x close

พลังบำบัดของสายน้ำ

สายน้ำ บำบัด

 

พลังบำบัดของสายน้ำ (Lisa)

         
น้ำเพียงเปลี่ยนอุณหภูมิ คุณค่าที่น้ำให้ต่อชีวิตก็เปลี่ยนไป สปาทุกแห่งทั่วโลก อาศัยพลังบำบัดของน้ำที่อุณหภูมิแตกต่างกัน สร้างสรรค์โปรแกรมเพื่อสุขภาพให้กับลูกค้า เพียงคุณรู้เคล็ดลับในเรื่องอุณหภูมิน้ำ คุณสามารถเปลี่ยนบ้านให้กลายเป็นสปาเล็ก ๆ ส่วนตัวภายในครอบครัว

           คุณค่าบำบัดของน้ำร้อน

         
ผู้พัฒนาวิธีบำบัดด้วยน้ำอย่างอนิจจังเป็นพระชาวบาวาเรียน ทรีตเมนต์ที่ท่านพัฒนาขึ้นในศตวรรษที่ 19 ปัจจุบันยังใช้อยู่ตามโรงพยาบาลและสปาชั้นนำทั่วยุโรป พระผู้นี้สมัยเด็ก ๆ ป่วยเป็นวัณโรค อาการดีขึ้นเมื่อได้รับการบำบัดด้วยน้ำ ทุกทรีตเมนต์ที่ท่านพัฒนาขึ้น อาศัยอุณหภูมิของน้ำระหว่างร้อนกับเย็น ช่วยกระตุ้นระบบสูบฉีดโลหิต ระบบประสาทอัตโนมัติ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน เมื่อร่างกายสัมผัสกับน้ำอุ่นขณะแช่หรืออบไอน้ำ จะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัว ความอุ่นจะช่วยขยายเส้นเลือด เร่งเลือดมาเลี้ยงเซลล์ เท่ากับกระตุ้นการหมุนเวียนโลหิต ระบบเผาผลาญอาหารก็ถูกกระตุ้นให้กำจัดของเสียออกจากร่างกายเร็วขึ้น การแช่น้ำอุ่นทุกประเภทดีกับผิว ลดภาวะอักเสบและต่อต้านแบคทีเรียกล่อมจิตใจคุณให้ผ่อนคลาย ระบบประสาทที่สับสนตึงเครียดก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายไปด้วย

          การได้แช่น้ำร้อนที่อุณหภูมิระหว่าง 38-40 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 10-60 นาที สามารถบรรเทาอาการหวัดเรื้อรัง ดีต่อโรคเกาต์และผู้ที่มีปัญหาข้ออักเสบ ทรีตเมนต์กำจัดเซลลูไลต์ของสปาหลายแห่ง จะรวมการแช่น้ำร้อนไว้ในโปรแกรม

          แต่การอาบน้ำร้อนนาน ๆ เพื่อผลทางการบำบัดดังกล่าว ใช่จะเหมาะกับทุกคน ผู้ที่ปัญหาเรื่องความดันโรคหัวใจ ไม่ควรลองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ ด้วยน้ำร้อนกระตุ้นระบบหัวใจแม้ผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง ก็ไม่ควรอาบน้ำร้อนนาน ๆ เมื่ออยู่คนเดียว ควรมีใครสักคนอยู่ใกล้ ๆ ที่จะเรียกได้และต้องลองแช่ให้รู้ว่าร่างกายต้องการแค่ไหน...ก็แค่นั้น หลังอาบน้ำร้อน ให้นอนพัก เตรียมตัวหลับเลยได้ยิ่งดี อย่าลืมน้ำแร่หรือน้ำเปล่า (ไม่แช่เย็น) สัก 2 แก้วก่อนนอน

           คุณค่าบำบัดของน้ำเย็น

          เมื่อร่างกายสัมผัสกับน้ำเย็น เส้นเลือดจะหดตัว นั่นก็เป็นการกระตุ้นระบบหมุนเวียนโลหิตในลักษณะตรงข้ามกับน้ำอุ่น พลังน้ำเย็นจะกระตุ้นให้คุณกระฉับกระเฉง ขณะที่น้ำอุ่นจะผ่อนคุณจึงรู้สึกง่วง และหลับสบาย การได้อาบน้ำเย็น ๆ ที่อุณหภูมิ 12-15 องศาเซลเซียส จะช่วยกระตุ้นทั้งระบบประสาท
ระบบภูมิต้านทานโรคและระบบการทำงานของหัวใจ  แต่แนะนำให้อาบได้ไม่เกิน 5-12 วินาทีนานกว่านี้ไม่เหมาะ

          อย่างไรก็ตาม ทรีตเมนต์บำบัดส่วนใหญ่ จะจัดโปรแกรมให้ผิวได้สัมผัสน้ำร้อนน้ำเย็นสลับกันไป 2-3 รอบ ขอแนะนำสัก 2-3 วิธี ที่คุณปรับใช้กับตนเองได้

