วิธีลดน้ำหนักแบบ Paleo diet ที่เด็ดจริง ๆ แค่เลือกทานอาหารเพื่อสุขภาพ เพียงเดือนเดียวก็ได้ของแถมเป็นหุ่นสวย ๆ ไฉไลกว่าเดิม
เดี๋ยวนี้มีสูตรลดน้ำหนักออกมาแนะนำคนอยากผอมกันมากมาย ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจของแต่ละคนแล้วล่ะค่ะว่าจะทำได้ตามวิธีการนั้นไหม อย่างสูตร Paleo Diet ที่คุณเอม female fit สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม มองว่าเป็นวิธีลดน้ำหนักที่น่าสนใจ แต่ดูแล้วค่อนข้างยุ่งยากลำบากไปสักหน่อยถ้าจะเลือกทานอาหารตามสูตรเป๊ะ ๆ ก็เลยนำมาดัดแปลงแล้วประยุกต์ให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเอง เลยกลายเป็นสูตรลดน้ำหนักที่ง่ายขึ้นแถมเห็นผลจริงภายในเดือนเดียวเท่านั้นเอง
Paleo diet ลดน้ำหนักแบบไม่นับแคลอรี เปลี่ยนหุ่นเสียเป็นหุ่นสวย โดย คุณ female fit
วันนี้เอมจะมาแบ่งปันวิธีการกินอาหารแบบใหม่ที่เอมเพิ่งได้ทดลองกับตัวเองมาครบ 1 เดือนเต็มนะคะ บางคนอาจคิดว่า เฮ้ ! แค่เดือนเดียวเองทำไมเอามาแชร์แล้วล่ะ คำตอบง่าย ๆ เลยก็คือมันเป็นวิธีการกินที่ลดน้ำหนักแล้วเห็นผลเร็วมาก
ที่สำคัญเลยคือไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และไม่ทำให้เกิดความเครียดแต่อย่างใด (บวกกับเพื่อน ๆ เชียร์เหลือเกินว่าอยากให้นำมาแบ่งปัน แฮ่ ๆ)
มาเริ่มต้นจากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเอมใน 1 สัปดาห์กันก่อนเลยเนอะ จากน้ำหนัก 54 ลดลงเหลือ 52.6 กิโล !! คือเอมตกใจมาก เพราะไม่เคยน้ำหนักลงเร็วแบบนี้มาก่อน แต่ก็แอบคิดไปเหมือนกันนะคะ ว่าเจ้าน้ำหนักที่ลดนี่มันมาจากอะไร ? น้ำในร่างกาย ? กล้ามเนื้อ ? หรือไขมัน ?
(การที่เอมน้ำหนักไม่ได้สูงมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้การลดน้ำหนักจะทำได้ยากกว่าคนที่น้ำหนักเยอะค่ะ ถ้าลองคนที่เริ่มจากน้ำหนักตัวมาก ๆ เอมว่าน่าจะลดได้มากกว่าเอมเยอะเลยค่ะ)
เห็นผลบางส่วนไปแล้ว คราวนี้เรามาทำความรู้จักกับ Paleo Diet กันดีกว่าค่ะ
Paleo Diet คือ โภชนาการแบบมนุษย์ดึกดำบรรพ์ เน้นทานอาหารที่คนในสมัยก่อนจะสามารถหากินได้ ประดุจว่าเราได้พาตัวเองนั่งไทม์แมชชีนกลับไปสมัยยังใช้ถ้ำต่างที่อยู่อาศัย
อาหารที่คนทาน Paleo Diet สามารถทานได้ก็คือ
1. เนื้อสัตว์จำพวกไม่ติดมัน หรือที่เรียกว่าเนื้อล้วน ไม่ว่าจะเป็น หมู วัว ไก่ แพะ ปลา อาหารทะเลต่าง ๆ ได้หมด
2. เน้นทานผักและผลไม้
3. ไม่ทานข้าว หรือพวก Grain ต่าง ๆ (ตรงนี้เอมคิดเอาเองนะคะว่าสมัยดึกดำบรรพ์ก็คงไม่มีโรงสีข้าวอย่างแน่นอน 555)
4. ไม่ใช้เครื่องปรุงที่ได้มาจากการหมัก เช่น ซอสถั่วเหลือง น้ำปลา ให้ใช้ Coconut amino แทน
5. ปรุงอาหารด้วยน้ำมันที่ไม่ผ่านกระบวนการ เช่น น้ำมันมะพร้าว
6. ทานไขมันดีจากปลา ถั่ว อะโวคาโด หรือน้ำมันมะกอก
7. ไม่ทานน้ำตาลที่ผ่านกรรมวิธี เช่น น้ำตาลทราย รวมถึงสารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่มาจากสารเคมี
