เปลือกแตงโมอย่าทิ้ง ! เพราะเนื้อสีขาวที่ติดกับเปลือกแตงโมสามารถทานได้ แถมมีประโยชน์เพียบ ไม่น้อยหน้าเนื้อสีแดงของแตงโมเลยล่ะ
แตงโมเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ยันเปลือกจริง ๆ เพราะนอกจากเนื้อสีแดงของแตงโมจะอร่อยและดีต่อสุขภาพแล้ว เปลือกอ่อนหรือเนื้อส่วนสีขาวที่ติดกับเปลือกก็ยังให้ประโยชน์ดี ๆ อีกเพียบ จากกรดอะมิโนซิทลีนที่มีคุณประโยชน์มากมายซึ่งพบในเนื้อสีขาวมากกว่าสีแดงเสียอีก อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าคนส่วนมากไม่ค่อยรู้จักประโยชน์ของเปลือกของแตงโมกันสักเท่าไร ผ่าแตงโมทีไรก็ทานเฉพาะแต่เนื้อสีแดง ๆ จนพลาดสารตัวนี้ไปอย่างน่าเสียดาย ฉะนั้นวันนี้เราจึงนำประโยชน์เด็ด ๆ ของเนื้อสีขาวตรงเปลือกแตงโมมาบอกต่อ รับรองว่าถ้ารู้แล้ว ต้องอยากทานเนื้อส่วนนี้จนโยนทิ้งกันไม่ลงเลยล่ะ !
เนื้อสีขาวตรงเปลือกแตงโมขนาดประมาณลูกเต๋า 1 นิ้ว มีพลังงานเพียงแค่ 1.8 กิโลแคลอรีเท่านั้นเองค่ะ แถมส่วนนี้ยังมีไฟเบอร์สูงอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งหลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าการทานไฟเบอร์จะช่วยให้เรารู้สึกอิ่มไวและอิ่มนาน รวมถึงช่วยกระตุ้นระบบขับถ่ายให้ดีขึ้นอีกด้วย ดังนั้นการทานแตงโมติดเนื้อสีขาว ๆ เข้าไปด้วย ก็จะมีช่วยให้เราควบคุมน้ำหนักได้ในทางอ้อม เพราะไม่ต้องหิวบ่อย ๆ จนเผลอหยิบขนมไม่มีประโยชน์มาทาน
ฟื้นฟูกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย
มีงานวิจัยจากประเทศสเปนพบว่า น้ำแตงโมมีกรดอะมิโน แอลซิทรูลีน ซึ่งมีส่วนช่วยลดระยะเวลาการซ่อมแซมและฟื้นคืนของกล้ามเนื้อ เพราะกรดชนิดนี้จะเข้าไปกำจัดกรดแลคติกส่วนเกินที่ทำให้ปวดล้ากล้ามเนื้อออกไป ดังนั้นจึงแนะนำให้ดื่มน้ำแตงโมหลังออกกำลังกาย แต่ประโยชน์ข้อนี้ก็หาได้ในเนื้อสีขาว ๆ ที่ติดอยู่ตรงเปลือกแตงโมด้วยเช่นกันค่ะ เพราะอย่างที่บอกไปว่า เนื้อสีขาวของแตงโมมีกรดอะมิโนชนิดนี้มากกว่าส่วนเนื้อสีแดงเสียอีก ดังนั้น หากใครออกกำลังกายเสร็จแล้วอยากหาอาหารที่ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ลดอาการเจ็บปวดให้หายเร็วขึ้น ก็ทานแตงโมแบบติดเนื้อขาว ๆ เข้าไปด้วยนะคะ
ออกฤทธิ์คล้ายไวอากร้า
น่าจะเคยได้ยินว่า แตงโม ถูกเรียกว่าเป็น "ไวอากร้าธรรมชาติ" ได้ยินแบบนี้เชื่อว่าผู้ชายหลาย ๆ คนคงยิ้มกับประโยชน์ในข้อนี้ แต่ต้องบอกก่อนค่ะว่า ที่เราบอกว่าออกฤทธิ์คล้ายไวอากร้า หมายถึง ช่วยขยายหลอดเลือดและกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดีขึ้น เนื่องจากในเนื้อสีขาวของแตงโมมีกรดอะมิโนซิทรูลีนที่สามารถทำปฏิกิริยากับเอนไซม์ในร่างกายจนเกิดกรดอะมิโนอาร์จินีนขึ้นมา ซึ่งเป็นกรดที่ช่วยให้หลอดเลือดคลายตัว และทำให้ระบบหมุนเวียนทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งมีฤทธิ์คล้ายคลึงกับยาไวอากร้านั่นเอง
แต่ทว่าในเรื่องการเสริมสร้างสมรรถภาพทางเพศนั้น งานวิจัยก็ระบุว่า แตงโมไม่ได้ช่วยแก้อาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศหรือแก้อาการนกเขาไม่ขันโดยตรง แต่การทานเนื้อสีขาวตรงเปลือกแตงโมก็อาจช่วยกระตุ้นให้มีเลือดไปหล่อเลี้ยงที่อวัยวะเพศชายได้มากขึ้น จึงอาจช่วยคงสภาพการขยายตัวของอวัยวะเพศชายได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังไม่ใช่ข้อสรุปที่แน่ชัดนะคะ เพราะฉะนั้นหากจะทานแตงโมเพื่อหวังผลเหมือนยาไวอากร้าคงเป็นไปไม่ได้แน่ ๆ
ช่วยให้ระบบปัสสาวะทำงานได้ดีขึ้น
ทั้งเนื้อสีแดงและเนื้อส่วนสีขาวติดเปลือกแตงโมล้วนมีน้ำประกอบอยู่ในปริมาณมาก ดังนั้นเมื่อทานเนื้อแตงโมเข้าไปก็จะช่วยให้ขับถ่ายปัสสาวะออกมาได้ดี ทำให้กระเพาะปัสสาวะของเราสะอาด ไม่มีของเสียตกค้างอยู่ภายใน จึงห่างไกลจากโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบได้ด้วยค่ะ และยังส่งผลดีต่อไปถึงไต ซึ่งทำงานเชื่อมโยงกับกระเพาะปัสสาวะอีกต่างหาก
ลดความดันโลหิต
เนื่องจากเนื้อสีขาวติดเปลือกแตงโมมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ การที่เราทานเนื้อส่วนนี้ของแตงโมเป็นประจำ จึงช่วยกำจัดน้ำส่วนเกินในกระแสเลือดออกไป ส่งผลให้อาการบวมน้ำและความดันโลหิตลดลงได้ ขณะเดียวกันกรดแอล-ซิทรูลีนที่มีอยู่ในแตงโม และทำให้เกิดกรดอาร์จีนินได้นั้น ยังเป็นสารตั้งต้นให้ร่างกายผลิตไนตริกออกไซด์ขึ้นมาช่วยให้หลอดเลือดคลายตัว เพิ่มการไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายได้ดีขึ้น จึงช่วยควบคุมและลดความดันโลหิตให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ แถมยังลดความเสี่ยงโรคหัวใจได้อีกนะคะ
มีสารต้านอนุมูลอิสระ
วารสาร Journal of the Science of Food and Agriculture ฉบับเดือนมีนาคมปี 2011 ระบุว่า กรดซิทรูลีนในของแตงโมเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกชนิดหนึ่งเหมือนกัน ดังนั้นเวลาทานแตงโมก็อย่าลืมทานตรงเนื้อสีขาว ๆ ที่มีกรดชนิดนี้อยู่เป็นจำนวนมากด้วยนะคะ เพื่อให้กรดซิทรูลีนช่วยป้องกันการถูกทำร้ายจากอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง
เห็นไหมคะว่า นอกจากเนื้อสีแดงจะมีประโยชน์แล้ว เนื้อส่วนสีขาวที่ติดกับเปลือกแตงก็ยังให้ประโยชน์ดี ๆ ได้อีกหลายอย่าง ดังนั้นใครที่ชอบทานแตงโมแค่ตรงเนื้อสีแดง คราวหน้าคงต้องหั่นเนื้อสีขาวติดไปด้วยแล้วล่ะ แต่ที่สำคัญก็คือ ต้องล้างแตงโมให้สะอาดก่อนรับประทานนะคะ เพราะแตงโมเป็นผลไม้ที่ชาวสวนมักฉีดยาฆ่าแมลง หากไม่ล้างให้สะอาดแล้วนำมาทาน สารตกค้างในแตงโมอาจเข้าไปสะสมในร่างกายจนเป็นอันตรายกับสุขภาพได้เหมือนกัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Healthdigezt
Healthline
Livestrong