มีใครรู้สึกบ้างไหมว่า วันหยุดทำไมมันแสนสั้นนักล่ะ ไม่เห็นเหมือนวันทำงานที่เวลาช่างผ่านไปช้าเหลือเกินเลยจริง ๆ แต่ในเมื่อเราไม่สามารถยืดเวลาวันหยุดให้ยาวนานต่อไปอีกเรื่อย ๆ ได้ ยังไงก็คงต้องเติมพลังสำหรับตั้งหน้าตั้งตาทำงานกันต่อไปล่ะเนอะ
และถ้าใครอยากมีเช้าวันจันทร์ที่สดใส เริ่มต้นการทำงานอย่างแฮปปี้ไปตลอด วันนี้เราก็หยิบยกวิธีเปลี่ยนวันจันทร์ที่แสนน่าเบื่อ ให้เป็นวันทำงานที่สุขสดชื่นจากเว็บไซต์ Huffington Post มาฝากกันด้วย แอบอยากกระซิบสักนิดว่า วิธีกระตุ้นความสดชื่นให้ร่างกายในวันเริ่มต้นการทำงาน ทำไม่ยากเลยจริง ๆ นะจ๊ะ
1. ดักอาการง่วงซึม
เชื่อว่าหลายคนชอบนอนดึก โดยเฉพาะตั้งแต่มีโซเชียลเน็ตเวิร์กเพิ่มเข้ามาในชีวิตก็ชักไม่ค่อยอยากจะหลับกันสักเท่าไรจริงไหมคะ จึงไม่น่าแปลกใจถ้าวันศุกร์และวันเสาร์คุณจะเพลิดเพลินกับกิจกรรมยามค่ำคืนแบบสุดขีด โดยไม่ต้องกังวลว่าจะตื่นสาย เพราะวันรุ่งขึ้นมันเป็นวันหยุดนี่นา
แต่ถ้าไม่อยากง่วงซึมค้างไปจนถึงวันจันทร์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำมาว่า ในคืนวันศุกร์และคืนวันเสาร์ ให้คุณนอนดึกกว่าปกติสัก 2 ชั่วโมง แต่อย่าเกินนี้นะคะ เนื่องจากร่างกายของเราจะรู้สึกง่วงงุนและอ่อนเพลียก็ต่อเมื่อพักผ่อนน้อยกว่าปกติเกิน 2 ชั่วโมง
ดังนั้น หากตลอดสัปดาห์ของวันทำงานคุณนอนหลับตอน 23.00 น. โดยประมาณเป็นประจำ ในคืนวันศุกร์หรือคืนวันเสาร์อาจจะนอนหลับสักไม่เกินเที่ยงคืน หรือ 01.00 น. แล้วพยายามตื่นในเวลาปกติให้ได้ ซึ่งแน่นอนว่า ร่างกายจะได้พักผ่อนไม่เต็ม 6-7 ชั่วโมง แต่วิธีนี้จะช่วยให้คืนวันอาทิตย์คุณง่วงงุน จนอยากเข้านอนเร็ว ๆ นั่นเอง
2. เพิ่มความตื่นตัวด้วยมื้ออาหารที่ถูกหลัก
ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อว่า พฤติกรรมการรับประทานอาหารของเรามีส่วนต่อความขี้เกียจ และความตื่นตัวของเราด้วย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็อธิบายว่า หากสุดสัปดาห์คุณกินอาหารแบบจัดหนักจัดเต็มสุด ๆ ด้วยความเก็บกดที่ต้องควบคุมอาหารมาตลอดทั้งสัปดาห์ของการทำงาน เช้าวันจันทร์คุณมีสิทธิ์จะรู้สึกหิวโหย กระหายน้ำ และเหนื่อยเพลียอย่างบอกไม่ถูก ซึ่งเป็นผลจากระบบการย่อยอาหารที่ไม่คงที่นั่นเอง
ดังนั้น ทางที่ดีพยายามรับประทานอาหารอย่างที่เคยกินเป็นประจำดีกว่าค่ะ โดยเน้นอาหารเพื่อสุขภาพ ผัก ผลไม้ และสารอาหารครบ 5 หมู่ หรือถ้าอยากจะผ่อนคลาย ก็สามารถจัดมื้ออาหารตามใจฉันได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง แต่ทั้งนี้ก็ควรเป็นมื้อแสนสุขในวันทำงานที่เรามีโอกาสได้ทำกิจกรรมต่าง ๆ มากมายกว่าวันหยุดที่เอาแต่นอนอยู่กับบ้านนะจ๊ะ
