สาวน้อยลดน้ำหนักจาก 70 กิโลกรัม ผอมสุขภาพดีสุด ๆ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ 1516660 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
ลดความอ้วน สาวน้อยเคยอ้วนกว่า 70 กิโลกรัม สามารถเปลี่ยนตัวเองให้กลับมาหุ่นดีได้เพราะเริ่มหันมารักตัวเอง และด้วยจิตใจที่ตั้งมั่นจึงทำให้ทุกวันนี้เธอกลายเป็นสาวน่ารักขึ้นเยอะเลยจ้า
สาวน้อยเคยอ้วนฉุกว่า 70 กิโลกรัม ตั้งใจลดน้ำหนักอยากผอมสุขภาพดี เพราะแรงบันดาลใจจากการอกหัก แต่การอักหักครั้งนี้ก็ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป แต่จะเปลี่ยนไปแบบไหนนั้น มาติดตามเรื่องราวของคุณ 516660 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอมกันเลยค่ะ
เรื่องราวของสาวน้อยคนนี้ หลังจากที่อกหักเพราะแฟนของเธอกลับไปคบกับแฟนเก่า สุดท้ายเธอจึงได้ปฏิญาณตัวเองเอาไว้ว่าสักวันเธอจะต้องผอมให้ได้ และด้วยแรงฮึดและความมุ่งมั่นตั้งใจนี้ก็ทำให้เธอเริ่มที่จะมาใส่ใจการออกกำลังกายมากขึ้น แต่ก่อนหน้านี้เธอก็เคยเพิ่งยาลดความอ้วนเหมือนคนอื่น ๆ แต่สุดท้ายเธอก็ต้องหยุด ! เพราะยาลดความอ้วนทำให้เธอหน้ามืดและเวียนหัวอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อตัดสินใจที่จะไม่เพิ่งยาลดความอ้วนอีกต่อไป เธอจึงเริ่มที่จะหันหน้าเข้าสู่การออกกำลังกายอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นการเข้าฟิตเนส วิ่ง ฮูลาฮูป เล่นเวท พร้อม ๆ กับควบคุมอาหาร ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือน้ำหนักของเธอค่อย ๆ ลดลงจนเหลือเพียงแค่ 55 กิโลกรัม จนทำให้ทุกวันนี้เธอกลายเป็นสาวน้อยสุขภาพดี ที่สำคัญผอมลงแล้วยังทำให้เธอน่ารักมากขึ้นอีกด้วย
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะทำให้เธอเปลี่ยนเป็นคนใหม่ได้มากแค่ไหน มาติดตามกันเลย... และสำหรับใครที่อ่านแล้วเกิดแรงบันดาลใจอยากจะลดความอ้วนอย่างจริงจังบ้างก็ไม่ใช่เรื่องยากนะคะ เพราะสาวน้อยคนนี้ได้บอกเอาไว้ว่า “ทุกคนสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ เพียงแค่เริ่มต้นจากตัวเอง” เท่านั้นค่ะ
สวัสดีค่ะทุกคน คำนิยามของเราคือ "เราสวยที่สุดในโลกส่วนตัวของเรา เพราะมีเราคนเดียวที่อยู่ในโลกนั้น" ซึ่งคำว่าเปลี่ยนแปลงตัวเองสำหรับเราแล้ว ไม่ใช่แค่หน้าตาหรือหุ่น แต่เป็นร่างกายของเราทั้งหมด เรื่องของเราเป็นพัฒนาการของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง จากเมื่อก่อนเคยหนักกว่า 67-70 กิโลกรัม ตอนนี้เหลือ 55 กิโลกรัม "ไม่สวย แต่สุขภาพดี" นะคะ
