พยาบาลสาวแชร์ภาพน่ากลัว แต่เป็นความจริง เทียบให้เห็นชัด ๆ ระหว่าง ปอดของคนที่สูบบุหรี่จัด กับคนที่ไม่สูบบุหรี่ สิงห์อมควันเห็นแล้วอาจจะอยากเลิกบุหรี่ขึ้นมาทันที
บุหรี่เป็นอันตรายทั้งต่อตัวผู้สูบเอง รวมไปถึงผู้คนที่อยู่รอบข้าง เมื่อไหร่ก็ตามที่นำมันเข้าปาก ก็เท่ากับว่ามันได้เริ่มคร่าชีวิตเราแล้ว แต่แม้ว่าจะรู้ว่ามันอันตรายแค่ไหน หลายคนก็ไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ ในขณะเดียวก็ มีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากจะเลิกสูบบุหรี่ แต่ยังหาเหตุผลให้เป็นแรงจูงใจไม่ได้ ทว่าหากได้เห็นคลิปภาพและเรื่องราวที่ เว็บไซต์ Bored Panda นำมาเสนอ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 อาจจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นก็เป็นได้
โลกออนไลน์ได้พากันแชร์คลิปวิดีโอจาก เฟซบุ๊กของ อะแมนดา เอลเลอร์ (Amanda Eller) พยาบาลสาวชาวอเมริกัน จากรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐฯ เป็นคลิปวิดีโออวัยวะปอดของมนุษย์ 2 ชิ้น แสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่าง ปอดของคนที่สุขภาพดี เปรียบเทียบกับปอดของคนที่สูบบุหรี่จัด ซึ่งแม้จะชวนให้รู้สึกน่ากลัว แต่ก็เป็นความจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ซึ่งภายหลังจากมาโพสต์เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา ก็มีผู้แชร์ต่อกันมากกว่า 5.5 แสนครั้งด้วยกัน
จากคลิปวิดีโอดังกล่าว ไม่ต้องบอกก็สามารถทราบได้ในทันทีว่า ปอดชิ้นไหนเป็นของใคร เพราะเห็นได้ชัดเจนว่า ปอดของผู้ที่มีสุขภาพดีจะเป็นสีแดงอมชมพูสด ส่วนปอดของผู้ที่สูบบุหรี่จัดเฉลี่ยวันละ 1 ซองนานติดต่อกัน 20 ปี เป็นสภาพเป็นสีดำทะมึน ลักษณะคล้ายซากสิ่งที่เหลือจากการเผาไหม้
"เนื่องจากว่าปอดชิ้นนี้
(สีดำ) เป็นโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคมะเร็งปอด ความยืดหยุ่นของปอดหายไป
แม้มันจะสามารถขยายได้ แต่จะหดตัวกลับอย่างรวดเร็ว"
เสียงในคลิปวิดีโอดังกล่าว อธิบาย ซึ่งต่างจากอีกคลิปวิดีโอ
ที่แสดงให้เห็นว่า ปอดที่มีสุขภาพดี จะมีความยืดหยุ่นได้ดี
โดยความยืดหยุ่นของปอด หรือ Lung Elastance คือความสามารถที่ปอดจะตอบสนองได้ ภายหลังจากมีการหายใจเข้าไป การที่ความยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้ปอดเกิดภาวะฝืดตัว และต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้นำอากาศเข้ามาอย่างเพียงพอ ส่งผลให้เกิดอาการหายใจติดขัด
ทั้งนี้ จากรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention หรือ CDC) ของสหรัฐฯ เผยว่า "อัตราการเสียชีวิตโดยรวมของผู้สูบบุหรี่ทั้งเพศหญิงและเพศชายในสหรัฐฯ คิดเป็นปริมาณ 3 เท่าของผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่" โดยประมาณ 1 ใน 5 ของผู้เสียชีวิตแต่ละปี มีสาเหตุมาจากบุหรี่ หรือตกราว ๆ ปีละ 480,000 ราย ที่ถูกบุหรี่คร่าชีวิตจากไป
อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่แล้วอ่านมาถึงจุดนี้ ก็นับว่ายังไม่สายเกินไป ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเลิกบุหรี่ก่อนอายุ 40 ปี มีโอกาสที่จะลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ได้สูงสุดถึง 90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Amanda Eller
บุหรี่เป็นอันตรายทั้งต่อตัวผู้สูบเอง รวมไปถึงผู้คนที่อยู่รอบข้าง เมื่อไหร่ก็ตามที่นำมันเข้าปาก ก็เท่ากับว่ามันได้เริ่มคร่าชีวิตเราแล้ว แต่แม้ว่าจะรู้ว่ามันอันตรายแค่ไหน หลายคนก็ไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ ในขณะเดียวก็ มีคนจำนวนไม่น้อยที่อยากจะเลิกสูบบุหรี่ แต่ยังหาเหตุผลให้เป็นแรงจูงใจไม่ได้ ทว่าหากได้เห็นคลิปภาพและเรื่องราวที่ เว็บไซต์ Bored Panda นำมาเสนอ เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 อาจจะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นก็เป็นได้
โลกออนไลน์ได้พากันแชร์คลิปวิดีโอจาก เฟซบุ๊กของ อะแมนดา เอลเลอร์ (Amanda Eller) พยาบาลสาวชาวอเมริกัน จากรัฐนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐฯ เป็นคลิปวิดีโออวัยวะปอดของมนุษย์ 2 ชิ้น แสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่าง ปอดของคนที่สุขภาพดี เปรียบเทียบกับปอดของคนที่สูบบุหรี่จัด ซึ่งแม้จะชวนให้รู้สึกน่ากลัว แต่ก็เป็นความจริงที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ซึ่งภายหลังจากมาโพสต์เมื่อวันที่ 24 เมษายน ที่ผ่านมา ก็มีผู้แชร์ต่อกันมากกว่า 5.5 แสนครั้งด้วยกัน
จากคลิปวิดีโอดังกล่าว ไม่ต้องบอกก็สามารถทราบได้ในทันทีว่า ปอดชิ้นไหนเป็นของใคร เพราะเห็นได้ชัดเจนว่า ปอดของผู้ที่มีสุขภาพดีจะเป็นสีแดงอมชมพูสด ส่วนปอดของผู้ที่สูบบุหรี่จัดเฉลี่ยวันละ 1 ซองนานติดต่อกัน 20 ปี เป็นสภาพเป็นสีดำทะมึน ลักษณะคล้ายซากสิ่งที่เหลือจากการเผาไหม้
โดยความยืดหยุ่นของปอด หรือ Lung Elastance คือความสามารถที่ปอดจะตอบสนองได้ ภายหลังจากมีการหายใจเข้าไป การที่ความยืดหยุ่นน้อยลง ทำให้ปอดเกิดภาวะฝืดตัว และต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อให้นำอากาศเข้ามาอย่างเพียงพอ ส่งผลให้เกิดอาการหายใจติดขัด
ทั้งนี้ จากรายงานของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (Centers for Disease Control and Prevention หรือ CDC) ของสหรัฐฯ เผยว่า "อัตราการเสียชีวิตโดยรวมของผู้สูบบุหรี่ทั้งเพศหญิงและเพศชายในสหรัฐฯ คิดเป็นปริมาณ 3 เท่าของผู้ที่ไม่เคยสูบบุหรี่" โดยประมาณ 1 ใน 5 ของผู้เสียชีวิตแต่ละปี มีสาเหตุมาจากบุหรี่ หรือตกราว ๆ ปีละ 480,000 ราย ที่ถูกบุหรี่คร่าชีวิตจากไป
อย่างไรก็ดี สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่แล้วอ่านมาถึงจุดนี้ ก็นับว่ายังไม่สายเกินไป ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเลิกบุหรี่ก่อนอายุ 40 ปี มีโอกาสที่จะลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ได้สูงสุดถึง 90 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว