เป็นคนอ้วนง่ายแต่ผอมยาก จะต้องลดน้ำหนักยังไงให้ได้ในระดับที่พอใจ ลองมาเก็บสูตรลดความอ้วนของคนที่น้ำหนักขึ้นง่ายแต่ลงยากกันค่ะ
1. งดน้ำหวาน
น้ำหวานไม่ว่าจะชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำหวานใส ๆ ทุกชนิดที่ไม่ใช่น้ำเปล่า งดให้หมดทุกสิ่งเลยค่ะ เพราะในแต่ละวันร่างกายเราได้รับน้ำตาลจากอาหารหรือผลไม้มากพออยู่แล้ว ดังนั้นการที่ดื่มน้ำหวานเพิ่มเข้าไปก็อาจทำให้มีปริมาณน้ำตาลสะสมในร่างกายมากเกินกว่าที่ระบบเผาผลาญจะกำจัดได้หมด ซึ่งก็แน่นอนว่าสิ่งที่จะตามมาก็คือความอ้วน และแม้จะเถียงว่านี่ก็ออกกำลังกายอย่างหนัก ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ แต่ถ้ายังดื้อดื่มน้ำหวานไม่เปลี่ยนด้วย ออกกำลังกายให้เหงื่อหมดตัวก็คงไม่ผอมง่าย ๆ แน่
2. จำกัดของหวานสัปดาห์ละครั้ง
การงดอาหารพาอ้วนซึ่งเป็นอาหารโปรดของเราอาจทำให้วันหนึ่งเกิดอาการโยโย่เอฟเฟกต์ขึ้นมาได้ ดังนั้นหากจะมี cheat meal ก็ขอจำกัดแค่สัปดาห์ละครั้งก็พอค่ะ แล้วพยายามกินอาหารเพื่อสุขภาพให้มากขึ้น เพื่อเป็นการฝึกทัศนคติของตัวเองในเรื่องอาหารการกินไปด้วยในตัว
3. พยายามทำอาหารกินเอง
หัวใจของการลดน้ำหนักคือการพยายามควบคุมปริมาณแคลอรีในร่างกาย อธิบายง่าย ๆ คือเอาพลังงานออกให้มากกว่านำพลังงานเข้า ซึ่งก็คือการกินให้น้อยลงเพื่อให้ร่างกายได้รับแคลอรีที่น้อยลงตามไปด้วย ดังนั้นการทำอาหารกินเองจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการควบคุมอาหารค่ะ เพราะเราจะสามารถเลือกวัตถุดิบ สารอาหาร เครื่องปรุง รสชาติ และความสะอาดเองได้ ดังนั้นหากอยากลดความอ้วนให้สำเร็จต้องขยันทำอาหารกินเองมากกว่าไปซื้ออาหารนอกบ้านกินนะคะ
4. ขยับให้บ่อยขึ้น
ถ้าเรารู้ตัวว่ากินไปนิดเดียวก็อ้วนแล้ว เราก็ยิ่งต้องเปิดโอกาสให้ร่างกายได้ใช้พลังงานเยอะ ๆ เข้าไว้ ง่าย ๆ ก็แค่ขยับเคลื่อนไหวให้มากขึ้น บ่อยขึ้น เช่น ขึ้นบันไดแทนขึ้นลิฟต์หรือบันไดเลื่อน รวมไปถึงหมั่นเดินให้เยอะขึ้นในทุกโอกาส เพื่อเพิ่มการเผาผลาญให้มากขึ้นนั่นเอง
5. เวทเทรนนิ่งร่วมกับคาร์ดิโอ
เวทเทรนนิ่งเป็นการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกายมากขึ้นได้ โดยเฉพาะหากคุณคาร์ดิโอก่อนแล้วมาเวทเทรนนิ่งต่อ ก็จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญมากขึ้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเลยทีเดียว
6. ออกกำลังกายอย่างน้อย 45 นาที
อย่าคิดแค่ว่าเหงื่อออกชุ่ม ๆ ก็เท่ากับได้เบิร์น เพราะบางคนออกกำลังกายแบบขอไปทีจริง ๆ ค่ะ แล้วอย่างนี้จะผอมตอนไหนกันล่ะเนอะ ดังนั้นถ้าอยากผอมอย่างมีสุขภาพดี ควรต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 45 นาทีต่อเนื่องกันด้วย