3. ตัดความวิตกกังวล
ใคร ๆ ก็รู้ว่า อาการวิตกกังวลล่วงหน้าเป็นเรื่องที่ไม่น่าทำ เพราะนอกจากความกังวลจะบั่นทอนเราแล้ว สิ่งนี้ยังอาจจะลดความสุข และทำให้คุณว้าวุ่นจนไม่มีสมาธิทำงานในวันจันทร์เลยทีเดียว
ทั้งนี้ นักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยบอสตันก็กล่าวว่า โดยปกติแล้วคนเรามักจะวิตกกังวลถึงสิ่งที่ต้องทำในวันรุ่งขึ้นหลังเวลา 17.00 น. โดยประมาณ และกระบวนการวิตกกังวลก็จะชักจูงให้สมองเริ่มทำงานตั้งแต่วินาทีนั้นเป็นต้นไป ซึ่งก็หมายความว่า คุณเริ่มรู้สึกเครียดและกดดันตั้งแต่เย็นวันอาทิตย์ ลากยาวไปจนถึงเช้าวันจันทร์ และวันทำงานต่อ ๆ มา ก่อให้เกิดความรู้สึกอ่อนล้า ไม่มีแรงบันดาลใจในการทำงานตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มงานจริง ๆ
ฉะนั้นจะดีกว่าไหมหากเราจะรีบเคลียร์งานให้เสร็จตั้งแต่เย็นวันศุกร์ เพื่อในวันหยุดจะได้มีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่ ชาร์จพลังให้เต็มเปี่ยม จะได้มีแรงทำงานในเช้าวันจันทร์อย่างเต็มแมกซ์ไปเลย
4. ทำทุกวันให้เป็นวันพิเศษ
การศึกษาของสถาบันวิจัยแห่งหนึ่งในสหรัฐอเมริกาแสดงให้เห็นว่า แนวโน้มความสุขของคนทำงานจะพุ่งสูงขึ้นในวันพฤหัสบดี และที่เป็นอย่างนั้นก็อธิบายได้ว่า วันพฤหัสบดีเป็นวันที่ใกล้วันหยุดสุดสัปดาห์ และส่วนใหญ่เราก็เคลียร์งานได้เยอะแล้ว งานส่วนที่เหลือในปลายสัปดาห์จึงเป็นเพียงเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ไม่เร่งรีบเท่ากับตอนต้นสัปดาห์ ด้วยเหตุนี้จึงส่งผลให้อารมณ์ของคนทำงานในวันพฤหัสบดีออกแนวชิล ๆ เบา ๆ ต่างกันลิบลับกับวันเริ่มต้นสัปดาห์ที่แสนวุ่นวายเลยทีเดียว
ทั้งนี้ทั้งนั้นนักจิตวิทยาก็เลยให้คำแนะนำง่าย ๆ เพื่อเพิ่มความสุขในวันจันทร์ให้ได้ลองทำตามกันดูค่ะ โดยให้เราสร้างความพิเศษให้กับทุก ๆ วันในชีวิต เช่น วันจันทร์อาจจะเป็นวันลำดับความสำคัญในชีวิต เคลียร์งานไปพร้อม ๆ กับดื่มกาแฟ หรือขนมจากร้านโปรด วันอังคารไปเซอร์เวย์ร้านอาหารใหม่ ๆ กลางสัปดาห์อย่างวันพุธก็ไปดูหนังกับคนพิเศษ เป็นต้น สร้างสีสันในชีวิตทุก ๆ วัน แค่นี้ความสุขก็อยู่แค่เอื้อมแล้วจ้า
มาถึงบรรทัดนี้แล้วคิดเหมือนกันไหมคะว่า เมื่อเราเตรียมร่างกายให้พร้อม ชาร์จพลังใจให้เต็มเปี่ยม และเติมความคิดแง่บวกให้กับสมอง ไม่ว่าจะวนมาถึงวันจันทร์อีกสักกี่ครั้ง หรือเจอความวุ่นวายในวันไหน ๆ ทุกอย่างก็คงจะผ่านพ้นไปได้อย่างสบาย ๆ ล่ะเนอะ