ช่วงมีประจำเดือน ถือเป็นช่วงที่ภาวะอารมณ์และสภาพร่างกายแปรปรวนพอสมควร แต่เราจะรู้ได้ยังไงล่ะว่าเราจะเป็นประจำเดือนเมื่อไหร่ วันนี้เรามีวิธีการสังเกตอาการก่อนมีประจำเดือนมาฝากกันค่ะ
คงมีสาว ๆ จำนวนไม่น้อยที่เวลาช่วงก่อนมีประจำเดือนและช่วงมีประจำเดือนแทบจะเป็นคนละ คนกันเลย เพราะไม่ว่าจะเป็นสภาพจิตใจหรือสภาพร่างกายก็มักจะเปลี่ยนไปในช่วงก่อนมี ประจำเดือน โรงพยาบาลแมซซาชูเซตส์เปิดเผยว่า ผู้หญิงมากกว่า 85% นั้นมักจะมีอาการบางอย่างก่อนการมีประจำเดือน ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ที่แปรปรวน หรืออาการต่าง ๆ ที่ร่างกายแสดงออกมา อาการเหล่านี้เรียกว่าอาการ Premenstrual Syndrome หรือ PMS
ทั้งนี้ สาเหตุการเกิดนั้นยังไม่ทราบแน่ชัด
แต่มีการสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนโดยเฉพาะ
ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) ที่เกิดขึ้นหลังการตกไข่
(หากไม่มีการตกไข่ในรอบเดือนนั้นก็จะไม่มีการผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน)
นอกจากนี้ยังพบว่า ในช่วงมีอาการ สารในร่างกายที่มีชื่อว่า เซโรโทนิน
(Serotonin) ที่อยู่ในสมองนั้นจะลดลง
ซึ่งสารชนิดนี้ทำงานสัมพันธ์กับการควบคุมอารมณ์ ความโกรธ และการหิว
และเมื่อสารนี้ลดลงมากเกินไปก็ยิ่งจะส่งผลให้มีอาการรุนแรงขึ้นได้
วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำข้อมูลจากเว็บไซต์ livestrong.com มาบอกต่อกันค่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่าอาการก่อนการมีประจำเดือนนั้นมีอะไรบ้าง
โรงพยาบาลในแมสซาชูเซตส์รายงานว่า ผู้หญิงจำนวนไม่น้อยจะมีอาการปวดท้อง, เป็นตะคริว, ท้องเสีย, ท้องผูก หรือแม้แต่คลื่นไส้อาเจียนในวันก่อนที่จะเป็นประจำเดือน นอกจากนี้ความอยากอาหารจะเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งเป็นที่มาของการที่น้ำหนักขึ้นในช่วงมีประจำเดือน
- อารมณ์แปรปรวน
ในช่วงก่อนมีประจำเดือน ผู้หญิงหลายคนจะมีความแปรปรวนทางอารมณ์อย่างมาก ในบางรายอาจจะมีภาวะอารมณ์อ่อนไหวมากเกินไป, โกรธฉุนเฉียว, หดหู่ หรือร้องไห้ง่าย หรือบางรายจะมีอาการวิตกกังวลร่วมด้วย นอกจากนี้ยังมีปัญหาในการนอนหลับ มีอาการปลีกตัว แยกตัวเองออกจากสังคม มีอาการหลง ๆ ลืม ๆ แถมยังมีปัญหาเกี่ยวกับสมาธิอีกด้วย
- ผิวหนังอักเสบง่าย
เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงต้องเคยมีประสบการณ์การเป็นสิวและอาการคัดหน้าอกก่อนมีประจำเดือนอย่างแน่นอน นอกจากนี้อาการก่อนมีประจำเดือนที่เกี่ยวกับผิวหนังก็ยังมีอีกนะ อย่างเช่น อาการอักเสบจากรอยขีดข่วน หรือมีอาการชาตามปลายมือปลายเท้า ในบางรายอาจจะเกิดอาการบวมที่หน้าและเท้าอีกด้วย
- เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า
อาการเมื่อยล้าและเหนื่อยง่าย มักจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือน มีสาเหตุมาจากการที่น้ำตาลในเลือดลดลงต่ำตามธรรมชาติในช่วงก่อนเป็นประจำเดือน
- อาการของโรคประจำตัวทวีความรุนแรงขึ้น
ในช่วงก่อนเป็นประจำเดือนกลุ่มผู้หญิงที่เป็นโรคลมชัก หอบหืด ภูมิแพ้ และโรคที่เกี่ยวกับเนื้อเยื่อ เช่น โรคไขข้ออักเสบหรือโรค SLE นั้น จะแสดงอาการหนักขึ้นซึ่งควรจะระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
- อาการอื่น ๆ
ในช่วงก่อนมีประจำเดือนนั้น นอกจากอาการที่กล่าวมาแล้วยังมีอาการอื่น ๆ ที่แสดงออกอีกมากมาย เช่น ปวดหัว, วิงเวียนศีรษะ, เป็นลม, หัวใจเต้นเร็วขึ้น, รู้สึกร้อนวูบวาบ, ปวดตามข้อ, กล้ามเนื้อกระตุก, มีปัญหาในการมองเห็น, ตาแดง และมีอาการอักเสบในเยื่อบุตา นอกจากนี้ในผู้หญิงบางคนจะมีความต้องการทางเพศในช่วงก่อนมีประจำเดือนอีกด้วยค่ะ
ถึงแม้สาว ๆ หลายคนจะเคยชินกับอาการก่อนมีประจำเดือนแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่ควรมองข้ามหรือละเลยนะคะ เพราะบางทีอาจจะมีอาการบางอย่างที่กำลังบ่งบอกถึงความผิดปกติทางร่างกายที่อันตราย เพราะฉะนั้นสาว ๆ ควรที่จะสังเกตตัวเองอยู่อย่างสม่ำเสมอนะคะ