สวัสดีค่ะทุกคน เราชื่อหมีนะคะ เนื่องจากว่าเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ คนรู้จักถามกันมาเยอะมากกก...ว่าทำยังไงถึงผอมลง (ขอแทนตัวเองว่าเรานะคะ)
วันนี้เราเลยจะมาแชร์ประสบการณ์ลดน้ำหนักของตัวเอง ว่าเราทำยังไงถึงลดจาก 89 กิโล มา 60 กิโล ซึ่งสำหรับเราเราว่ามันเยอะมากเลยนะตั้ง 29 กิโล และไม่คิดด้วยว่าตัวเองจะทำได้ด้วย ปาดเหงื่อออ !
อะ...เรามาเข้าเรื่องเลยดีกว่า กลัวจะพูดไร้สาระไปมากกว่านี้ (ถ้าขี้เกียจอ่านชีวประวัติความอ้วนของเรา เลื่อนไปย่อหน้าสุดท้ายเลยนะฮะ 55555)
#สำหรับใครที่ขี้เกียจอ่าน ก็สามารถไปดูที่ youTube ได้นะค้าาา
หลังจากวันนั้นเราก็เลยบอกตัวเองว่าจะลดน้ำหนัก แต่ก็ลดแบบขำ ๆ ณ ตอนนั้นเราก็คิดว่าจริงจังแหละ แต่พอมาย้อนนึกคิดกลับไปคือไม่เรียกว่าจริงจังเลยฮ่า ๆ แบบบบ...พูดไงดีอะ ลดแบบไม่มีความรู้เรื่องลดน้ำหนักเลย เรากินเยอะเหมือนเดิม แล้วเน้นออกกำลังกาย โดยการที่เราไปเข้าร่วมทีมบาสของห้อง เพราะที่โรงเรียนจีนจัดแข่งบาส ทีนี้เลยมีโอกาสซ้อมบาส 1-2 วันต่ออาทิตย์ ประมาณ 2 เดือนมั้งจำไม่ค่อยได้ เพราะนานมากกกกกแล้ว น่าจะปลายปี 2015 ช่วงนั้นเราไม่ได้ไปชั่งน้ำหนักนะว่าน้ำหนักเท่าไหร่ เพราะตอนนั้นไม่ชอบชั่งน้ำหนักเลย
กลับมาต่อเรื่องซ้อมบาส พอจบจากกิจกรรมแข่งบาสของโรงเรียนจีน ประมาณต้นปี 2016 เราก็ไปเข้าร่วมทีมบาสของหมู่บ้าน ก็มีโอกาสได้มาออกกำลังกายอีกครั้ง น่าจะประมาณ 3 อาทิตย์ที่ได้ไปซ้อมบาส ซ้อมบาสก็มีวิ่งรอบสนาม แล้วก็วอร์มร่างกาย ละก็แบ่งทีมซ้อม พอจบจากการแข่งขันบาสครั้งนั้น เราก็ไปชั่งน้ำหนัก น้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 81-82
หลังจากสองทริปนั้นผ่านไป เราก็เปิดเทอม กลับมาไต้หวัน แล้วทีนี้ช่วงนั้นมีเพื่อนไปแลกเปลี่ยนที่จีน เพื่อนบอกปิดเทอมพร้อมกันเลย นัดเจอกันที่เซี่ยงไฮ้ แล้วกลับไทยพร้อมกันไหม เราก็บอกโอเค เพื่อนก็กำชับต่อว่าลดหุ่นได้แล้วนะ จะได้ไปเที่ยวกันแบบสองสาวสวย ไม่ใช่สองสาวอ้วนผอม (ที่คุยกันคือประมาณเดือนมีนา) คือเพื่อนคนนี้คอยบอกให้ลดน้ำหนักตลอดเลย ตั้งแต่ ม.ต้น อะ แบบหมีต้องผอมก่อนจบ ม.3 นะ ทางเราก็ไม่ผอมจ้ะ พอขึ้น ม.ปลาย เพื่อนก็บอกต้องผอมก่อนจบ ม.6 นะ ทางเราก็ไม่ผอมจ้า ฮ่า ๆ ๆ
