ผักชี สรรพคุณขึ้นชื่อ ความดีเลื่องลือถึงต่างชาติ



          ผักชี สรรพคุณดียังไง ทำไมคนญี่ปุ่นถึงฮิตกินผักชีหนักมาก มาทำความรู้จักประโยชน์ของผักชี ผักดี ๆ ใกล้ตัวเรากันค่ะ

          กลิ่นและสีของผักชีมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน และค่อนข้างแรงจนหลายคนอาจรู้สึกยี้ผักชนิดนี้เข้าอย่างจัง ทั้ง ๆ ที่สรรพคุณของผักชีเรียกได้ว่าดีตั้งแต่รากยันใบ ดังนั้นต่อไปหากเจอผักชีอยู่ในจานอาหารก็อย่าเพิ่งเขี่ยทิ้งนะคะ เพราะขนาดคนญี่ปุ่นยังฮิตกินผักชีจนเกิดกระแสผักชีฟีเว่อร์ แล้วบ้านเราซึ่งหากินผักชีได้ง่ายมาก ๆ เจอแทบจะทุกเมนูแบบนี้ จะพลาดผักชีให้อายคนญี่ปุ่นไปทำไมกันล่ะเนอะ

ผักชี

* ผักชี สมุนไพรมีดีที่อยากให้รู้จัก


          ผักชี หรือภาษาอังกฤษว่า Coriander เป็นไม้ล้มลุกที่มีสีเขียวตลอดทั้งต้น ยกเว้นรากที่เป็นสีขาว มีถิ่นกำเนิดอยู่ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน อินเดีย และเอเชียตะวันตก จึงพบผักชีได้ในประเทศอินเดีย โมร็อกโก ส่วนในไทยจะปลูกผักชีกันมากในจังหวัดราชบุรี นครปฐม และกรุงเทพมหานคร

          ผักสมุนไพรชนิดนี้คนไทยเราคุ้นกลิ่นและคุ้นเคยกันดี เพราะส่วนใหญ่มักจะนำผักชีมาเป็นผักโรยหน้าอาหาร บ้างก็นำรากผักชีหรือเมล็ดผักชีไปตำเป็นเครื่องปรุงส่งกลิ่นหอม ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าประโยชน์ของผักชีมีดีกว่ากลิ่นและสีสันเขียว ๆ อีกเยอะ จนฮอตไปไกลถึงต่างประเทศ โดยเฉพาะความฮิตของผักชีที่ประเทศญี่ปุ่น

ผักชี

* ผักชี สรรพคุณมีอะไรบ้าง

          ประโยชน์ของผักชีที่อยากให้รู้กันอย่างชัดเจน เราจะแยกเป็นสรรพคุณทางยาของผักชีตามภูมิปัญญาพื้นบ้าน และประโยชน์ของผักชีตามฐานข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ดังนี้

* สรรพคุณทางยาของผักชีตามภูมิปัญญา

          ผักชีมีสรรพคุณดี ๆ แทบจะทุกส่วน เริ่มจากส่วนใบผักชี ลำต้น เมล็ดผักชี และราก ตามนี้

          - ใบผักชี ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย แก้อาการกระหายน้ำ แก้ไอ แก้หวัด บรรเทาอาการคลื่นไส้ อาเจียน แก้อาการวิงเวียนศีรษะ รักษาอาการอาหารเป็นพิษ และช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด

          - เมล็ดผักชี แก้ปวดฟัน รักษาแผลในปาก และผลผักชียังสามารถแก้บิด แก้อาการถ่ายเป็นเลือด ถ่ายเป็นมูก แก้ริดสีดวงทวาร และบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อได้ด้วย

          - ต้นสด มีรสเผ็ด ช่วยขับผื่นหัดให้ออกเร็วขึ้น ขับเหงื่อ ขับลม ช่วยให้เจริญอาหาร ละลายเสมหะ และรักษาโรคริดสีดวงทวาร

          - รากผักชี ใช้เป็นน้ำกระสายยา ช่วยขับพิษไข้หัว ไข้อีดำอีแดง รักษาหิด และอีสุกอีใส


ผักชี

* วิธีและปริมาณที่ใช้ผักชีเป็นยา


          ใช้ต้นผักชีแห้ง 10-15 กรัม หรือต้นสด 60-150 กรัม มาต้มเอาน้ำมาดื่ม หรือคั้นน้ำผักชีมาดื่ม หากใช้ภายนอกให้เอาน้ำต้มผักชีมาชะล้าง หรือนำผักชีต้มมาตำและพอกให้ทั่ว หรือหากจะใช้เมล็ดผักชีแก้ปวดฟัน รักษาแผลในปาก ให้นำเมล็ดผักชีต้มน้ำ แล้วเอาน้ำผักชีมาบ้วนปากบ่อย ๆ