8. ไม่ดื่มแอลกอฮอล์
9. ไม่ทานผลิตภัณฑ์ใด ๆ ที่มีส่วนผสมของนมวัว
10. ไม่ทานผักประเภทหัวหรือรากที่สะสมแป้ง ยกเว้น yams น่าจะเป็นมันญี่ปุ่น ไม่ชัวร์เหมือนกันค่ะ
ใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วก็อาจจะท้อ 5555 อะไรจะกฎเยอะแยะขนาดนั้น ใจเย็น ๆ นะคะ เพราะถ้ามันวุ่นวายเท่าที่เอมพิมพ์มาทั้งหมด เอมก็ทำไม่ได้เหมือนกันค่ะ
เนื่องจากว่าสาเหตุแท้จริงของการกินแบบ Paleo จะเป็นการเน้นสุขภาพค่ะทำให้มีหลักเกณฑ์ต่าง ๆ มากมาย แต่ดันมีผลพลอยได้ทำให้น้ำหนักลดลง !! คราวนี้ก็โป๊ะเชะสิคะ เราต้องนำมาดัดแปลงให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ของเราค่ะ เพราะเราไม่ได้ต้องการเรื่องสุขภาพขนาดนั้น แต่เราต้องการสุขภาพกลาง ๆ และต้องการหุ่นใหม่ที่ไฉไลกว่าเดิมนั่นเอง !!
ทีนี้เอมขอให้ชื่อใหม่กับวิธีการกินที่นำ Paleo Diet มาประยุกต์นะคะ ว่า "my mostly paleo"
คือการกินที่ส่วนมากจะเน้นตามแบบ Paleo แต่นำมาดัดแปลงตามนี้ค่ะ
1. ทานเนื้อสัตว์ได้ไม่จำกัดชนิด ไม่กลัวไขมันจากเนื้อสัตว์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจัดหมูสามชั้นทุกวันเนอะ 555+ ข้อดีของเอมเลยคือเป็นคนไม่ชอบกลิ่นสัตว์ใหญ่ เพราะฉะนั้นที่กินก็จะเน้นปลา ไก่ ไข่ แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องอกไก่อย่างเดียว กินได้ทุกส่วนค่ะ
2. ทานผักเยอะมาก ผลไม้รองลงมา เพราะยังไงผลไม้ก็มีน้ำตาลสูง โดยผักส่วนมากจะเป็นพวกบรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง ข้าวโพดอ่อน หรือจะเป็นพวกสลัดต่าง ๆ กินกับเกลือทะเลราดด้วยน้ำมะนาวสด ! บอกเลยว่าไม่แตะน้ำสลัดสักเท่าไหร่ค่ะ ถ้ากินก็จะทำเองเพื่อเลี่ยงไขมันส่วนเกิน
3. ไม่ทานข้าวเลย แต่ถ้าไม่มีตัวเลือกจริง ๆ ก็มีแอบตักเข้าปากได้บ้างนาน ๆ ที (เอมไม่ติดข้าวมากอยู่แล้วค่ะ สายกินกับ) ป.ล. ไม่ทานแป้งขาว และขนมปังต่าง ๆ ด้วยนะคะ
4. ใช้ซอส น้ำปลา ได้หมด แต่ไม่ปรุงรสจัด
5. ใช้น้ำมันอย่างอื่นนอกจากน้ำมันมะพร้าวได้ค่ะ เพราะเอมเชื่อว่าหลายคนอาจไม่มีปัจจัยพอสำหรับน้ำมันที่แพงเหลือเกิน 555 เอมก็เช่นกันในช่วงปลายเดือน อิอิ
6. ทานอัลมอนด์ ดาร์กช็อกโกแลต เพิ่มไขมันดี และที่ชอบสุดเลยก็คือแซลมอนของโปรด
7. ไม่ทานน้ำตาล แต่ไม่กลัวสารให้ความหวานแทนน้ำตาล ยังไงก็ตามถ้าเป็นไปได้ก็เลี่ยงได้ก็ดีค่ะ แต่ไม่ได้กลัว
8. ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ (เลิกได้คือชีวิตเปลี่ยน แต่คิดว่านาน ๆ ทีก็ไม่เป็นไรนะคะ ข้อเสียมันเยอะจริง ๆ ค่ะ)
9. ไม่ทานผลิตภัณฑ์ที่มาจากนมวัว เอมชอบนมถั่วเหลืองมากกว่าอยู่แล้ว 555+
10. ทานหัวเผือกหัวมันได้ ถือเป็นแป้งแทนส่วนที่ไม่ได้กินข้าว หรือไม่ก็เป็นฟักทอง
เห็นไหมคะ พอเรานำมาปรับสักนิดสักหน่อย มันก็สามารถที่จะนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง โดยที่ไม่ยุ่งยากลำบากแล้วค่ะ !!
แต่ขอแอบกระซิบนิดนึงนะคะ ว่าการกินแบบนี้จะเหมือนว่ามีแต่โปรตีนกับไขมันเป็นหลัก เนื่องจากเป็นการกินแบบ Low Carb
เพราะฉะนั้นเอมอยากให้ทุกคนเข้าใจว่า Low Carb ไม่ใช่ No Carb เพราะยังไงแป้งก็ห้ามตัดออกจากเมนูอาหารเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเราก็จะไม่มีแรงค่ะ !! ขอเน้นตรงนี้เลยนะคะ !!
สำหรับเอม เอมก็มีหลุด ๆ บ้างใน 1 เดือน แต่ผลที่ได้ก็ค่อนข้างน่าพอใจค่ะ
จาก 54 เหลือ 51.8 กิโล คือช่วงหลังหลุดเยอะก็เลยลงช้า 5555 แต่รูปร่างคือผ่านมาก !! ก็เลยหลงรัก my mostly paleo ไปเลยค่ะ 5555
ป.ล. ไม่ได้นับแคลแต่อย่างใดด้วยค่า
ยังไงก็หวังว่าวิธีการกินแบบนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับใครที่กำลังอยากลดน้ำหนักนะคะ
เชื่อเอมเถอะค่ะว่าการออกกำลังกายและควบคุมอาหารนี่คือที่สุดของการมีรูปร่างที่ดีไปพร้อมกับสุขภาพที่ดีแล้ว อย่าไปหวังพึ่งยาลดความอ้วน หรือสูตรลดน้ำหนัก 7 โล ใน 7 วันอะไรนั่นเลยค่ะ ไม่คุ้มกับผลเสียที่ตามมาจริง ๆ ค่ะ
ถ้าเพื่อน ๆ คนไหนยังไม่แน่ใจเมนูก็ไปส่องต่อได้ใน ig : aim.healthygirl #mymostlypaleo (ใครที่ทำแล้วก็แฮชแท็กมาแบ่งปันเอมบ้างนะคะ)
หรือถ้าสงสัยก็สอบถามเอมได้เพิ่มเติมที่ ig : aim.healthygirl หรือ FB Page : Female Fit หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลาย ๆ คนนะคะ
อ่านมาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะสงสัยว่าสูตรนี้ไม่ทานแป้งเลยหรือ แล้วจะมีผลกระทบตามมาไหม แต่คุณเอมก็ชี้แจงว่า สูตรนี้เป็น Low Carb ไม่ใช่ No Carb ดังนั้นเธอยังคงทานแป้ง แต่เป็นแป้งจากผลไม้ มัน ฟักทอง เผือก เพียงแต่ไม่ทานข้าวเท่านั้นเอง หรือนาน ๆ ทานข้าวที เพราะถ้าไม่ทานแป้งเลยร่างกายคงไม่มีแรงแน่ ๆ และถ้าจะให้ดีควรใช้สูตรนี้ควบคู่กับการออกกำลังกายด้วยค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพจาก
คุณ female fit สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม