อะโวคาโด กินตอนไหนดีที่สุด แนะ 5 วิธีกินอะโวคาโดให้ได้ประโยชน์เต็มที่ รับความเฮลธ์ตี้พร้อมความอร่อย

           อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ หากรู้วิธีกินอะโวคาโดอย่างถูกต้องก็จะได้ประโยชน์ของผลไม้ชนิดนี้อย่างไม่มีตกหล่น
อะโวคาโด กินตอนไหนดีที่สุด

           วิธีกินอะโวคาโดให้อร่อยจริง ๆ ก็มีอยู่หลายสูตรด้วยกัน แต่นอกจากความอร่อยแล้ว เราควรดึงประโยชน์ของอะโวคาโดออกมาให้ได้มากที่สุดด้วย ดังนั้นอย่ารอช้า มาทบทวนประโยชน์ของอะโวคาโดกันอีกที พร้อมทริกเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการกิน และตอบคำถามที่ว่า อะโวคาโด กินตอนไหนดีที่สุด

อะโวคาโด สรรพคุณและประโยชน์ดี ๆ
จากผลไม้มากคุณค่า

ประโยชน์ของอะโวคาโด

          ผลไม้อย่างอะโวคาโด อุดมไปด้วยโภชนาการที่ดีต่อสุขภาพ เช่น

  • อุดมไปด้วยไขมันดี ช่วยลดปริมาณไขมันเลว (LDL) และลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด

  • มีวิตามินหลากหลาย ทั้งวิตามินบี 6, โพแทสเซียม, โฟเลต,​ วิตามินซี, วิตามินอี, กรดโอเลอิก และสารต้านอนุมูลอิสระชนิดต่าง ๆ 

  • คาร์โบไฮเดรตต่ำ น้ำตาลน้อย ไฟเบอร์สูง ทำให้อิ่มง่าย จึงมีส่วนช่วยลดน้ำหนัก

  • ไฟเบอร์ในอะโวคาโดยังช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่าย 

  • มีการศึกษาพบว่ากรดไขมันในอะโวคาโดช่วยลดอาการปวดจากโรคข้ออักเสบได้

  • ดีต่อแม่ท้อง เพราะมีโฟเลตสูง ช่วยเสริมการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์

  • ช่วยบำรุงสมอง ด้วยกรดไขมันโอเมก้า 9 หรือกรดโอเลอิก ทั้งยังมีลูทีนและซีแซนทินที่ช่วยเรื่องความจำและสายตา

          ที่สำคัญ อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่มีความอร่อยในตัวเอง สามารถนำไปทำได้หลายเมนู ไม่ว่าจะเครื่องดื่มสมูทตี้ อาหารคาว อาหารหวาน ขนม ไอศกรีม หากเรารู้วิธีกินอะโวคาโดให้ได้ประโยชน์อย่างสูงสุดด้วยก็จะยิ่งฟินขึ้นไปอีก
 

อะโวคาโด สรรพคุณแจ่มซะ บำรุงร่างกาย ถ้าอยากสวยก็จัดให้

วิธีกินอะโวคาโด ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

           เอาล่ะ มาดูกันค่ะว่า อะโวคาโด กินยังไงให้ดีต่อสุขภาพมากที่สุด

1. เลือกกินอะโวคาโดที่สุกเต็มที่

วิธีกินอะโวคาโด

           โดยดูจากสีของเปลือก ถ้ายังเขียวจัดแปลว่ายังดิบ รอจนเปลือกมีสีคล้ำ ๆ ม่วงปนเขียวนิด ๆ กดเนื้อแล้วสัมผัสได้ถึงความนิ่ม ถึงจะเรียกว่าสุกพร้อมกิน ซึ่งจะได้ทั้งความอร่อย ไม่ฝาด และมีคุณค่าทางโภชนาการที่จัดเต็ม

2. รับประทานแบบสด ๆ จะดีที่สุด

           โดยเฉพาะคนที่เป็นห่วงเรื่องน้ำตาลหรือกำลังลดน้ำหนัก การรับประทานอะโวคาโดที่ปรุงเป็นเมนูอาจได้น้ำตาล ไขมัน คาร์บ และพลังงานเพิ่มได้จากวัตถุดิบอื่น ๆ ในเมนู

