อย่ามองข้าม ! หมอเจด เตือน 4 พฤติกรรม เสี่ยงมะเร็งปากมดลูก ผู้หญิงทำบ่อยแต่ไม่รู้ตัว

 
           หมอเจดออกมาเตือนผู้หญิงให้ตระหนักถึง 4 พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก ที่หลายคนทำเป็นประจำโดยไม่รู้ตัว ย้ำมะเร็งปากมดลูกไม่ใช่โรคของคนอายุมาก หากรู้ทันลดความเสี่ยงได้มาก

 มะเร็งปากมดลูก
ภาพจาก Antonio Marca / Shutterstock.com 

           มะเร็งปากมดลูก เป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่ไม่ใช่เรื่องไกลตัว โดย นพ.เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ หรือ หมอเจด รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ออกมาให้ข้อมูลผ่านเพจเฟซบุ๊ก “หมอเจด” เพื่อเตือนผู้หญิงให้หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น

           โดย หมอเจด ระบุว่า มะเร็งปากมดลูก ไม่ได้เกิดเฉพาะในผู้หญิงสูงวัยเท่านั้น แต่พบในผู้หญิงวัยทำงานจำนวนไม่น้อย และหลายรายตรวจพบเมื่อโรคลุกลามแล้ว เนื่องจากระยะแรกมักไม่แสดงอาการชัดเจน สิ่งที่น่ากังวลคือ พฤติกรรมบางอย่างที่ผู้หญิงทำเป็นประจำในชีวิตประจำวัน อาจเป็นปัจจัยที่ค่อย ๆ เพิ่มความเสี่ยงให้เซลล์บริเวณปากมดลูกเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยไม่รู้ตัว และพัฒนาไปเป็น มะเร็งปากมดลูก ในอนาคต

           หมอเจดชี้ว่า หากผู้หญิงรู้เท่าทัน 4 พฤติกรรมเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก และเริ่มปรับเปลี่ยนตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคลงได้อย่างมาก ซึ่งการป้องกันถือเป็นกุญแจสำคัญที่ดีที่สุด

 มะเร็งปากมดลูก
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หมอเจด


สำหรับข้อความที่ หมอเจด โพสต์มีดังนี้ 


           มะเร็งปากมดลูกไม่ใช่โรคไกลตัว และไม่ได้เกิดเฉพาะคนมีอายุมาก ผู้หญิงวัยทำงานจำนวนไม่น้อยตรวจพบในระยะที่ลุกลาม เพราะไม่มีอาการชัดเจนตั้งแต่แรก สิ่งที่น่ากลัวคือ พฤติกรรมบางอย่างที่ทำเป็นประจำโดยไม่รู้ตัว กำลังเพิ่มความเสี่ยงให้เซลล์ปากมดลูกเปลี่ยนแปลงช้า ๆ แบบเงียบ ๆ หากรู้ทันและปรับได้เร็ว จะลดความเสี่ยงได้มากครับ

1. มีคู่นอนหลายคน

           ขอออกตัวก่อนว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของรสนิยมส่วนบุคคลนะครับ ไม่ได้ตัดสินใคร แต่ในแง่การแพทย์ การมีคู่นอนหลายคนจะเพิ่มโอกาสสัมผัสเชื้อ HPV ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของมะเร็งปากมดลูกโดยตรง แม้จะใช้ถุงยางก็ไม่สามารถป้องกันเชื้อ HPV ได้ 100% เพราะเชื้อสามารถติดต่อผ่านผิวหนังบริเวณใกล้เคียงได้ ดังนั้นยิ่งลดความเสี่ยงได้ ก็ยิ่งดีต่อตัวเราเองครับ

2. เข้าห้องน้ำสาธารณะ ก็มีโอกาสเสี่ยงเหมือนกัน

           หลายคนไม่รู้ว่าเชื้อ HPV สามารถอยู่บนพื้นผิวที่อับชื้นได้ช่วงหนึ่ง เช่น โถส้วม ฝารองนั่ง ลูกบิด หรือพื้นห้องน้ำ หากมีแผลเล็ก ๆ บริเวณอวัยวะเพศ หรือมีการสัมผัสแล้วเอามือไปจับบริเวณนั้นต่อ ก็มีโอกาสติดเชื้อได้ แม้ความเสี่ยงจะน้อยกว่าการมีเพศสัมพันธ์ แต่ก็ไม่ใช่ศูนย์ โดยเฉพาะในคนที่ภูมิคุ้มกันต่ำ จึงควรหลีกเลี่ยงการนั่งโถส้วมโดยตรง ล้างมือให้สะอาด และไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่นครับ

3. ภูมิคุ้มกันไม่ค่อยดี

           คนที่ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้ติดเชื้อ HIV ผู้ที่กินยากดภูมิ หรือผู้ที่ปลูกถ่ายอวัยวะ จะมีความเสี่ยงสูงกว่าคนทั่วไปมาก เพราะถ้าติดเชื้อ HPV แล้ว ร่างกายไม่สามารถกำจัดเชื้อออกไปเองได้ เชื้อจึงอยู่ในร่างกายนาน และเพิ่มโอกาสกลายเป็นมะเร็งปากมดลูกในระยะยาว กลุ่มนี้ควรตรวจคัดกรองสม่ำเสมอเป็นพิเศษครับ

4. ไม่ฉีดวัคซีน และไม่ตรวจ HPV

           ถ้าพูดถึงการป้องกันที่ได้ผลที่สุด คือ การฉีดวัคซีน HPV ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกได้ถึงประมาณ 95% ปัจจุบันยังมีชุดตรวจ HPV ที่สามารถตรวจเองได้ที่บ้าน สะดวกมาก ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แล้ว แนะนำให้ตรวจภายใน 3 ปีหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก หรือเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ควรตรวจซ้ำทุก 3 ปี การรู้เร็ว ป้องกันได้ก่อน คือดีที่สุดครับ

ตรวจเช็กมะเร็งปากมดลูกยังไงได้บ้าง ?


           การตรวจคัดกรองที่สำคัญ ได้แก่ Pap smear ซึ่งช่วยหาความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก และ HPV test ที่ตรวจหาเชื้อไวรัสต้นเหตุ ปัจจุบันสามารถตรวจได้แม้ไม่มีอาการ แนะนำให้ผู้หญิงที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ตรวจตามคำแนะนำแพทย์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้โรคลุกลามครับ

ลดเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกได้ แค่ทำตามนี้


           - เริ่มจากมีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย ใช้ถุงยางทุกครั้ง
           - เลิกสูบบุหรี่ นอนให้พอ ลดความเครียด
           - ตรวจคัดกรองตามกำหนด หากยังไม่เคยฉีดวัคซีน HPV สามารถปรึกษาแพทย์ได้ แม้จะมีเพศสัมพันธ์แล้ว การดูแลตัวเองสม่ำเสมอช่วยลดความเสี่ยงได้จริงครับ 

 
เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
อย่ามองข้าม ! หมอเจด เตือน 4 พฤติกรรม เสี่ยงมะเร็งปากมดลูก ผู้หญิงทำบ่อยแต่ไม่รู้ตัว โพสต์เมื่อ 19 ธันวาคม 2568 เวลา 14:34:11 4,614 อ่าน
TOP
x close