          ทั้งนี้ เราสามารถรับประทานผักชีเพื่อบำรุงสุขภาพในขนาดที่ใช้ประกอบอาหารตามปกติได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่นะคะ

* ข้อควรระวัง   

          สำหรับคนที่มีประวัติแพ้พืชวงศ์ผักชี (Apiaceae) หรือแพ้ขึ้นฉ่าย ยี่หร่า เทียนข้าวเปลือก เทียนสัตตบุษย์ กระเทียม และหอมใหญ่ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักชี เพราะผักชีอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ เช่น เป็นผื่นแพ้ ทำให้ผิวไวต่อแสงแดด เพิ่มความเสี่ยงโรคมะเร็งผิวหนัง เยื่อบุจมูกและตาอักเสบจากภูมิแพ้ รวมไปถึงอาการหลอดลมเกร็งตัวได้

          อย่างไรก็ตาม ผักชีเป็นผักที่มีกลิ่นฉุน จึงไม่ควรกินผักชีในปริมาณมาก เพราะอาจทำให้มีกลิ่นตัวแรงขึ้น หรือหากกินผักชีในปริมาณมาก ๆ ก็อาจทำให้เกิดอาการตาลาย ลืมง่ายขึ้นด้วย

* ประโยชน์ของผักชีเชิงวิทยาศาสตร์

          ก่อนจะไปถึงสรรพคุณของผักชี เรามาดูคุณค่าทางโภชนาการของผักชีสดในปริมาณ 100 กรัมกันก่อนดีกว่า

* ผักชีสด 100 กรัม มีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้

          - คาร์โบไฮเดรต 3.67 กรัม

          - น้ำตาล 0.87 กรัม

          - เส้นใย 2.8 กรัม

          - ไขมัน 0.52 กรัม

          - โปรตีน 2.13 กรัม

          - วิตามินเอ 337 ไมโครกรัม

          - เบต้าแคโรทีน 3,930 ไมโครกรัม

          - ลูทีนและซีแซนทีน 865 ไมโครกรัม

          - วิตามินบี 1 0.067 มิลลิกรัม

          - วิตามินบี 2 0.162 มิลลิกรัม

          - วิตามินบี 3 1.114 มิลลิกรัม

          - วิตามินบี 5 0.57 มิลลิกรัม

          - วิตามินบี 6 0.149 มิลลิกรัม

          - วิตามินบี 9 62 ไมโครกรัม

          - วิตามินซี 27 มิลลิกรัม

          - วิตามินอี 2.5 มิลลิกรัม

          - วิตามินเค 310 ไมโครกรัม

          - แคลเซียม 67 มิลลิกรัม

          - เหล็ก 1.77 มิลลิกรัม

          - แมกนีเซียม 26 มิลลิกรัม

          - แมงกานีส 0.426 มิลลิกรัม

          - ฟอสฟอรัส 48 มิลลิกรัม

          - โพแทสเซียม 521 มิลลิกรัม

          - โซเดียม 46 มิลลิกรัม

          - สังกะสี 0.5 มิลลิกรัม

          อย่างไรก็ตาม หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ยังระบุสรรพคุณของผักชีได้แค่ในหนูทดลอง แต่ยังไม่มีข้อมูลการศึกษาในคน ทว่าจากการศึกษาสรรพคุณของผักชีก็พบว่า ส่วนผลผักชี น้ำมันหอมระเหยจากผลผักชี ส่วนใบ และส่วนต้น มีประโยชน์ตามนี้

1. ต้านอนุมูลอิสระ แบคทีเรีย และเชื้อรา

          คนญี่ปุ่นฮิตกินผักชีตรงส่วนใบและส่วนต้นผักชีนี่ล่ะค่ะ ซึ่งจากการศึกษาก็พบว่า ใบและต้นของผักชีประกอบไปด้วยสารกลุ่มที่มีฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระที่ดี อันได้แก่ สารกลุ่มฟลาโวนอยด์ (Flavonoids) สารกลุ่มแลคโตน (Lactones) สารกลุ่มฟีโนลิก สารกลุ่มแทนนิน และสารกลุ่มแคโรทีนอยด์ นอกจากนี้ยังพบว่าใบผักชีและต้นผักชีอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่ด้วยนะคะ

          ทั้งนี้ มีงานวิจัยหลายฉบับที่พบว่า ส่วนใบและลำต้นผักชีมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง มีสรรพคุณต้านอาการชักและต้านการถูกทำลายของเซลล์สมอง ต้านแบคทีเรีย เชื้อรา และมีฤทธิ์ช่วยย่อยในระบบทางเดินอาหาร

2. กระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้


          ผลแก่ของผักชีเป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม สามารถนำไปประกอบในตัวยา ใช้แต่งกลิ่นอาหาร มีฤทธิ์กระตุ้นต่อมกระเพาะอาหารและลำไส้ให้ขับน้ำดีและน้ำย่อยออกมามากขึ้น อีกทั้งในส่วนน้ำมันหอมระเหยจากผลผักชีแก่ยังพบว่ามีสารยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคได้

ผักชี

3. ลดน้ำตาลในเลือด


          ผลผักชีและสารสกัดจากผลผักชีมีฤทธิ์ลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ และสามารถใช้ร่วมกับยาลดระดับน้ำตาลในเลือดอย่าง Glimepiride, Glyburide, Insulin, Pioglitazone และ Rosiglitazone เพื่อเสริมประสิทธิภาพตัวยามากขึ้นก็ได้ค่ะ

4. ลดความดันเลือด

          นอกจากผักชีจะมีสรรพคุณลดระดับน้ำตาลในเลือดแล้ว ผลการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาของผลและเมล็ดผักชียังพบว่า ส่วนของผักชีดังกล่าวมีฤทธิ์ลดความดันโลหิตได้ และสามารถเสริมประสิทธิภาพให้ยาลดความดันโลหิต เช่น Captopril, Enalapril, Losartan, Valsartan, Diltiazem, Amlodipine, Hydrochlorothiazide และ Furosemide ทำงานได้อย่างเต็มที่มากขึ้นด้วย

5. ลดความเสี่ยงโรคมะเร็งที่มาจากการบริโภคอาหารปิ้งย่าง

          ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Clinical Nutrition เผยว่า เครื่องเทศรสเผ็ดร้อนอย่างผักชีมีส่วนช่วยยับยั้งสารก่อมะเร็งกลุ่มแอทเทอโรไซคลิกเอมีน หรือ HCAs ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งที่เกิดจากการประกอบอาหารประเภทปิ้งย่างได้ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสาร Food Science ที่ได้ผลการศึกษาไปในทางเดียวกันด้วย

6. ต้านอาการอักเสบและบำรุงสายตา

          จะเห็นได้ว่าผักชีสด 100 กรัม มีเบต้าแคโรทีนมากถึง 3,930 ไมโครกรัม ทั้งยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลากหลายชนิด ซึ่งตรงกับการศึกษาของ Plant Foods for Human Nutrition ที่ระบุว่า สารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมากของผักชีมีส่วนช่วยต้านการอักเสบของเซลล์ในร่างกายได้ พร้อมทั้งเบต้าแคโรทีนยังมีส่วนช่วยบำรุงการทำงานของดวงตาได้ดีอีกด้วย

          สรรพคุณของผักชีมีดีขนาดนี้ก็เชื่อว่าหลายคนชักอยากจะปลูกผักชีกินเองที่บ้านบ้างแล้วแน่ ๆ ถ้างั้นมาดูวิธีปลูกผักชีที่เรานำมาฝากกันได้เลย

    
ผักชี
 
* วิธีปลูกผักชี

          - วิธีปลูกผักชีในกระถาง หยิบรับประทานง่าย
          - วิธีปลูกผักชีในน้ำ ปลูกผักสวนครัวไร้ดินไว้กินเองที่บ้านง่าย ๆ

* ข้อควรระวัง

          ผู้ป่วยโรคไตไม่ควรกินมาก เพราะผักชีมีโพแทสเซียมสูง อาจเป็นอันตรายได้ ส่วนที่มีข้อมูลแชร์กันว่าให้ดื่มน้ำผักชีต้มหรือปั่นทุกวันจะช่วยล้างไตให้สะอาดได้นั้น เรื่องนี้ก็ไม่เป็นความจริงนะคะ หากป่วยโรคไตไม่ควรทำตามเด็ดขาด เพราะเป็นอันตรายกับสุขภาพได้เลย


ขอบคุณข้อมูลจาก
หมอชาวบ้าน
โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริฯ
คณะเภสัชสาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
medicalnewstoday

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ผักชี สรรพคุณขึ้นชื่อ ความดีเลื่องลือถึงต่างชาติ อัปเดตล่าสุด 24 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา 11:44:20 151,698 อ่าน
TOP
x close