หลังจากนั้นเราก็เริ่มหันมาออกกำลังกาย โดยเต้นแอโรบิคทุกวัน ปิดเทอมก็ไปฟิตเนส วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าบ้าง วิ่งรอบสนามกีฬาบ้าง อ่อ ลืมบอก เราเคยกินยาลดน้ำหนักด้วยนะ แต่เวียนหัว หน้ามืดจนต้องหยุด ! การกินยามันเป็นเรื่องของจิตใจเราเองที่คิดเอาว่ากินยาและไม่หิว การโยโย่หรือไม่โยโย่ก็อยู่ที่เราอีกนั้นแหละ บางคนบอกว่ากินยาและโยโย่นั้นอาจเป็นเพราะหลังจากหยุดยาคุณไม่ควบคุมอาหาร กินอยู่แบบนั้นถึงจะออกกำลังกายให้ตายก็ไม่มีวันผอม 55 เข้าใจตรงกันนะ แต่เรากินได้แป๊บเดียวก็หยุด เพราะแม่ให้ดูข่าวคนกินยาลดน้ำหนักแล้วตาย โดยแม่ได้พูดว่า "อย่ากินนะอันตราย ตายไม่ได้เห็นหน้าพ่อแม่นะ" หลังจากนั้นเราก็หยุดกินยา และออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร ทำแบบนั้นจนช่วงเวลา 1 ปีกว่า โดยช่วงเปิดเทอมจะขึ้นมัธยมปีที่ 6 น้ำหนักน้อยสุดในชีวิตละ 55 กิโลกรัม
ตอนน้ำหนักเยอะรู้สึกว่า ใส่อะไรก็อึดอัด จะวิ่งจะเดินจะนั่งก็อึดอัดไปหมด อยู่ใกล้คนตัวผอมแล้วอิจฉา ตอนอ้วนนะเห็นเสื้อผ้าอะไรก็อยากใส่อยากได้ไปหมด แต่ก็ใส่ไม่ได้ทุกที เราไม่ค่อยกล้าถ่ายรูปเลยรู้สึกเซ็งกับรูปร่างและหน้าตาตัวเองมาก นั่นคือสิ่งที่เราคิดที่จะลดน้ำหนัก
รูปตอนปัจจุบัน
1. วิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้า มันจะมีรอบบอก วิ่งวันละ 8 รอบ แต่เราจะไม่ถึงกับวิ่ง จะปรับความเร็วให้มันเร็ว ๆ แต่ใช้วิธีเดินเอานะ เพราะถ้าเราวิ่งน่องเราอาจจะใหญ่ได้ แต่ตอนนี้น่องเราก็ใหญ่นิดหนึ่งนะแต่พอเวลาเอานิ้วจิ้มมันจะแข็ง ๆ ก็ดีกว่าไขมันละเนอะ
2. วิ่งรอบสนามกีฬา คือสนามกีฬาจังหวัดของเราจะใหญ่ มันเป็นสนามฟุตบอล คือหลังจากวิ่งบนลู่วิ่งก็ต่อด้วยรอบสนามเลยจ้า 2 รอบ อิอิ วิ่งรอบสนามนี้เราทำหลังจากน้ำหนักตัวลดเหลือประมาณ 60 นะ เพราะเราเริ่มอยากผอมเร็ว ๆ แล้วช่วงนั้นมีคนที่เราแอบชอบด้วย หุหุ
3. วันไหนที่ไม่ได้วิ่ง เราก็จะออกกำลังกายโดยเต้นแอโรบิค ถึงจะไม่เหนื่อยเท่าวิ่งแต่มันเหงื่อไหลออกทุกส่วนไม่แพงวิ่งเลยนะ
4. ฮูลาฮูป เล่นวันละ 30 นาที
5. เล่นเวท แต่ตอนนั้นไม่มีเวทก็เลยใช้ขวดน้ำขนาดใหญ่ ๆ ใส่น้ำให้เต็มแทน โดยยกจนกว่าจะรู้สึกว่าไม่ไหว
6. งดขนมขยะทุกชนิด
7 .ไม่กินน้ำอัดลม และชาต่าง ๆ น้ำหวานด้วย (แต่โดยส่วนตัวไม่ค่อยชอบกินอยู่แล้ว)
จะบอกว่าจิตใจเราเป็นเรื่องสำคัญ ตอนนั้นพอน้ำหนัก 55 กิโลกรัม เราคิดว่าเราผอมแล้วเลยกับมากินเหมือนเดิมและขาดการออกกำลังกาย น้ำหนักก็เริ่มขึ้น ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่ใจของเรา ตอนนี้เราเริ่มหันมาเข้าฟิตเนสและเลือกกินอาหาร ต่อไปกำลังจะเล่นฟิตเนสให้มีกล้ามเนื้อ ถ้ามีเมื่อไหร่จะมารีวิวให้ดูนะคะ