           อาบน้ำร้อนสลับน้ำเย็น

         
มีอ่างอาบน้ำ ให้เปิดน้ำร้อนที่อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส ลงแช่ 3-5 นาที ลุกขึ้นเปิดฝักบัวน้ำเย็น ๆ อาบ 10-20 วินาที แล้วกลับมาแช่น้ำร้อน ทำสลับ เช่นนี้ 3 ครั้ง ถ้าไม่มีอ่างอาบน้ำ จะเปิดฝักบัวน้ำร้อนน้ำเย็นอาบสลับกันไปมาก็ได้

          การให้ผิวสัมผัสอุณหภูมิร้อนเย็นสลับกัน ไม่เพียงกระตุ้นระบบการทำงานภายในให้กระฉับกระเฉง ยังกระตุ้นระบบการทำงานของผิว เสริมสร้างคอลลาเจน แต่แน่นอนต้องทำควบคู่กับการรับประทานเนื้อสัตว์ไร้มันพร้อมน้ำเปล่าบีบมะนาวก่อนอาหารทุกมื้อทานวิตามินซีและธาตุสังกะสีเสริมเป็นเวลา 30 วัน (แถมด้วยวิตามินกลุ่มต่อต้านอนุมูลอิสระด้วยยิ่งดี) นอนให้มากกว่าปกติเพิ่มขึ้นสัก 1-2 ชั่วโมง และควรออกกำลังกายครั้งละ 5 นาที 2 ครั้งต่อวัน ภายใน 4 อาทิตย์ ผิวจะแน่นสดใสขึ้น

          อบไอน้ำและซาวน่า

         
การอบไอน้ำ จะทำให้ตู้พลาสติกเล็ก ๆ ที่บ้าน ในเรือนไม้หอมที่สปา หรือการอบซาวน่า เป็นวิธีทำความสะอาดผิว ออกกำลังกายผนังหลอดเลือด และเสริมสร้างภูมิต้านทาน การอบซาวน่าจะกระตุ้นการทำงานของไต ซึ่งเป็นการทำความสะอาดภายในร่างกายที่ดียิ่ง

         
ให้เข้าอบครั้งละประมาณ 8-15 นาที (ไม่ควรนานกว่านี้ ต่อให้คุณจะเป็นมือเก๋าจริงก็ไม่ควรเกิน 20 นาที) จากนั้นออกมาสูดอากาศในที่โล่งสักพักให้ร่างกายได้รับออกซิเจนเต็มที่ แล้วอาบน้ำเย็น ขอย้ำว่าอาบน้ำเย็น ๆ อุณหภูมิที่ร้อนในห้องอบจะขยายเส้นเลือด อุณหภูมิที่เย็นของน้ำอาบ จะทำให้เส้นเลือดหดตัวอีกครั้ง เป็นการออกกำลังกายผนังหลอดเลือด กระตุ้นการหมุนเวียนโลหิต ให้เซลล์ผิวได้รับอาหารและออกซิเจนเพิ่มขึ้น ความร้อนจะช่วยละลายสิ่งอุดตันในรูขุมขน เป็นการทำความสะอาดผิวระดับลึก และเพื่อให้ผิวได้รับประโยชน์สูงสุด คุณควรอาบน้ำก่อนเข้าห้องอบ เหงื่อและสิ่งสกปรกที่ติดผิว จะทำให้การขับของเสียทางเหงื่อไม่ได้ผลสูงสุด แต่หลังอบแล้ว อาบเพียงน้ำเปล่า ไม่ใช้สบู่ไม่งั้นจะทำลายกรดเคลือบผิว

           สปาเท้า

         
การแช่เท้าในน้ำอุ่น ๆ หลังจากวันอันเหน็ดเหนื่อย เป็นรางวัลง่าย ๆ ที่คุณสามารถให้กับตนเองและคนในครอบครัว นักวิจัยในญี่ปุ่นยืนยันว่าการได้แช่เท้าเพียง 10 นาที ในน้ำที่เหยาะน้ำมันลาเวนเดอร์ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระบบประสาทอันนำไปสู่ภาวะผ่อนคลาย และเพิ่มการหมุนเวียนโลหิต ถ้าต้องการอะไรที่มากกว่าแค่ผ่อนคลาย ลองแช่เท้าในน้ำร้อนสลับน้ำเย็น แช่เท้าในน้ำอุ่นที่อุณหภูมิ 36-39 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 4-8 นาที (ระดับน้ำที่แช่ต้องครึ่งน่อง) แล้วย้ายมาแช่ในน้ำเย็นที่อุณหภูมิ 20 องศาเซลเซียส สัก 10-15 วินาที ขยับเท้าและขาล่างไปมาแรง ๆ แล้วย้ายกลับไปแช่น้ำอุ่น ทำสลับเช่นนี้ ประมาณ 3 ครั้ง จะช่วยกระตุ้นผนังหลอดเลือดให้แข็งแรง บรรเทาอาการปวดหัวบางประเภท หลังแช่เท้า ควรกลับขึ้นนอน หรือไม่ก็ออกกำลังกาย ช่วงเช้า ๆ คุณอาจทำสปาเท้าได้ด้วยการออกไปเดินย่ำน้ำค้าง ให้เท้าได้สัมผัสความเย็น หรือถ้าไปเที่ยวน้ำตกออกไปเดินย่ำน้ำเย็น ๆ สักครู่ จากนั้นให้กลับมาใส่ถุงเท้า และออกวิ่ง

           พลังบำบัดของน้ำทะเล

         
ในน้ำทะเล 1 ลิตร มีเกลือละลายอยู่ 35 กรัม มีแร่ธาตุประเภทซัลเฟอร์แมกนีเซียม แคลเซียมโบรไมด์ เหล็กสังกะสี และแร่ธาตุอื่น ๆ อีกมากมายละลายอยู่ในสัดส่วนที่สมดุล ซึ่งนักบำบัดจะบอกคุณว่า ธาตุต่าง ๆ ที่ละลายในน้ำทะเล มีความคล้ายคลึงกับสารละเลยในพลาสม่าของเลือดเราร่างกายสามารถซึมซับเอาแร่ธาตุจากน้ำทะเลผ่านการออสโมซิส โดยเฉพาะเมื่อน้ำทะเลถูกอุ่นให้มีอุณหภูมิเท่ากับอุณหภูมิของร่างกาย

          และการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ก็ยืนยันได้ว่า ผิวสามารถซึมซับธาตุอาหารสำคัญ ๆ จากน้ำทะเล อย่างทะเลเดดซี การบำบัดด้วยน้ำทะเล ใช้วิธีเดียวกับการบำบัดด้วยน้ำ คือผ่านการอาบการนอนแช่ การนวดใต้น้ำด้วยหัวฉีดน้ำความดันสูง การออกกำลังกายในน้ำ และอื่น ๆ การปรับอุณหภูมิน้ำทะเลให้ร้อนขึ้น หรือพออุ่น ยังเป็นหัวใจสำคัญของการบำบัด ทรีตเมนต์บำบัดที่คุณจะพบตามสปาริมทะเล ล้วนมีจุดมุ่งหมายกระตุ้นการหมุนเวียนโลหิต บรรเทาความเหนื่อยล้า ลดการสะสมของสารพิษและของเสียภายในอันนำไปสู่ปัญหาผิวส้ม (เซลลูไลต์)

          กรณีที่คุณไม่มีเวลาไปสปาริมทะเลคุณอาจซื้อผลิตภัณฑ์สปาจากทะเลจำพวกเกลืออาบน้ำ สาหร่ายหรือโคลนทะเล มาผสมน้ำอุ่น ๆ นอนแช่ที่บ้าน เพียงต้องตระหนักว่าอุณหภูมิของน้ำที่แตกต่างจะให้ผลต่อสุขภาพที่แตกต่างกัน ดังนี้

          25-30 องศาเซลเซียส เพื่อกระตุ้นและกระชับผิว

          31-34 องศาเซลเซียส เพื่อปลุกปลอบจิตใจให้คืนสู่ความนิ่งสงบ

          35-36 องศาเซลเซียส เพื่อผ่อนคลาย (เฉพาะผู้ที่สุขภาพแข็งแรง)

          37-38 องศาเซลเซียส เพื่อลดน้ำหนักและลดปัญหาผิวส้ม (แต่อุณหภูมิขนาดนี้ต้องห้ามสำหรับผู้มีปัญหาโรคหัวใจ)

          ถ้าต้องการผลด้านการบำบัดอย่างจริงจัง ควรนอนแช่อาทิตย์ละ 2-3 ครั้งและต้องให้ความสำคัญกับอุณหภูมิน้ำควรมีเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิน้ำไว้ในบ้าน การบำบัดให้ผลเมื่อคุณนอนแช่ได้ 5 นาที อาจเพิ่มเวลาขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไม่ควรนอนแช่เกิน 20 นาที

          ผู้เชี่ยวชาญด้านการบำบัดด้วยน้ำ มักบอกกับคนทั่วไปว่าการนอนลอยตัวในน้ำอุ่น ๆ เพียง 15 นาที จะให้ผลผ่อนคลายระดับลึกเช่นเดียวกับการได้หลับ 1 ชั่วโมง  ขอแนะนำว่าเป็นความสุขอย่างยิ่ง สำหรับสาวออฟฟิศที่ต้องรบกับความเครียดมาทั้งวัน


  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย

  คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ

 



ขอขอบคุณข้อมูลจาก
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
พลังบำบัดของสายน้ำ อัปเดตล่าสุด 8 ตุลาคม 2552 เวลา 16:24:06 8,844 อ่าน
TOP