และเพราะทริปที่จะไปเซี่ยงไฮ้ เราเลยเริ่มออกกำลังกายแบบจริงจัง ด้วยการไปว่ายน้ำ ตอนนั้นเราดูรายการวู้ดดี้พอดี มีคนนึงที่บอกเสียเงินสี่สิบหรือห้าสิบบาทอะ ไปว่ายน้ำแล้วเขาก็ลดน้ำหนักได้ เราก็เลยทำตามเค้า แต่ไม่ได้ไปทุกวันเหมือนเค้านะ ไม่ค่อยมีเงินอะช่วงนั้น+ไม่ค่อยมีเวลาด้วย เราไปอาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ว่ายครั้งละ 10 รอบ สระว่ายน้ำแบบ 25 เมตร นะคะ บางวันก็ไปวิ่งรอบสนามกีฬา 2-3 รอบ (วิ่งรอบสนามกีฬาคือประหยัดเงินและเวลาด้วย) ตอนนั้นไปวิ่งแรก ๆ 2-3 รอบคือเหนื่อยมากอะ (พอหลัง ๆ เริ่มชินเราก็เพิ่มทั้งระยะว่ายน้ำและวิ่งนะคะ)
อ้อ ! มีอีกอย่างคือเราเปลี่ยนจากใช้ลิฟต์เป็นบันได เดินบันไดขึ้น-ลงหอ 4 ชั้นทุกวัน ช่วงนั้นเราก็เปลี่ยนการกินนิดหน่อย คือหลัง 1 ทุ่มจะไม่กินอะไรเลย แต่แอบมีหลุดบ้างนะ 1-2 วัน เราทำแบบนี้ประมาณน่าจะ 3 เดือน (เมษา-พฤษภา-มิถุนา) เราลดไป 10 กิโล จาก 82 เป็น 72 และเราก็ไปเที่ยวเซี่ยงไฮ้ค่า ตอนนั้นคิดว่าตัวเองผอมแล้วเหมือนกันนะ เดี๋ยวขึ้นรูปให้ ผอมแบบอ้วน ๆ หลังจากทริปเซี่ยงไฮ้เราก็ไปมาเลย์กับสิงคโปร์ต่อ และนี่คือรูปช่วงที่ไปเที่ยว
ช่วงที่เที่ยวก็คือไม่ค่อยได้ชั่งน้ำหนักเลย ชั่งอีกทีตอนเปิดเทอมตอนเดือนกันยา น้ำหนักก็ยังอยู่ที่ 71-72 อยู่ กลับมาเรียนครั้งนี้เราตั้งเป้าหมายให้ตัวเองว่าเราจะน้ำหนัก 65 ให้ได้ก่อนสิ้นปี เราเลยหาข้อมูลจากยูทูบ หาเยอะมากอะ มีเยอะมากหลากหลายวิธี เราก็เลยคัดมาลอง
วิธีที่เราคัดมาลองทำคือ กินอาหารคลีน บวกกับการทำ IF ตอนนั้นเราทำไอเอฟแบบเคร่งครัด 2 อาทิตย์ หลุดบ้าง 1-2 วัน แหะ ๆ (ปัจจุบันไอเอฟเราเลือกทำเป็นช่วงนะ ช่วงนึงทำ 2-3 วัน เริ่มมื้อแรกเที่ยงและจบมื้อสุดท้ายก่อน 6 โมงเย็น)
ส่วนการกินของเราช่วงนั้นคือ เช้ากินไข่ต้ม+ผลไม้, ข้าวโอ๊ตใส่ไข่, โอ๊ตไนท์+ผลไม้ 1 อย่าง (ตอนทำ IF เราก็ตัดมื้อเช้าออก) เที่ยงก็จะมีพวกมันฝรั่งต้มอกไก่ ไข่ผัดมะเขือเทศ ข้าวกล้อง+ผัดผักบรอกโคลี มื้อเย็นจะเน้นผัก ผัดผักแบบใช้น้ำแทนน้ำมัน+ไก่นึ่งบ้าง ไก่อบบ้าง แล้วก็ซุปสาหร่ายเพื่อให้อิ่มท้องค่ะ
ป.ล. มื้อเย็นส่วนมากเราจะกินที่ร้านที่ไปทำงาน ที่ร้านจะให้กินข้าวตอนเลิกงาน นั่นก็คือ 1 ทุ่ม บางวันถ้าคนเยอะก็ได้กินตอน 1 ทุ่มครึ่ง ช่วงทำไอเอฟเราก็แบบทำใจกล้า ๆ ขอคุณป้าว่าเราขอกินข้าวก่อนเข้างานได้ไหม เพราะเราจะลดน้ำหนัก คุณป้าก็โอเคเซย์เยสค่า (คุณป้าเป็นบุคคลที่ทำให้เรามีสติในการกินด้วย 555)
ทำแบบนี้อยู่ประมาณเดือนกว่า น้ำหนักก็ลดจาก 72 มา 66.9 แต่ขอบอกว่ามีหลุดเหมือนเดิมนะฮ่า ๆ ๆ ที่ชอบหลุดที่สุดก็คือกินไก่ทอด ชาไข่มุก แล้วก็ขนมกรุบกรอบอะ แต่ไม่บ่อย แต่หลุดทีนึงคือแบบกินเยอะอะ
การออกกำลังกายในช่วงที่กินคลีน เราออกกำลังกายด้วยการไปวิ่งรอบสนาม ตั้งเป้าไว้คือวิ่งวันละ 5 รอบ+กระโดดเชือก “และการออกกำลังกายอีกอย่างของเราคือ เสาร์-อาทิตย์เราไปทำงานพาร์ตไทม์ที่สวนสนุก ทำวันละ 8 ชั่วโมง เวลายืนเฉย ๆ เราก็จะทำท่าออกกำลังกายแบบลดต้นขาอะ นึกได้ก็ทำ นึกไม่ได้ก็เดินวนไปวนมา"
หน้าตาตารางที่ทำขึ้นเอง 55555 วันไหนได้ออกกำลังกายแล้วก็มากากบาทในช่อง
ลดหน้าท้องตามคลิปนี้
ลดต้นขาตามคลิปนี้
และข้างล่างนี้คลิปออกกำลังกายที่เราชอบ
สุดท้ายขอสรุปเลยนะว่า อยากผอมต้องเปลี่ยนความคิดของตัวเองก่อน อยากผอมอย่าขี้เกียจออกกำลังกาย อย่าคิดว่าออกกำลังกายมันเหนื่อย ไม่อยากออก เราต้องคิดว่าออกกำลังกายเนี่ย ทำให้เราแข็งแรง ทำให้เราสุขภาพดี และทำให้เราผอมด้วย เวลาจะไปออกกำลังกายก็อย่าคิดนาน หมายถึงแบบวันนี้จะไปวิ่งดีมั้ย จะไปว่ายน้ำดีมั้ย เพราะคิดไปคิดมาก็ 3 ชม. ผ่านไปละ ไม่ไปละ เราต้องแบบเออว่ะไปวิ่งดีกว่า เปลี่ยนชุดไปเลย ใส่รองเท้า และโผล่ที่สนามกีฬา 55555
เวลาที่ไม่มีอะไรทำ เปลี่ยนจากเล่นคอมพ์, มือถือ, ดูยูทูบ ไปเดินเล่นหรือวิ่งแทนดีกว่านะคะ ได้พักสายตาจากแสงคอมพ์กับมือถือด้วย (เวลาเครียด ๆ เราก็จะเลือกไปออกกำลังกายด้วยฮ่า ๆ ยิ่งเครียดบ่อยยิ่งออกบ่อย ยิ่งแข็งแรงเลยทีนี้)
แล้วอีกอย่างที่สำคัญก็คือการกิน อยากผอมต้องรู้จักเลือกกิน เลือกกินให้เป็น กินแบบมีสติ กินเป็นไม่ใช่ว่ากินน้อยนะ ต้องกินให้แบบครบห้าหมู่ กินให้ได้สารอาหาร
สรุปจริง ๆ อีกรอบ การออกกำลังกายและการกินของเรา มีดังนี้
1. วิ่งรอบสนาม ครั้งละ 5-10 รอบ
2. ว่ายน้ำ 500-1,000 เมตร
3. กระโดดเชือก 500 หรือ 1,000 แล้วแต่กำลัง
4. ทำคลิปกระชับสัดส่วน ต้นขากับหน้าท้อง
#เลือกทำนะไม่ใช่ว่าทำหมดทุกอันพร้อมกัน
การกิน เน้นผัก
- ผักที่กินบ่อย ๆ คือ ผักกวางตุ้ง, ผักกาดขาว, ฟักทอง, มันฝรั่ง, ข้าวโพด
- เนื้อสัตว์เน้นกิน อกไก่, น่องไก่, ปลา, หมูไม่ติดมัน
- ผลไม้ กล้วยหอม, กีวี, แอปเปิล, ส้มโอ, ส้ม, มะเขือเทศลูกเล็ก, แก้วมังกร
ไม่มีอะไรจะเขียนต่อแล้วววววววววว เราเขียนไม่เก่งงงงงงงง ถ้าเราเขียนงง วกไปวนมาหรือยังไง ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะฮะะะะ หวังว่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยเด้อ ไปนอนก่อนแล้ว ถ้าอยากรู้ละเอียดกว่านี้หลังไมค์มาถามได้นะคะ เรามีคำปลุกใจเยอะเลยยยยฮ่า ๆ ๆ ขอลาทุกคนไปด้วยรูปปัจจุบันของเรานะฮะ
สำหรับเรานะ เราว่าการออกกำลังกายมันก็คือสิ่งหนึ่งในชีวิตประจำวัน ที่เราไม่ควรละเลยเลยนะ คนเรารู้จักกินก็ต้องรู้จักออกกำลังกายด้วย เพราะไม่งั้นจะเป็นหมู...ล้อเล่นนนนนน...ไม่งั้นจะไม่แข็งแรงงงงงงงง แล้วก็การลดน้ำหนักไม่ใช่ 1-2 วันก็ผอมนะคะ คิดดูว่าเราอ้วนยังใช้เวลาเลยค่ะ อ้วนมาตั้งนานจะมาอยากผอมภายใน 7 วันไม่มีเด้อค่า เพราะฉะนั้นจะผอมก็ต้องใช้เวลาเหมือนกันค่าาาา บ๊ายบายยย #เขียนได้แบบตามใจฉันมาก
เพิ่มเติม หวังว่าทุกคนจะได้รับแรงกระตุ้นไม่มากก็น้อยนะฮะ อ้อออ...แล้วก็ดูเราเป็นตัวอย่างนะคะ อย่าเอาคำว่าอ้วนแต่เด็กมาทำให้ตัวเองหมดกำลังใจที่จะลดนะคะ เราไม่อยากจะเชื่อว่าเราทำได้ แต่ตอนนี้เราเชื่อแล้วว่าเราทำได้ เพราะฉะนั้นทุกคนก็ต้องเชื่อว่าตัวเองก็ทำได้นะคะ ไม่งงใช่ไหมอะ สู้ ๆ ค่ะ
Ps. เราไม่เคยคิดว่าตัวเองจะมีโอกาสมาตั้งกระทู้ วันนี้เราอยากเป็นกำลังใจให้คนที่กำลังจะลดน้ำหนัก ว่าคุณทำได้แน่นอน สู้ ๆ ๆ ๆ ฮะ
ขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
คุณสมาชิกหมายเลข 4235116 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม