5 ประโยชน์ของการสวดมนต์ ทำสมาธิ วิธีบริหารจิต บำบัดกาย

         สวดมนต์ ทำสมาธิ ไม่ได้มีประโยชน์แค่บริหารจิตเท่านั้น แต่การเปล่งเสียงสวดมนต์ออกมายังมีประโยชน์ด้านสุขภาพด้วยนะ

สวดมนต์

          ผู้หลักผู้ใหญ่มักจะสอนให้เราสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน เหตุผลหนึ่งก็ช่วยบริหารจิตใจ ถือเป็นการสะสมบุญ และเชื่อกันว่าการสวดมนต์ก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับสบายไม่ฝันร้ายด้วยนะคะ ทว่าประโยชน์ของการสวดมนต์ไม่ได้มีแค่นั้น เพราะประโยชน์ของการสวดมนต์ ทำสมาธิ ดีต่อสุขภาพตามนี้เลย

1. ช่วยให้ผ่อนคลาย สบายใจ

          รศ. ดร.สมพร กันทรดุษฎี เตรียมชัยศรี อดีตหัวหน้าภาควิชาการพยาบาลสาธารณสุข คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล  เผยว่า การสวดมนต์ด้วยการเปล่งเสียงออกมาแผ่ว ๆ จะช่วยให้เกิดการสั่นสะเทือน ซึ่งจะไปกระตุ้นการทำงานของตัวรับสัญญาณในร่างกาย ช่วยให้สมองผลิตสารเคมี สารสื่อประสาท และสารสื่อไฟฟ้า รวมไปถึงโปรตีนบางตัวออกมา ช่วยปรับสมดุลให้ร่างกาย และผ่อนคลายความกังวล แก้อาการนอนไม่หลับก็ได้

สวดมนต์

2. ช่วยรักษาแผล

          รศ. ดร.สมพร ยังบอกด้วยว่า การเปล่งเสียงสวดมนต์เบา ๆ พอให้เกิดการสั่นสะเทือน (25 เมกะเฮิรตซ์) จะกระตุ้นให้ร่างกายส่งสัญญาณไปที่สมองส่วนทาลามัส ส่งผลให้สมองส่วนนี้ผลิตสารเคมีและสารสื่อประสาทออกมา ซึ่งมีคุณสมบัติกันสมองชัก ช่วยระงับความเครียด และช่วยเยียวยาแผล

3. ลดน้ำตาลในเลือด

          อย่างที่บอกว่าการเปล่งเสียงสวดมนต์จะช่วยให้เกิดการสั่นสะเทือน กระตุ้นระบบภายในร่างกายให้เกิดความสมดุล และนอกจากนี้การฟังเสียงสวดมนต์ของตัวเราเองยังช่วยให้เซลล์ประสาทส่งสารสื่อประสาทที่มีฤทธิ์คล้ายยานอนหลับ ช่วยลดความเครียด บรรเทาอาการซึมเศร้า และมีส่วนช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดด้วย

4. กระตุ้นการทำงานของหัวใจ

สวดมนต์

           ข้อมูลจากนิตยสารชีวจิต เผยว่า การเปล่งเสียงโอมีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจ และการเปล่งเสียงสวดมนต์อันก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนจะช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนของโลหิต ช่วยให้จิตใจสงบขึ้น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และช่วยคงสมดุลความดันโลหิตด้วย

5. กระตุ้นระบบขับถ่าย

           เสียงสวดมนต์เสียงอีจะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย อย่างที่เวลาเด็กจะปัสสาวะก็จะช่วยกันพูดเสียงฉี่ยาว ๆ ก็จะกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากปัสสาวะมากขึ้นได้ นอกจากนี้เสียงอือยังช่วยกระตุ้นปอด เสียงอูช่วยกระตุ้นม้าม และเสียงออยช่วยกระตุ้นไต

สวดมนต์

ทำไมการสวดมนต์จึงช่วยบำบัดโรคได้

          ดร .นพ.ธวัชชัย กมลธรรม อดีตอธิบดีกรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ระบุว่า หากฟังเสียงสวดมนต์อย่างเดียวจะได้เพียงแค่ผ่อนคลาย เพราะเป็นการรับสัญญาณผ่านทางหู แต่หากเราเปล่งเสียงสวดมนต์ด้วย เท่ากับเป็นการสวดมนต์บำบัด ซึ่งเป็นหลักการหนึ่งของ Vibrational Therapy คือการใช้คุณสมบัติของคลื่นเสียงมาบำบัดความเจ็บป่วย เมื่อเราได้รับคลื่นเสียงช้า ๆ อย่างสม่ำเสมอประมาณ 15 นาที ก็จะช่วยกระตุ้นร่างกายให้เกิดการเยียวยา

          อย่างไรก็ดี ไม่ควรสวดมนต์หลังกินอาหารทันที แต่ควรทิ้งช่วงให้ร่างกายเริ่มผ่อนคลายก่อน เช่น ช่วงเวลาก่อนเข้านอน  หาสถานที่ที่เงียบสงบ สวดบทสั้น ๆ 3-4 พยางค์ ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาทีขึ้นไป จะทำให้ร่างกายได้หลั่งสารเซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทมีฤทธิ์คล้ายยานอนหลับ ช่วยการเรียนรู้ ลดความเครียด ลดอาการซึมเศร้า ลดระดับน้ำตาลในเลือด และเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์สารสื่อประสาทอื่น ๆ เช่น เมลาโทนิน ซึ่งเปรียบคล้ายกับยาอายุวัฒนะ เพราะจะช่วยยืดอายุการทำงานของเซลล์ประสาท เซลล์ร่างกาย ให้ชีวิตเพิ่มภูมิต้านทาน ทำให้เซลล์สดชื่นขึ้นด้วย
 
          ประโยชน์ของการสวดมนต์ภาวนาก็ไม่ธรรมดาเลยนะคะ ใครจะลองสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืนก่อนเป็นอันดับแรกเพื่อยกระดับจิตใจและช่วยส่งเสริมการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายก็ถือว่าเป็นเรื่องดี ๆ ที่น่าทำเลยแหละ

ขอบคุณข้อมูลจาก
ชีวจิต
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
กระทรวงสาธารณสุข

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
5 ประโยชน์ของการสวดมนต์ ทำสมาธิ วิธีบริหารจิต บำบัดกาย อัปเดตล่าสุด 29 ธันวาคม 2563 เวลา 19:39:05 55,290 อ่าน
TOP
x close