7. ปรับเปลี่ยนวิธีออกกำลังกายบ้าง
การออกกำลังกายแบบเดิม ๆ เป็นประจำ อาจเป็นการจำกัดขีดกำลังความสามารถในการเบิร์นพลังงานของร่างกายโดยที่เราไม่รู้ตัวค่ะ เช่น คนที่เคยเดินออกกำลังกาย 45 นาที ก็เดินอยู่อย่างนั้นเป็นปี ๆ น้ำหนักคงลงบ้างแต่ก็คงช้าหน่อย ฉะนั้นหากอยากให้ผอมเร็ว ๆ ควรปรับเปลี่ยนกิจกรรมออกกำลังกายให้มีความหลากหลาย เช่น จากเคยเดินก็ให้เริ่มจ๊อกกิ้ง เคยปั่นจักรยานก็มาว่ายน้ำ เคยเต้นคาร์ดิโอก็ลองมาชกมวยดูบ้าง หรือสลับคาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง บอดี้เวท เซอร์กิตเทรนนิ่งวน ๆ ไป เพื่อเพิ่มศักยภาพในการออกกำลังกายและเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงาน
8. ห้ามเครียด
ความเครียดส่งผลต่อความอ้วนได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียวค่ะ เพราะเมื่อเราเครียด โดยเฉพาะหากลดน้ำหนักแล้วน้ำหนักไม่ลงสักที ฮอร์โมนความเครียดที่ชื่อว่าคอร์ติซอลจะออกมาป่วนร่างกายเรา ทำให้เราอยากกินของหวานมากขึ้น อยากกินจุบกินจิบมากขึ้น ซึ่งก็เป็นอุปสรรคใหญ่แห่งการลดความอ้วนเลยนะ ดังนั้นพยายามอย่าไปสนใจตัวเลขบนตาชั่งน้ำหนักค่ะ แต่มุ่งมั่นคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างถูกวิธีไปเรื่อย ๆ ที่สำคัญพยายามปล่อยวางเรื่องเครียด ๆ รอบตัวด้วยล่ะ
9. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
เราควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 6-7 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการนอนไม่หลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพอก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คุณลดน้ำหนักไม่สำเร็จเช่นเดียวกันค่ะ เพราะคนที่นอนน้อย หรือนอนไม่หลับจะส่งผลให้ฮอร์โมนที่ควบคุมความอิ่มหรือความอยากอาหารเสียสมดุล อีกทั้งยังทำให้ระบบเผาผลาญตอนนอนทำได้ไม่เต็มที่ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้น้ำหนักลดลงได้ยาก
10. ถ้าถึงที่สุด ให้ปรึกษาแพทย์
อย่างที่บอกว่าปัจจัยที่ทำให้อ้วนง่าย ผอมยาก หรืออ้วนยาก กินเท่าไรก็ไม่อ้วน บางทีก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราสักนิดค่ะ แต่เป็นเพราะร่างกายของเรามีความผิดปกติบางอย่างขึ้น เช่น บางคนมีโรคประจำตัวอย่างไทรอยด์ เบาหวาน หรือโรคที่ส่งผลกระทบต่อระบบการย่อยอาหารและการเผาผลาญของร่างกาย หรือแม้กระทั่งการกินยาบางชนิดก็ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นได้ ดังนั้นใครที่มีโรคประจำตัวเหล่านี้ หรือกินยาบางตัวมานาน