3. รับประทานแต่น้อย

           แม้จะอุดมไปด้วยประโยชน์ แต่อะโวคาโดมีไขมันและแคลอรีที่ต้องระวังกันหน่อย ดังนั้น ถ้าถามว่า อะโวคาโด ควรกินวันละกี่ลูก เราขอแนะนำให้กินอะโวคาโดครั้งละ 1/3 ของผลขนาดกลาง ซึ่งจะให้พลังงานประมาณ 70-100 กิโลแคลอรี และกินได้เต็มที่ไม่เกินวันละครึ่งผล - 1 ผล

4. จับคู่กับอาหารเพื่อสุขภาพ

วิธีกินอะโวคาโดให้อร่อย

           เช่น กินอะโวคาโดสุกจิ้มน้ำผึ้งเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาติและสารต้านการอักเสบ หรือจะบดเนื้ออะโวคาโดหยาบ ๆ ทาลงบนขนมปังโฮลวีตแทนเนยก็จะได้ไขมันดีแทนไขมันทรานส์จากเนย หรือจะใส่เนื้ออะโวคาโดสดลงไปในกรีกโยเกิร์ตเพื่อเพิ่มคุณค่าทางสารอาหารก็ได้ และถ้าอยากให้ร่างกายดูดซึมวิตามินได้ดีขึ้น แนะนำให้เพิ่มเนื้ออะโวคาโดลงไปในสลัดผัก เพื่อให้ไขมันดีในอะโวคาโดช่วยดูดซึมวิตามินที่ละลายในไขมัน เช่น วิตามินเอ วิตามินดี วิตามินเค วิตามินอี จากผักในชามสลัดได้ง่ายขึ้น

5. เลือกกินให้ถูกช่วงเวลา

          อะโวคาโด กินตอนไหนดีที่สุด ? แนะนำว่ากินอะโวคาโดตอนเช้าหรือกลางวันจะดีกว่าช่วงเย็นหรือก่อนนอน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีโอกาสได้เผาผลาญพลังงานจากอะโวคาโดไปกับการทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ลดโอกาสสะสมแคลอรีและไขมันในร่างกาย

          นอกจากนี้ควรเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ สลับปรับเปลี่ยนกันไป เพื่อให้ได้สารอาหารที่หลากหลาย และหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยนะคะ

อะโวคาโด กินตอนเย็นได้ไหม

          แม้การกินอะโวคาโดตอนเช้าหรือตอนกลางวันจะช่วยให้เรามีเวลาเบิร์นไขมันได้มากกว่า แต่จริง ๆ เราสามารถกินอะโวคาโดตอนเย็นได้เช่นกัน ซึ่งในอะโวคาโดมีแมกนีเซียมที่ช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย จึงมีส่วนช่วยส่งเสริมการนอนหลับ 

          อย่างไรก็ตาม ควรระวังในคนที่มีปัญหาระบบย่อยอาหารหรือกรดไหลย้อน ไม่ควรกินอะโวคาโดตอนเย็นในปริมาณมากเกินไป เพราะอาจทำให้ท้องอืด แสบร้อนกลางอก และช่วงเย็นเป็นเวลาที่การเผาผลาญพลังงานลดลงแล้ว หากกินอาหารไขมันสูงอาจส่งผลให้น้ำหนักขึ้นได้

กินอะโวคาโดทุกวันได้ไหม อ้วนไหม
กินได้วันละกี่ลูก

อะโวคาโด กินทุกวันได้ไหม

          หากกินอะโวคาโดอย่างเหมาะสม วันละไม่เกินครึ่งผล - 1 ผล หรือราว ๆ 100 กรัม พร้อมกับออกกำลังกายร่วมด้วย ก็สามารถกินอะโวคาโดทุกวันได้โดยไม่น่าเป็นห่วงเรื่องความอ้วนค่ะ เพราะอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไขมันดีสูง แต่ไม่มีคอเลสเตอรอล แถมยังมีไฟเบอร์สูง ช่วยให้อิ่มนาน ในขณะที่มีปริมาณคาร์บต่ำ น้ำตาลน้อย จึงมักจะเป็นผลไม้ที่คนลดน้ำหนักเลือกกิน 

          ส่วนคนที่กินอะโวคาโดเพื่อต้องการเพิ่มไขมันดีให้ร่างกาย แนะนำให้กินอาหารไขมันดีชนิดอื่น ๆ เช่น เนื้อปลา ถั่วชนิดต่าง ๆ น้ำมันพืชอย่างน้ำมันมะกอก สลับหมุนเวียนกันไปในแต่ละวัน เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่หลากหลาย ซึ่งจะได้ประโยชน์มากกว่าการกินแต่อะโวคาโดเพียงอย่างเดียวทุกวัน

