11 ประโยชน์ของงาดำ คุณค่าล้นเมล็ด ซูเปอร์ฟู้ดเพื่อสุขภาพ

          ประโยชน์ของงาดำ ซูเปอร์ฟู้ดทรงคุณค่า มากด้วยสรรพคุณ อาหารเพื่อสุขภาพที่ควรหามาลิ้มลอง

          งาดำ เมล็ดธัญพืชเล็ก ๆ ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร และสรรพคุณในการบำรุงสุขภาพ จึงทำให้งาดำขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในซูเปอร์ฟู้ดที่คนรักสุขภาพไม่ควรพลาด แต่เคยทราบกันบ้างหรือไม่ว่าในเมล็ดเล็กจิ๋วของงาดำนี้มีสารอาหารอะไร และมีประโยชน์อย่างไรกับสุขภาพบ้าง ลองไปดูพร้อมกันเลยดีกว่า จะได้มั่นใจว่างาดำน่ะดีกับสุขภาพจริง ๆ


งาดำ ธัญพืชมากสรรพคุณที่อยากชวนให้รู้จัก


          งาดำ ภาษาอังกฤษ คือ Black Sesame Seeds มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sesamum indicum Linn. เป็นพืชที่มีแหล่งกำเนิดในแถบประเทศเอธิโอเปีย ถูกนำเข้ามาในอินเดีย จีน แอฟริกาเหนือ และเอเชียใต้ เมื่อประมาณ 2,000 ปีก่อน งาดำเป็นงาชนิดเดียวกับงาขาว แต่แตกต่างกันที่สีของเมล็ดเท่านั้นเอง

ประโยชน์ของงาดำ
 
          งาดำเป็นพรรณไม้ล้มลุกเนื้ออ่อน มีขนาดเล็ก ลำต้นตั้งตรงถึงยอด ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยมสีเขียวเข้มปนม่วง มีร่องตามยาวและมีขนปกคลุม อวบน้ำ สูงประมาณ 0.5-2 เมตร ใบมีลักษณะคล้ายกับใบหญ้างวงช้าง มีขนตลอดทั้งใบ เป็นใบเดี่ยวรูปไข่ หรือรูปหอก ขอบใบเป็นจัก ใบมีสีเขียวอ่อนไปจนถึงเขียวเข้ม บางพันธุ์ใบอาจเป็นสีเหลือง ก้านใบยาว 5 เซนติเมตร ดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศ กลุ่มละ 1-3 ดอก ก้านดอกสั้น กลีบรองดอกมี 5 แฉก กลีบดอกมีสีขาว ขาวอมชมพู หรือม่วงอ่อน ผลหรือฝักขนาดค่อนข้างกลม รูปทรงกระบอกหรือแบน มีขนสั้น ๆ ปกคลุมรอบฝัก ปลายฝักมีจะงอยแหลม เมล็ดมีรูปไข่ งาดำจะมีเมล็ดเป็นสีดำขนาดใหญ่กว่าเม็ดแมงลักเล็กน้อย ส่วนงาขาวจะมีสีนวล

ประโยชน์ของงาดำ

งาดำ กับคุณค่าทางโภชนาการ


          ในประเทศไทยงาดำถูกนำมาใช้ประโยชน์ทั้งในด้านยารักษาโรค อาหาร และเครื่องสำอาง ไม่ว่าจะเป็นขนม เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ นำไปเติมลงในอาหาร หรือแม้แต่นำไปสกัดเป็นน้ำมันงาดำ เนื่องจากอุดมไปด้วยคุณค่าทางอาหาร โดยในงาดำปริมาณ 100 กรัม ให้พลังงาน 573 กิโลแคลอรี และมีคุณค่าทางโภชนาการ ดังนี้

          - น้ำ 4.69 กรัม
          - โปรตีน 17.73 กรัม
          - คาร์โบไฮเดรต 23.45 กรัม
          - ไฟเบอร์ 11.8 กรัม
          - น้ำตาล 0.30 กรัม
          - แคลเซียม 975 มิลลิกรัม
          - ธาตุเหล็ก 14.55 มิลลิกรัม
          - แมกนีเซียม 351 มิลลิกรัม
          - ฟอสฟอรัส 629 มิลลิกรัม
          - โพแทสเซียม 468 มิลลิกรัม
          - โซเดียม 11 มิลลิกรัม
          - สังกะสี 7.75 มิลลิกรัม
          - ไทอะมีน 0.791 มิลลิกรัม
          - ไรโบฟลาวิน 0.247 มิลลิกรัม
          - ไนอะซิน 4.515 มิลลิกรัม
          - วิตามินบี 6 0.790 มิลลิกรัม
          - โฟเลต 97 ไมโครกรัม
          - วิตามินอี 0.25 มิลลิกรัม
          - ไขมันอิ่มตัว 6.957 กรัม
          - ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว 18.759 กรัม
          - ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน 21.773 กรัม

ประโยชน์ของงาดำ

ประโยชน์ของงาดำ สรรพคุณเหลือล้น


          งาดำ ถือเป็นซูเปอร์ฟู้ดมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกชนิดหนึ่ง จึงทำให้เราได้เห็นว่าในปัจจุบันมีการนำงาดำมาสกัดเป็นอาหารเสริมบำรุงสุขภาพมากมาย โดยประโยชน์ของงาดำ มีดังนี้

1. บรรเทาอาการปวดข้ออักเสบรูมาตอยด์

          สำหรับคนที่มีปัญหาข้อต่ออักเสบรูมาตอยด์ การรับประทานงาดำสามารถลดอาการปวดได้ เพราะธาตุทองแดงที่อยู่ในงาดำมีฤทธิ์ต้านอาการอักเสบ ทำให้อาการปวดลดลง นอกจากนี้ธาตุทองแดงยังมีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งคอลลาเจนนั้นสำคัญต่อการเสริมสร้างเนื้อเยื่อ ข้อต่อ กระดูกอ่อน และหลอดเลือดให้แข็งแรง

2. บำรุงผิวพรรณและกระดูก

          งาดำขึ้นชื่อว่าเป็นธัญพืชอีกชนิดหนึ่งที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ซึ่งแคลเซียมที่อยู่ในงาดำนั้นมีมากกว่านมถึง 6 เท่า นอกจากนี้ก็ยังมีสังกะสีที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกระดูก เพิ่มมวลกระดูก จึงเหมาะกับคนทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะผู้หญิงในวัยหมดประจำเดือนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคกระดูกพรุน ขณะที่วิตามินอีที่อยู่ในงาดำก็ยังมีส่วนสำคัญในการบำรุงผิวพรรณให้นุ่มชุ่มชื้น หากรับประทานเป็นประจำรับรองได้เลยว่ากระดูกแข็งแรง ผิวพรรณดี ห่างไกลจากริ้วรอยแห่งวัย ดูเด็กลงได้อีกหลายปีเลย

3. ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด

          สารเซซามินและสารเซซาโมลิน เป็นไฟเบอร์ในกลุ่มลิกแนน (Lignans) ที่มีคุณสมบัติในการลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ซึ่งเจ้าสารชนิดนี้เป็นสารที่อุดมอยู่ในงาดำ นอกจากนี้ในงาดำก็ยังอุดมด้วยสารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) ที่มีโครงสร้างใกล้เคียงกับคอเลสเตอรอล แต่ไม่เป็นอันตรายกับสุขภาพ ซึ่งการรับประทานงาดำเข้าไปก็จะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ ได้ แต่ทั้งนี้ก็ควรรับประทานงาดำไม่ให้เกินวันละ 10-15 กรัม เพราะงาดำเป็นธัญพืชที่ให้พลังงานจากไขมันค่อนข้างมากนะคะ

4. บำรุงหัวใจ


          เพราะงาดำสามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ จึงทำให้สุขภาพหัวใจแข็งแรงขึ้น เพราะเมื่อร่างกายมีระดับคอเลสเตอรอลที่ลดลง ก็จะส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจสะอาดขึ้น ระบบไหลเวียนเลือดก็ดีขึ้น ลดความเสี่ยงได้ทั้งโรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคความดันโลหิตสูง

ประโยชน์ของงาดำ

5. ป้องกันโรคมะเร็ง


          สารต้านอนุมูลอิสระที่อัดแน่นเต็มเมล็ดงาดำ เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้งาดำกลายเป็นอาหารต้านมะเร็งที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะโรคมะเร็งลำไส้ เพราะไฟเบอร์ที่อยู่ในงาดำจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของระบบลำไส้ ทำให้ลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น ความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ก็ลดลง นอกจากนี้สารเซซามินที่มีอยู่ในงาดำก็ยังช่วยป้องกันสารอนุมูลอิสระไปทำลายตับ และเมื่อตับสามารถทำงานได้เต็มประสิทธิภาพแล้ว ก็จะไม่มีสารพิษสะสมในร่างกายจนก่อให้เกิดโรคมะเร็งนั่นเอง แต่ทั้งนี้เอง หากรับประทานมากเกินไปก็อาจทำให้เสี่ยงกับโรคมะเร็งได้เหมือนกัน ฉะนั้นต้องรับประทานในปริมาณที่พอดีจะดีที่สุดค่ะ

6. ช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย

          แม้จะเป็นเพียงธัญพืชเมล็ดเล็ก ๆ แต่งาดำก็อุดมไปด้วยไฟเบอร์จำนวนมาก ซึ่งถ้ารับประทานบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดีขึ้น หมดปัญหาเรื่องท้องผูกไปได้เลยล่ะค่ะ ใครที่มีปัญหาเรื่องระบบขับถ่ายลองหางาดำมารับประทานกันดูนะคะ

7. บรรเทากลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือน (PMS)

          กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนถือเป็นปัญหาของคุณสาว ๆ หลายคน เพราะทำให้อารมณ์แปรปรวน หรือเกิดอาการปวดท้อง ปวดศีรษะ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัว นอนไม่หลับ จนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต แต่ถ้าอยากจะลดอาการเหล่านี้แนะนำให้รับประทานงาดำค่ะ เพราะงาดำอุดมไปด้วยวิตามินบี แคลเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ที่ช่วยลดอาการ PMS ได้เป็นอย่างดี บอกลาอาการต่าง ๆ ก่อนมีประจำเดือนไปได้เลย

8. งาดำบำรุงเส้นผม แก้ผมร่วง

          งาดำเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยไขมันที่ดี ไม่ว่าจะเป็นไขมันโอเมก้า 3, 6 และ 9 ซึ่งล้วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม อีกทั้งช่วยบำรุงให้หนังศีรษะและเส้นผมชุ่มชื้นมีสุขภาพดี ยิ่งถ้าหากใช้น้ำมันงาดำมานวดศีรษะเป็นประจำด้วยละก็ จะยิ่งช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดบริเวณศีรษะทำให้เส้นผมได้รับแร่ธาตุและวิตามินมากขึ้น ไม่หลุดร่วงและยังดกดำเงางามขึ้นค่ะ

9. ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

           แคลเซียมและแมกนีเซียมที่อยู่ในงาดำ มีส่วนสำคัญที่ช่วยบรรเทาความเครียด ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นอกจากนี้ทริปโตเฟน (tryptophan) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีในงาดำก็ยังเข้าไปช่วยเสริมสร้างการทำงานของเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ควบคุมการนอนหลับ ทำให้นอนหลับได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง

10. บำรุงสมอง ป้องกันโรคอัลไซเมอร์

          จากการศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Journal of Ethnopharmacology พบว่า การรับประทานสารสกัดจากงาดำสามารถช่วยป้องกัน และชะลอการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ โดยในการศึกษาได้ให้อาสาสมัครที่อยู่ในกลุ่มสูงวัยรับประทานสารสกัดจากงาดำแบบแคปซูลปริมาณ 500 มิลลิกรัม ทุกวันติดต่อกัน 9 สัปดาห์ พบว่าหลังจาก 9 สัปดาห์ผ่านไป อาสาสมัครเหล่านี้มีพัฒนาการในด้านความจำและการเรียนรู้ที่ดีขึ้น ดีแบบนี้ต้องรีบหามาลองแล้ว