ๆ หากลองลดน้ำหนักด้วยตัวเองแล้วไม่ได้ผล ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาและขอคำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกายที่ปลอดภัยและเหมาะกับตัวเองจะดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีพันธุกรรมหรือฮอร์โมนมากำหนด ทว่าท้ายที่สุดแล้วหากใจเราอยากลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ก็เชื่อว่าทุกคนจะสามารถก้าวข้ามทุกอุปสรรคที่มีได้ และหากใครติดกับความคิดว่ารูปร่างเราโครงใหญ่มาตั้งแต่เกิด คงลดน้ำหนักยาก เราอยากให้มาดูวิธีลดน้ำหนักตามรูปร่างที่จะพาคุณผอมทะลุพันธุกรรมตามนี้
- ลดน้ำหนักตามรูปร่าง กินให้ต่าง ออกกำลังกายให้ถูกก็หุ่นดีได้
ขอบคุณข้อมูลจาก
ทวิตเตอร์ Thidakarn
time
health.usnews
livestrong
บางคนอ้วนง่าย
กินอะไรนิดหน่อยก็น้ำหนักขึ้น
ดูมีน้ำมีนวลจนคนรอบข้างเห็นได้ชัดต้องทักให้รู้ตัว
ทว่าบางคนกลับกินเท่าไรก็ไม่อ้วน
น้ำหนักไม่เคยขึ้นให้รู้สึกถึงคำว่าอ้วนสักที
นั่นแสดงให้เห็นเลยค่ะว่าปัจจัยในการอ้วนหรือผอมของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน
แม้ว่าจะใช้ชีวิตและกินอาหารเหมือน ๆ กันก็ตาม
เพราะนอกจากพฤติกรรมการบริโภคหรือไลฟ์สไตล์แล้ว สิ่งที่กำหนดว่าเราจะอ้วนหรือผอมได้ง่ายหรือยากก็มีทั้งกรรมพันธุ์ การทำงานของต่อมไทรอยด์ หรือยีนบางตัวก็เช่นกัน ทั้งหมดนี้ส่งผลให้คนเราอ้วนหรือผอมต่างกันแม้จะใช้ชีวิตคล้าย ๆ กัน ทว่าหากรู้สึกว่าเราอ้วนขึ้นง่ายมากแต่ลดน้ำหนักยากเหลือเกิน ก็อย่าเพิ่งท้อใจค่ะ เพราะกระปุกดอทคอมมีวิธีลดน้ำหนักสำหรับคนอ้วนง่ายแต่ผอมยากมาให้ลองเปลี่ยนตัวเองดู
เพราะนอกจากพฤติกรรมการบริโภคหรือไลฟ์สไตล์แล้ว สิ่งที่กำหนดว่าเราจะอ้วนหรือผอมได้ง่ายหรือยากก็มีทั้งกรรมพันธุ์ การทำงานของต่อมไทรอยด์ หรือยีนบางตัวก็เช่นกัน ทั้งหมดนี้ส่งผลให้คนเราอ้วนหรือผอมต่างกันแม้จะใช้ชีวิตคล้าย ๆ กัน ทว่าหากรู้สึกว่าเราอ้วนขึ้นง่ายมากแต่ลดน้ำหนักยากเหลือเกิน ก็อย่าเพิ่งท้อใจค่ะ เพราะกระปุกดอทคอมมีวิธีลดน้ำหนักสำหรับคนอ้วนง่ายแต่ผอมยากมาให้ลองเปลี่ยนตัวเองดู
1. งดน้ำหวาน
น้ำหวานไม่ว่าจะชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำหวานใส ๆ ทุกชนิดที่ไม่ใช่น้ำเปล่า งดให้หมดทุกสิ่งเลยค่ะ เพราะในแต่ละวันร่างกายเราได้รับน้ำตาลจากอาหารหรือผลไม้มากพออยู่แล้ว ดังนั้นการที่ดื่มน้ำหวานเพิ่มเข้าไปก็อาจทำให้มีปริมาณน้ำตาลสะสมในร่างกายมากเกินกว่าที่ระบบเผาผลาญจะกำจัดได้หมด ซึ่งก็แน่นอนว่าสิ่งที่จะตามมาก็คือความอ้วน และแม้จะเถียงว่านี่ก็ออกกำลังกายอย่างหนัก ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ แต่ถ้ายังดื้อดื่มน้ำหวานไม่เปลี่ยนด้วย ออกกำลังกายให้เหงื่อหมดตัวก็คงไม่ผอมง่าย ๆ แน่