อะโวคาโด กินยังไงให้อร่อย

อะโวคาโด กินยังไงให้อร่อย

          รสชาติจืด ๆ มัน ๆ ของอะโวคาโดอาจไม่ถูกใจใครหลายคน สวนทางกับคุณประโยชน์ที่มากล้นของอะโวคาโด ดังนั้น เราอาจลองปรับวิธีกินอะโวคาโดดูสักหน่อยเพื่อความอร่อยยิ่งขึ้น เช่น 

วิธีกินอะโวคาโดให้อร่อยในแบบอาหารคาว

  • โรยเกลือ พริกไทย หรือน้ำมะนาวเล็กน้อย เพื่อเพิ่มรสชาติ
  • ตักเนื้ออะโวคาโดออกมาทาบนขนมปังปิ้ง
  • ทำไข่อบอะโวคาโด ไข่ดาวอะโวคาโด ไข่คนอะโวคาโด หรือไข่ยัดไส้
  • บดอะโวคาโดให้ละเอียด ผสมกับหอมใหญ่ มะเขือเทศ ผักชี และน้ำมะนาว กินคู่กับแผ่นตอร์ติญ่า หรือผักสด
  • ย่างอะโวคาโดประมาณ 2-3 นาที แล้วปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย หรือเครื่องปรุงอื่น ๆ ตามชอบ
  • นำมาเป็นส่วนผสมในแซนด์วิช ในขนมปัง หรือพิซซ่า
  • นำอะโวคาโดมารับประทานกับอาหารไทย เช่น น้ำพริกต่าง ๆ หรือหลน
  • หั่นอะโวคาโดเป็นแท่งแล้วนำไปอบในเตาให้กรอบ กินในรูปแบบเฟรนช์ฟรายส์แทนมันฝรั่ง 
  • เติมอะโวคาโดลงในซุป หรือทำซุปอะโวคาโด
  • ใช้อะโวคาโดเป็นส่วนผสมในซูชิโรล
  • ใช้อะโวคาโดแทนมายองเนสหรือซาวร์ครีมในการทำเมนูต่าง ๆ
  • นำอะโวคาโดไปเป็นส่วนผสมในเมนูอาหารอื่น ๆ เช่น สปาเกตตีอะโวคาโด มักกะโรนีอะโวคาโด ผัดกะเพราอะโวคาโด ข้าวผัดอะโวคาโด ส้มตำอะโวคาโด ยำอะโวคาโด อกไก่ย่างอะโวคาโด ฯลฯ

วิธีกินอะโวคาโดให้อร่อยในแบบของหวาน ของกินเล่น

เมนูอะโวคาโด

  • หั่นอะโวคาโดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ในสลัดผักหรือสลัดผลไม้
  • ใส่น้ำกะทิให้กลายเป็นขนมหวานแบบไทย ๆ คล้ายกับการกินแตงไทยน้ำกะทิ 
  • นำมาทำขนมปังหรือเค้ก เช่น ชีสเค้กอะโวคาโด บราวนี่อะโวคาโด อะโวคาโดช็อกโกแลตมูส วาฟเฟิลอะโวคาโด
  • ปั่นอะโวคาโดกับนม โยเกิร์ต น้ำเชื่อม หรือผลไม้ชนิดอื่น ๆ ทำเป็นเครื่องดื่มสมูทตี้
  • หั่นเป็นชิ้นแล้วราดด้วยน้ำผึ้งเล็กน้อย หรือนำอะโวคาโดไปปั่นกับน้ำผึ้ง
  • นำไปบดและปั่นแล้วแช่แข็งในเครื่องทำไอศกรีม กินเป็นไอศกรีมอะโวคาโด เสิร์ฟพร้อมท็อปปิ้ง เช่น ผลไม้สด ถั่วอัลมอนด์

อะโวคาโด ห้ามกินกับอะไร
ไม่ควรกินคู่กับอะไร

อะโวคาโด ห้ามกินกับอะไร

          จริง ๆ แล้วไม่ได้มีข้อห้ามตายตัวว่า อะโวคาโด ห้ามกินกับอะไร แต่เนื่องจากอะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีไขมันสูง ส่วนใหญ่ก็มักจะแนะนำว่า อะโวคาโด ไม่ควรกินคู่กับอาหารเหล่านี้

1. อะโวคาโด ไม่ควรกินคู่กับอาหารไขมันสูง

          เช่น เนื้อสัตว์ติดมัน อาหารแปรรูปที่มีไขมันสูง ของทอดต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไขมันชนิดไม่ดี หากกินร่วมกับอะโวคาโดในปริมาณมาก ๆ อาจทำให้ได้รับไขมันมากเกินจำเป็น

2. อะโวคาโด ไม่ควรกินคู่กับอาหารหรือผลไม้ที่มีแป้งและน้ำตาลสูง

          เช่น ข้าวเหนียว ข้าวโพด มันสำปะหลัง มันฝรั่ง กล้วยสุก มะม่วงสุก อินทผลัม ขนุน เป็นต้น เพราะอย่างที่บอกว่าอะโวคาโดมีไขมันสูง ร่างกายย่อยยากอยู่แล้ว หากกินร่วมกับอาหารที่มีแป้งและน้ำตาลในปริมาณมาก ๆ อีกจะยิ่งย่อยยากและท้องอืดได้

3. อะโวคาโด ไม่ควรกินคู่กับอาหารที่มีโซเดียมสูง

          อะโวคาโดมีโพแทสเซียมสูง ซึ่งมีประโยชน์ในการควบคุมความดันโลหิต ในขณะที่อาหารที่มีโซเดียมสูง เช่น อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก เบคอน บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารหมักดอง เครื่องปรุงรสต่าง ๆ จะเป็นตัวเพิ่มความดันโลหิต หากรับประทานคู่กันในปริมาณมากอาจทำให้เกิดความไม่สมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย

4. อะโวคาโด ไม่ควรกินคู่กับยาบางชนิด

          อะโวคาโดมีวิตามินเคสูง ซึ่งมีบทบาทในการแข็งตัวของเลือด แต่หากกินร่วมกับยาละลายลิ่มเลือด (วาร์ฟาริน) อาจทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการแข็งตัวของเลือด

โทษของอะโวคาโด และใครไม่ควรกิน

วิธีเลือกอะโวคาโด

          อะโวคาโดเป็นผลไม้ที่มีข้อควรระวังในการรับประทาน เช่น

  • ระวังการกินอะโวคาโดที่สุกไม่เต็มที่ เพราะอะโวคาโดดิบจะมีสารแทนนินสูง มีรสฝาด และอาจทำให้ท้องผูก คลื่นไส้ วิงเวียนได้

  • ไม่ควรกินเกิน ⅓ ผลต่อครั้ง และควรรับประทานอาหารให้หลากหลายในแต่ละวัน

  • ไม่เหมาะกับผู้ที่รับประทานยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาวาร์ฟาริน (Warfarin) เพราะอะโวคาโดมีวิตามินเคสูง ซึ่งอาจไปยับยั้งฤทธิ์ของยาได้

  • คนที่แพ้อาหารหรือภูมิแพ้ใด ๆ ควรทดสอบการแพ้ก่อนรับประทาน เพราะอะโวคาโดมียางธรรมชาติอยู่บนขั้วผล ซึ่งอาจกระตุ้นอาการแพ้ได้

  • ผู้ป่วยโรคไตควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เพราะอะโวคาโดมีโพแทสเซียมสูง

  • ผู้ที่มีโรคประจำตัวหรือมียาที่ต้องกินเป็นประจำ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนว่าควรกินอะโวคาโดอย่างไรให้เหมาะสม

           อะโวคาโดเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพที่มีประโยชน์น่าสนใจ แต่เราจะได้ประโยชน์จากอะโวคาโดอย่างเต็มที่ได้ก็ควรต้องรับประทานอย่างเหมาะสม พร้อมกับใส่ใจสุขภาพในด้านอื่น ๆ เช่น ออกกำลังกาย พักผ่อน และหาวิธีผ่อนคลายความเครียดร่วมด้วย

บทความที่เกี่ยวข้องกับอะโวคาโด

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อะโวคาโด กินตอนไหนดีที่สุด แนะ 5 วิธีกินอะโวคาโดให้ได้ประโยชน์เต็มที่ รับความเฮลธ์ตี้พร้อมความอร่อย อัปเดตล่าสุด 27 มีนาคม 2568 เวลา 13:55:47 109,045 อ่าน
TOP
x close