11. บำรุงสายตา

          ในการแพทย์แผนจีนเชื่อว่าดวงตานั้นสัมพันธ์กับตับ ดังนั้นหากตับมีปัญหาก็จะทำให้ดวงตาอ่อนล้า ตาแห้ง และมองเห็นไม่ชัดได้ จึงทำให้มีการนำงาดำมาใช้ในแพทย์แผนจีนเพื่อบำรุงสายตาและตับไปพร้อม ๆ กัน เมื่อตับมีสุขภาพดี ดวงตาก็จะชุ่มชื้นและใสปิ๊ง หมดปัญหาสุขภาพตาไปได้เลย

ประโยชน์ของงาดำ

โทษของงาดำ กับข้อควรระวังก่อนรับประทาน


           แม้งาดำจะมีประโยชน์ในเรื่องการบำรุงสุขภาพแต่มีข้อควรระวังในการรับประทานงาดำ ดังนี้

          * หากกินงาดำในปริมาณมากจนเกินไป (เกิน 15 กรัมต่อวัน) อาจทำให้เกิดภาวะระบายท้อง ถ่ายบ่อยจนนำไปสู่อาการท้องร่วงได้

          * ผู้ที่มีอาการแพ้ถั่วควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีงาดำ เพราะงาดำมีสารบางชนิดที่คล้ายกับถั่วลิสง ซึ่งถ้าหากรับประทานเข้าไปอาจจะก่อให้เกิดอาการแพ้ (ภายใน 90 นาทีหลังจากรับประทาน) และอันตรายถึงชีวิตได้ 

          * งาดำอาจทำให้ระดับความดันโลหิตต่ำ ในผู้ที่มีภาวะนี้อยู่แล้วควรจำกัดการรับประทานงาดำให้ไม่เกินวันละ 1 ช้อนชา หรือ 15 กรัม

          * สตรีมีครรภ์ในช่วง 3 เดือนแรก ไม่ควรรับประทานงาดำ เพราะงาดำมีฤทธิ์เป็นยาขับประจำเดือน อาจทำให้แท้งได้

          * ผู้ป่วยโรคเบาหวานหรือผู้ที่กำลังจะผ่าตัด ควรระมัดระวังการรับประทานงาดำ เพราะอาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำได้

          * ผู้ที่เสี่ยงเป็นนิ่ว หรือมีนิ่วอยู่แล้ว ควรลดหรือเลี่ยงงาดำ เพราะงาดำมีสารออกซาเลต (Oxalate) เยอะ จนอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดนิ่วในทางเดินปัสสาวะได้

          * ผู้ป่วยโรค Wilson’s disease ที่มีภาวะทองแดง (Copper) ในร่างกายเกิน และไม่สามารถขับทองแดงออกจากร่างกายได้ ไม่ควรรับประทาน

          นอกจากนี้ที่เคยมีการแชร์ข้อมูลว่ากินงาดำมาก ๆ อาจทำให้เกิดภาวะทองแดงเกินในร่างกาย สำหรับประเด็นนี้นักวิชาการหลาย ๆ ท่าน อย่างอาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ และหมอแมวจากเพจความรู้สนุกๆแบบหมอแมว ก็ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า การกินงาดำไม่ได้อันตรายต่อร่างกายขนาดนั้น หากกินในปริมาณที่เหมาะสม และไม่มีปัจจัยเสี่ยงใด ๆ อย่างที่กล่าวไปข้างต้น เพราะจริง ๆ แล้วร่างกายของคนเรามีกระบวนการขับทองแดงส่วนที่เกินได้ด้วยตัวเอง แต่ถึงอย่างนั้นการกินงาดำให้ได้สารอาหารเกินจนอาจเกิดอันตราย ก็คงต้องกินงาดำในปริมาณที่มากเป็น 100 กรัม หรือเกินกว่านั้น ซึ่งในทางปฏิบัติก็คงจะเป็นไปได้ยากอยู่ดี 

          แต่เอาเป็นว่าจะกินอะไรก็ตามแต่ ก็ควรกินในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากจนเกินไป เพราะอะไรที่เกินไปมักจะส่งผลร้ายมากกว่าผลดีนะคะ 
    

กินงาดำอ้วนไหม ควรกินงาดำวันละเท่าไร


          งาดำเป็นอาหารที่ดีกับสุขภาพก็จริง ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่างาดำเป็นธัญพืชที่มีแคลอรีสูง ซึ่งถ้าหากรับประทานมาก ๆ ก็อาจจะทำให้ได้รับไขมันและแคลอรีมากเกินไปจนเป็นสาเหตุทำให้อ้วน ดังนั้นถ้าจะรับประทานควรรับประทานแต่น้อย โดยปริมาณงาดำที่ควรรับประทานต่อวันคือ 10-15 กรัม หรือไม่เกินวันละ 1 ช้อนโต๊ะ

กินงาดำอย่างไรให้ได้ประโยชน์มากที่สุด

 
          งาดำมีประโยชน์มากมาย และสามารถนำไปเติมในอาหารหรือเครื่องดื่มใด ๆ ก็ได้ แต่ถ้าอยากให้ร่างกายได้ประโยชน์จากงาดำสูงสุด แนะนำว่าเวลารับประทานควรเคี้ยวงาดำให้แตกก่อนแล้วค่อยกลืน หรือนำมาบดเป็นผงก่อนแล้วจึงนำมาโรยในอาหาร ก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารจากงาดำมากขึ้น

วิธีซื้องาดำ เลือกซื้ออย่างไร


          งาดำเป็นผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารแห้ง ซึ่งควรเลือกซื้องาดำอย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้รับประโยชน์จากงาดำอย่างเต็มที่ โดยควรเลือกซื้องาดำที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์มิดชิด เพื่อป้องกันไม่ให้มีเชื้อราหรือสิ่งสกปรกปะปนกับงาดำ อีกทั้งควรหลีกเลี่ยงการซื้องาดำแบบที่บดสำเร็จแล้ว เพราะอาจมีเชื้อราที่เป็นอันตรายปนเปื้อน เมื่อซื้อมาแล้วก็ควรจะเก็บไว้ในที่แห้งและสะอาดจะช่วยยืดอายุของงาดำได้นานขึ้นค่ะ

ประโยชน์ของงาดำ

เมนูงาดำ ทำอะไรได้บ้าง


          เราสามารถกินงาดำได้หลายรูปแบบ เช่น งาดําคั่วบด งาดําอบ หรือในรูปแบบอาหารเสริม เช่น น้ำมันงาดำสกัดเย็น แต่สำหรับคนที่อยากนำงาดำไปปรุงอาหารลองหยิบเมนูเหล่านี้ไปทำกันดูเลยค่ะ

          - น้ำงาดำ เครื่องดื่มสุขภาพประโยชน์เพียบ
          - น้ำข้าวกล้องงาดำ เครื่องดื่มสุขภาพกำลังสอง
          - น้ำเต้าหู้งาดำ เครื่องดื่มสุขภาพอิ่มท้อง ต้อนรับเทศกาลกินเจ
          - ไอศกรีมงาดำ หวานเย็นชื่นใจได้สุขภาพ
          - ไอศกรีมน้ำเต้าหู้งาดำ เมนูเย็นชื่นใจเพื่อสุขภาพ สูตรไม่ใส่นมและครีม
          - ไข่ตุ๋นงาดำ เมนูไข่อร่อยง่ายได้สุขภาพ

          อาหารทุกชนิดล้วนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดก็คือควรรับประทานอาหารทุกชนิดในปริมาณที่พอเหมาะ และควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อที่ร่างกายของเราจะได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอค่ะ


* หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2563
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
11 ประโยชน์ของงาดำ คุณค่าล้นเมล็ด ซูเปอร์ฟู้ดเพื่อสุขภาพ อัปเดตล่าสุด 16 สิงหาคม 2565 เวลา 10:28:23 639,193 อ่าน
TOP
x close