2. จำกัดของหวานสัปดาห์ละครั้ง
การงดอาหารพาอ้วนซึ่งเป็นอาหารโปรดของเราอาจทำให้วันหนึ่งเกิดอาการโยโย่เอฟเฟกต์ขึ้นมาได้ ดังนั้นหากจะมี cheat meal ก็ขอจำกัดแค่สัปดาห์ละครั้งก็พอค่ะ แล้วพยายามกินอาหารเพื่อสุขภาพให้มากขึ้น เพื่อเป็นการฝึกทัศนคติของตัวเองในเรื่องอาหารการกินไปด้วยในตัว
3. พยายามทำอาหารกินเอง
หัวใจของการลดน้ำหนักคือการพยายามควบคุมปริมาณแคลอรีในร่างกาย อธิบายง่าย ๆ คือเอาพลังงานออกให้มากกว่านำพลังงานเข้า ซึ่งก็คือการกินให้น้อยลงเพื่อให้ร่างกายได้รับแคลอรีที่น้อยลงตามไปด้วย ดังนั้นการทำอาหารกินเองจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการควบคุมอาหารค่ะ เพราะเราจะสามารถเลือกวัตถุดิบ สารอาหาร เครื่องปรุง รสชาติ และความสะอาดเองได้ ดังนั้นหากอยากลดความอ้วนให้สำเร็จต้องขยันทำอาหารกินเองมากกว่าไปซื้ออาหารนอกบ้านกินนะคะ
4. ขยับให้บ่อยขึ้น
ถ้าเรารู้ตัวว่ากินไปนิดเดียวก็อ้วนแล้ว เราก็ยิ่งต้องเปิดโอกาสให้ร่างกายได้ใช้พลังงานเยอะ ๆ เข้าไว้ ง่าย ๆ ก็แค่ขยับเคลื่อนไหวให้มากขึ้น บ่อยขึ้น เช่น ขึ้นบันไดแทนขึ้นลิฟต์หรือบันไดเลื่อน รวมไปถึงหมั่นเดินให้เยอะขึ้นในทุกโอกาส เพื่อเพิ่มการเผาผลาญให้มากขึ้นนั่นเอง
5. เวทเทรนนิ่งร่วมกับคาร์ดิโอ
เวทเทรนนิ่งเป็นการออกกำลังกายสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งจะช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงานในร่างกายมากขึ้นได้ โดยเฉพาะหากคุณคาร์ดิโอก่อนแล้วมาเวทเทรนนิ่งต่อ ก็จะช่วยกระตุ้นการทำงานของระบบเผาผลาญมากขึ้นได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเลยทีเดียว
อย่าคิดแค่ว่าเหงื่อออกชุ่ม ๆ ก็เท่ากับได้เบิร์น เพราะบางคนออกกำลังกายแบบขอไปทีจริง ๆ ค่ะ แล้วอย่างนี้จะผอมตอนไหนกันล่ะเนอะ ดังนั้นถ้าอยากผอมอย่างมีสุขภาพดี ควรต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อย 45 นาทีต่อเนื่องกันด้วย
7. ปรับเปลี่ยนวิธีออกกำลังกายบ้าง
การออกกำลังกายแบบเดิม ๆ เป็นประจำ อาจเป็นการจำกัดขีดกำลังความสามารถในการเบิร์นพลังงานของร่างกายโดยที่เราไม่รู้ตัวค่ะ เช่น คนที่เคยเดินออกกำลังกาย 45 นาที ก็เดินอยู่อย่างนั้นเป็นปี ๆ น้ำหนักคงลงบ้างแต่ก็คงช้าหน่อย ฉะนั้นหากอยากให้ผอมเร็ว ๆ ควรปรับเปลี่ยนกิจกรรมออกกำลังกายให้มีความหลากหลาย เช่น จากเคยเดินก็ให้เริ่มจ๊อกกิ้ง เคยปั่นจักรยานก็มาว่ายน้ำ เคยเต้นคาร์ดิโอก็ลองมาชกมวยดูบ้าง หรือสลับคาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง บอดี้เวท เซอร์กิตเทรนนิ่งวน ๆ ไป เพื่อเพิ่มศักยภาพในการออกกำลังกายและเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญพลังงาน
8. ห้ามเครียด
ความเครียดส่งผลต่อความอ้วนได้ค่อนข้างมากเลยทีเดียวค่ะ เพราะเมื่อเราเครียด โดยเฉพาะหากลดน้ำหนักแล้วน้ำหนักไม่ลงสักที ฮอร์โมนความเครียดที่ชื่อว่าคอร์ติซอลจะออกมาป่วนร่างกายเรา ทำให้เราอยากกินของหวานมากขึ้น อยากกินจุบกินจิบมากขึ้น ซึ่งก็เป็นอุปสรรคใหญ่แห่งการลดความอ้วนเลยนะ ดังนั้นพยายามอย่าไปสนใจตัวเลขบนตาชั่งน้ำหนักค่ะ แต่มุ่งมั่นคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างถูกวิธีไปเรื่อย ๆ ที่สำคัญพยายามปล่อยวางเรื่องเครียด ๆ รอบตัวด้วยล่ะ
9. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
เราควรนอนหลับพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 6-7 ชั่วโมงต่อวัน เพราะการนอนไม่หลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพอก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้คุณลดน้ำหนักไม่สำเร็จเช่นเดียวกันค่ะ เพราะคนที่นอนน้อย หรือนอนไม่หลับจะส่งผลให้ฮอร์โมนที่ควบคุมความอิ่มหรือความอยากอาหารเสียสมดุล อีกทั้งยังทำให้ระบบเผาผลาญตอนนอนทำได้ไม่เต็มที่ และด้วยเหตุนี้จึงทำให้น้ำหนักลดลงได้ยาก
10. ถ้าถึงที่สุด ให้ปรึกษาแพทย์
อย่างที่บอกว่าปัจจัยที่ทำให้อ้วนง่าย ผอมยาก หรืออ้วนยาก กินเท่าไรก็ไม่อ้วน บางทีก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราสักนิดค่ะ แต่เป็นเพราะร่างกายของเรามีความผิดปกติบางอย่างขึ้น เช่น บางคนมีโรคประจำตัวอย่างไทรอยด์ เบาหวาน หรือโรคที่ส่งผลกระทบต่อระบบการย่อยอาหารและการเผาผลาญของร่างกาย หรือแม้กระทั่งการกินยาบางชนิดก็ส่งผลให้น้ำหนักขึ้นได้ ดังนั้นใครที่มีโรคประจำตัวเหล่านี้ หรือกินยาบางตัวมานาน ๆ หากลองลดน้ำหนักด้วยตัวเองแล้วไม่ได้ผล ทางที่ดีควรปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาและขอคำแนะนำเกี่ยวกับการออกกำลังกายที่ปลอดภัยและเหมาะกับตัวเองจะดีที่สุด
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีพันธุกรรมหรือฮอร์โมนมากำหนด ทว่าท้ายที่สุดแล้วหากใจเราอยากลดน้ำหนักอย่างจริงจัง ก็เชื่อว่าทุกคนจะสามารถก้าวข้ามทุกอุปสรรคที่มีได้ และหากใครติดกับความคิดว่ารูปร่างเราโครงใหญ่มาตั้งแต่เกิด คงลดน้ำหนักยาก เราอยากให้มาดูวิธีลดน้ำหนักตามรูปร่างที่จะพาคุณผอมทะลุพันธุกรรมตามนี้
- ลดน้ำหนักตามรูปร่าง กินให้ต่าง ออกกำลังกายให้ถูกก็หุ่นดีได้
ขอบคุณข้อมูลจาก
ทวิตเตอร์ Thidakarn
time
health.usnews
livestrong