็นได้ ซึ่งลักษณะอาการของหลาย ๆ
คนที่เป็นมักจะอยู่นิ่งไม่ได้ ต้องเกาอยู่ตลอดเวลา และยิ่งเกามาก ๆ
ผิวหนังก็จะยิ่งถลอก กลายเป็นว่าปวดแสบปวดร้อนไปซะอีก
นอกจากจะทรมานแล้วยังทำให้เสียบุคลิกอีกด้วย
เชื้อราที่ขาหนีบ เกิดจากการติดเชื้อรา กลุ่ม Dermatophyte โดยเชื้อรานี้จะทำให้ชั้นหนังกำพร้าเกิดโรคที่มีลักษณะเป็นผื่นแดงอักเสบ ซึ่งเชื้อรานี้อาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น ใช้ผ้าขนหนู หรือเสื้อผ้าร่วมกับผู้มีเชื้อรา หรือใส่กางเกงผ้าหนา ๆ ซ้ำกันเป็นเวลาหลาย ๆ วัน เมื่อบริเวณขาหนีบเกิดความสกปรก อับชื้น หรือเหงื่อออกมากจึงทำให้เชื้อราเหล่านั้นเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทำให้ผิวหนังเกิดการอักเสบ เป็นผดผื่นแดง และเริ่มมีอาการคันตามมานั่นเอง
วิธีรักษาเชื้อราที่ขาหนีบ
สำหรับคุณสาว ๆ คนไหนที่รู้ตัวว่าเป็นเชื้อราที่ขาหนีบ ไม่ควรชะล่าใจ ควรรีบรักษาก่อนที่เชื้อราจะลามไปยังส่วนอื่น ๆ โดยอันดับแรกอาจจะไปซื้อยากับเภสัชกรมาทาเอง โดยยาที่รักษาเชื้อราที่ขาหนีบมักจะเป็นยาประเภท Ketoconazole หรือ Clotrimazole โดยให้ทาบริเวณที่เป็นผื่นทุกเช้า-เย็นหลังอาบน้ำ ส่วนใหญ่แล้วประมาณ 2-3 สัปดาห์ก็จะค่อย ๆ หายไปเอง
แต่สำหรับใครที่ทายาแล้วไม่ดีขึ้น ให้รีบไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการตรวจและรักษาทันที ทั้งนี้แพทย์อาจจะให้ยามารับประทานหรือให้ยาตัวใหม่มาทา ซึ่งก็ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และเมื่ออาการค่อย ๆ ทุเลาลงแล้ว แนะนำให้รับประทานยาหรือทายาต่ออีกสักระยะ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อรากลับมาเป็นซ้ำอีก
วิธีป้องกันโรคเชื้อราที่ขาหนีบ
เมื่อรักษาหายดีแล้ว สิ่งที่สาว ๆ ควรทำเพื่อป้องกันเชื้อราที่ขาหนีบไม่ให้กลับมาเป็นซ้ำอีกก็คือ ควรหมั่นรักษาความสะอาดบริเวณจุดซ่อนเร้นหรือบริเวณขาหนีบอยู่เสมอ ไม่ควรปล่อยให้อับชื้น ทั้งนี้หลังอาบน้ำควรใช้ผ้าขนหนูสะอาด ๆ เช็ดให้แห้ง และควรใส่เสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี ไม่รัดตัวมาก รวมถึงอย่าใส่กางเกงตัวเดียวซ้ำกันหลาย ๆ วัน นอกจากนี้ไม่ควรใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่นด้วย เช่น เสื้อผ้า กางเกง ชุดชั้นใน หรือผ้าขนหนู เป็นต้น
เมื่อรู้จักสาเหตุของโรคเชื้อราที่ขาหนีบ
รวมถึงวิธีรักษาและป้องกันกันไปแล้ว คราวนี้คุณสาว ๆ
ก็คงจะรู้แล้วว่าเมื่อมีอาการเกิดขึ้นควรจะดูแลตัวเองและรักษาอย่างไร
ทั้งนี้อย่าปล่อยไว้จนลุกลาม เพราะมันจะทำคุณทรมานจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ
ทางที่ดีเมื่อรู้ตัวว่าเป็นแล้วควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาจะดีที่สุด
ทั้งนี้จะได้หายเร็วทันใจ และไม่ต้องกังวลว่าจะเสียบุคลิกภาพยังไงล่ะคะสาว ๆ