จมูกเล็บหรือโคนเล็บที่ฉีก ยิ่งดึงก็จะยิ่งเจ็บ และหากไม่รีบรักษาก็อาจติดเชื้อจนเป็นหนองได้ ร้ายแรงถึงขั้นถอดเล็บเลยนะ !
หลายคนมีนิสัยชอบดึงจมูกเล็บ หรือโคนเล็บที่ลอก ซึ่งหากดึงแล้วจมูกเล็บหายไปไม่เกิดผลข้างเคียงขึ้นก็ดี แต่ก็มีกรณีที่ดึงจมูกเล็บ แล้วนิ้วบวม เลือดออก หรือเจ็บ ปล่อยไว้นานเข้าก็พบว่าเป็นหนองฝังใน และเคยมีเคสที่ต้องถอดเล็บทั้งเล็บเพียงเพราะแค่ดึงจมูกเล็บด้วยนะ ! ใครไม่อยากไปถึงจุดนั้น มาดูกันว่าจะแก้จมูกเล็บฉีก โคนเล็บลอกยังไงได้บ้าง
* โคนเล็บลอก จมูกเล็บฉีก เกิดจากอะไร
การที่ผิวหนังบริเวณโคนเล็บลอก หรือบริเวณจมูกเล็บฉีก มีสาเหตุหลายประการ ดังนี้
- ผิวขาดความชุ่มชื้น จากการดื่มน้ำน้อย หรือการล้างมือบ่อย ๆ แล้วไม่บำรุงด้วยครีมหรือโลชั่น
- การแพ้สารเคมี หรือการสัมผัสสารเคมีในน้ำยาล้างจาน สบู่ เจลแอลกอฮอล์ แชมพู น้ำยาซักผ้า สีทาเล็บ น้ำยาล้างเล็บ หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ใกล้ตัวอื่น ๆ บ่อยครั้ง
- พักผ่อนน้อย ทำให้ร่างกายขาดความชุ่มชื้น เป็นสาเหตุของผิวแห้ง
- ขาดสารอาหาร เช่น โปรตีน วิตามินเอ บี ซี อี และธาตุสังกะสี ที่อาจทำให้ผิวหนังอ่อนแอง่ายกว่าปกติ
- พฤติกรรมชอบดูดนิ้ว กัดเล็บ แคะเล็บ
- เล็บถูกกระแทก หรือเสียดสี เช่น การทำเล็บ การตกแต่งเล็บบ่อย ๆ หรือเล็บถูกประตูหน้า-ต่างกระแทก
ทั้งนี้ สาเหตุที่พบบ่อยจะเป็นเพราะผิวขาดความชุ่มชื้น โดยเฉพาะในยุคนี้ที่เราล้างมือกันบ่อยครั้ง อาจพบอาการโคนเล็บลอกได้มากกว่าปกติด้วย
* โคนเล็บลอก จมูกเล็บฉีก รักษายังไง
หากโคนเล็บลอก หรือจมูกเล็บฉีกออกมาแล้ว ไม่ควรดึงหรือตัดออกเด็ดขาด เพราะจะยิ่งเจ็บกว่าเดิม ซ้ำร้ายแผลอาจติดเชื้อ เป็นหนองด้วย ลองดูวิธีบรรเทาอาการ ดังนี้
- โคนเล็บลอก แต่ไม่บวม ไม่เจ็บ
หากโคนเล็บลอกและเราไม่ได้ดึง หรือดึงแล้วแต่ไม่มีอาการเจ็บ อาจต้องหมั่นเติมความชุ่มชื้นด้วยโลชั่น หรือปิโตรเลียมเจล หลังล้างมือทุกครั้ง และไม่ควรดึงหนังโคนเล็บอีก
- โคนเล็บลอก หรือจมูกเล็บฉีก ทำให้นิ้วบวม เจ็บ
ล้างแผลด้วยน้ำเกลือ แล้วทายาหรือครีมที่ช่วยลดอาการอักเสบเพื่อลดการอักเสบ แล้วใช้ผ้าหรือพลาสเตอร์พันแผลทิ้งไว้ข้ามคืน อาการน่าจะเริ่มดีขึ้น และเมื่ออาการเจ็บทุเลาหรือหายดีแล้ว ให้บำรุงเล็บด้วยแฮนด์ครีม หลังจากล้างมือทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ผิวบริเวณดังกล่าวแห้งอีก
แต่ในกรณีที่โคนเล็บ หรือจมูกเล็บ ยังบวม เจ็บ มีจุดแดง มีหนอง หรือปวดมาก ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน เพราะอาจเกิดการติดเชื้อที่แผลเข้าแล้ว
* โคนเล็บลอก จมูกเล็บฉีก ป้องกันได้ไหม
วิธีป้องกันโคนเล็บลอก จมูกเล็บฉีก ไม่ได้ยากเย็นอะไร แค่ทำตามนี้เลย
- ดูแลสุขอนามัยของเล็บให้สะอาด
- ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ โดยควรตัดเล็บมือสัปดาห์ละครั้ง ตัดเล็บเท้า 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง แต่ห้ามตัดจมูกเล็บออกไปจนหมด
- หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสสารเคมีโดยตรง อาจสวมใส่ถุงมือยางก่อนล้างจาน ซักผ้า ล้างห้องน้ำ เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการทาเล็บ หรือหากจะทาเล็บควรเลือกน้ำยาทาเล็บที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยต่อเล็บและผิวหนัง
- ไม่ใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ แคะซอกเล็บ เพราะทำให้ซอกเล็บลึกกว่าเดิม จึงกักเก็บเชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
- แช่เล็บในน้ำอุ่น เพื่อให้เล็บและหนังแข็งต่าง ๆ นุ่มขึ้น
- ทาครีม หรือโลชั่นบำรุงมือเป็นประจำ เพื่อไม่ให้จมูกเล็บแห้งฉีก โดยเฉพาะคนที่ผิวแห้ง หรือต้องอยู่ในห้องแอร์เป็นประจำ
- เลิกพฤติกรรมกัดเล็บ แคะเล็บ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- กินอาหารมีประโยชน์
- หมั่นออกกำลังกาย ให้เลือดไหลเวียนดี ทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดีไปด้วย
- พักผ่อนให้เพียงพอ
แต่ในกรณีที่โคนเล็บลอกแล้ว ก็ไม่ควรดึงหนังที่ลอก เพราะจะทำให้เป็นแผล เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เกิดภาวะอักเสบและเป็นหนองได้ ดังนั้น เราควรดูแลสุขภาพของเล็บให้ดี อย่าให้มือแห้ง ขอบเล็บแห้ง เพื่อป้องกันโคนเล็บลอกจะดีกว่าเนอะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
Amarin Baby and Kids, เฟซบุ๊ก นิตยสารชีวจิต
หลายคนมีนิสัยชอบดึงจมูกเล็บ หรือโคนเล็บที่ลอก ซึ่งหากดึงแล้วจมูกเล็บหายไปไม่เกิดผลข้างเคียงขึ้นก็ดี แต่ก็มีกรณีที่ดึงจมูกเล็บ แล้วนิ้วบวม เลือดออก หรือเจ็บ ปล่อยไว้นานเข้าก็พบว่าเป็นหนองฝังใน และเคยมีเคสที่ต้องถอดเล็บทั้งเล็บเพียงเพราะแค่ดึงจมูกเล็บด้วยนะ ! ใครไม่อยากไปถึงจุดนั้น มาดูกันว่าจะแก้จมูกเล็บฉีก โคนเล็บลอกยังไงได้บ้าง
* โคนเล็บลอก จมูกเล็บฉีก เกิดจากอะไร
การที่ผิวหนังบริเวณโคนเล็บลอก หรือบริเวณจมูกเล็บฉีก มีสาเหตุหลายประการ ดังนี้
- ผิวขาดความชุ่มชื้น จากการดื่มน้ำน้อย หรือการล้างมือบ่อย ๆ แล้วไม่บำรุงด้วยครีมหรือโลชั่น
- การแพ้สารเคมี หรือการสัมผัสสารเคมีในน้ำยาล้างจาน สบู่ เจลแอลกอฮอล์ แชมพู น้ำยาซักผ้า สีทาเล็บ น้ำยาล้างเล็บ หรือสารเคมีในผลิตภัณฑ์ใกล้ตัวอื่น ๆ บ่อยครั้ง
- พักผ่อนน้อย ทำให้ร่างกายขาดความชุ่มชื้น เป็นสาเหตุของผิวแห้ง
- ขาดสารอาหาร เช่น โปรตีน วิตามินเอ บี ซี อี และธาตุสังกะสี ที่อาจทำให้ผิวหนังอ่อนแอง่ายกว่าปกติ
- พฤติกรรมชอบดูดนิ้ว กัดเล็บ แคะเล็บ
- เล็บถูกกระแทก หรือเสียดสี เช่น การทำเล็บ การตกแต่งเล็บบ่อย ๆ หรือเล็บถูกประตูหน้า-ต่างกระแทก
ทั้งนี้ สาเหตุที่พบบ่อยจะเป็นเพราะผิวขาดความชุ่มชื้น โดยเฉพาะในยุคนี้ที่เราล้างมือกันบ่อยครั้ง อาจพบอาการโคนเล็บลอกได้มากกว่าปกติด้วย
* โคนเล็บลอก จมูกเล็บฉีก รักษายังไง
หากโคนเล็บลอก หรือจมูกเล็บฉีกออกมาแล้ว ไม่ควรดึงหรือตัดออกเด็ดขาด เพราะจะยิ่งเจ็บกว่าเดิม ซ้ำร้ายแผลอาจติดเชื้อ เป็นหนองด้วย ลองดูวิธีบรรเทาอาการ ดังนี้
- โคนเล็บลอก แต่ไม่บวม ไม่เจ็บ
หากโคนเล็บลอกและเราไม่ได้ดึง หรือดึงแล้วแต่ไม่มีอาการเจ็บ อาจต้องหมั่นเติมความชุ่มชื้นด้วยโลชั่น หรือปิโตรเลียมเจล หลังล้างมือทุกครั้ง และไม่ควรดึงหนังโคนเล็บอีก
- โคนเล็บลอก หรือจมูกเล็บฉีก ทำให้นิ้วบวม เจ็บ
ล้างแผลด้วยน้ำเกลือ แล้วทายาหรือครีมที่ช่วยลดอาการอักเสบเพื่อลดการอักเสบ แล้วใช้ผ้าหรือพลาสเตอร์พันแผลทิ้งไว้ข้ามคืน อาการน่าจะเริ่มดีขึ้น และเมื่ออาการเจ็บทุเลาหรือหายดีแล้ว ให้บำรุงเล็บด้วยแฮนด์ครีม หลังจากล้างมือทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ผิวบริเวณดังกล่าวแห้งอีก
แต่ในกรณีที่โคนเล็บ หรือจมูกเล็บ ยังบวม เจ็บ มีจุดแดง มีหนอง หรือปวดมาก ควรรีบปรึกษาแพทย์โดยด่วน เพราะอาจเกิดการติดเชื้อที่แผลเข้าแล้ว
วิธีป้องกันโคนเล็บลอก จมูกเล็บฉีก ไม่ได้ยากเย็นอะไร แค่ทำตามนี้เลย
- ดูแลสุขอนามัยของเล็บให้สะอาด
- ตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ โดยควรตัดเล็บมือสัปดาห์ละครั้ง ตัดเล็บเท้า 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง แต่ห้ามตัดจมูกเล็บออกไปจนหมด
- หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสสารเคมีโดยตรง อาจสวมใส่ถุงมือยางก่อนล้างจาน ซักผ้า ล้างห้องน้ำ เป็นต้น
- หลีกเลี่ยงการทาเล็บ หรือหากจะทาเล็บควรเลือกน้ำยาทาเล็บที่ได้มาตรฐาน มีความปลอดภัยต่อเล็บและผิวหนัง
- ไม่ใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ แคะซอกเล็บ เพราะทำให้ซอกเล็บลึกกว่าเดิม จึงกักเก็บเชื้อโรคและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
- แช่เล็บในน้ำอุ่น เพื่อให้เล็บและหนังแข็งต่าง ๆ นุ่มขึ้น
- ทาครีม หรือโลชั่นบำรุงมือเป็นประจำ เพื่อไม่ให้จมูกเล็บแห้งฉีก โดยเฉพาะคนที่ผิวแห้ง หรือต้องอยู่ในห้องแอร์เป็นประจำ
- เลิกพฤติกรรมกัดเล็บ แคะเล็บ
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
- กินอาหารมีประโยชน์
- หมั่นออกกำลังกาย ให้เลือดไหลเวียนดี ทำให้ผิวหนังมีสุขภาพดีไปด้วย
- พักผ่อนให้เพียงพอ
แต่ในกรณีที่โคนเล็บลอกแล้ว ก็ไม่ควรดึงหนังที่ลอก เพราะจะทำให้เป็นแผล เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เกิดภาวะอักเสบและเป็นหนองได้ ดังนั้น เราควรดูแลสุขภาพของเล็บให้ดี อย่าให้มือแห้ง ขอบเล็บแห้ง เพื่อป้องกันโคนเล็บลอกจะดีกว่าเนอะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
Amarin Baby and Kids, เฟซบุ๊ก นิตยสารชีวจิต