นักวิชาการรวบรวมบัญชียายอดแย่ ทั้งยาอมนีโอมัยซิน ยาแก้ท้องเสียต้านแบคทีเรีย ทำคนติดเชื้อแบคทีเรียดื้อยาปีละกว่า 8 หมื่นคน ตายเกือบครึ่ง เตรียมชงสาธารณสุขถอนทะเบียนตำรับยาออกจากไทย
เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2559 ศูนย์วิชาการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย) ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายนักวิชาการจากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค จัดแถลงข่าว "เตือนภัยตำรับยาต้านแบคทีเรียที่ควรถอดถอนออกจากประเทศไทย" ที่ศศนิเวศ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับความเสี่ยงทางสุขภาพ นักวิชาการ แพทย์ เภสัชกร เครือข่ายผู้บริโภค และเครือข่ายเด็ก จึงได้รวบรวมบัญชียายอดแย่ที่มีส่วนผสมของยาต้านแบคทีเรีย เพื่อให้คัดเลือกรายการที่ควรถอนทะเบียนตำรับยาออกจากประเทศไทย และเตรียมยื่นหนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้ อย. ถอนบัญชียาเหลานี้ออกจากประเทศ
สำหรับบัญชียายอดแย่นั้น มีทั้งยาอมแก้เจ็บคอ ที่ไม่ควรมีส่วนผสมของยาต้านเชื้อแบคทีเรีย เพราะอาการเจ็บคอกว่า 80% ไม่ได้เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย หากนำมาใช้จะทำให้เกิดเชื้อดื้อยาในลำไส้ เช่นเดียวกับยาแก้ท้องเสียที่ 80% เกิดจากเชื้อไวรัส รวมถึงอันตรายจากสูตรผสมของยาต้านแบคทีเรียในยาประเภทต่าง ๆ โดยสามารถตรวจสอบรายชื่อยาทั้งหมดได้ที่ thaidrugwatch.org หรือ thaihealth.or.th
ด้าน ผศ. นพ.พิสนธิ์ จงตระกูล วุฒิบัตรกุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานคณะทำงานสร้างเสริมความเข้มแข็งภาคประชาชนด้านการใช้ยาอย่างสมเหตุผล (สยส.) กล่าวว่า ตัวอย่างยาที่สมควรดำเนินการเพิกถอนทะเบียนตำรับยาก่อนเป็นอันดับแรก คือ ยาอมที่มีส่วนประกอบของยาปฏิชีวนะ โดยเฉพาะสูตรยาที่มีนีโอมัยซิน (Neomycin) เพราะยาปฏิชีวนะนีโอมัยซินไม่ออกฤทธิ์ต่อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของการเจ็บคอ แต่ออกฤทธิ์ได้ต่อแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ เมื่อกลืนยาลงไปจะชักนำให้เกิดการดื้อต่อยาปฏิชีวนะกลุ่มที่มีชื่อว่าอะมิโนกลัยโคไซด์ (Aminoglycoside) ทั้งกลุ่ม ซึ่งยาปฏิชีวนะกลุ่มนี้เป็นยาที่ใช้ช่วยชีวิตคนที่ติดเชื้อดื้อยาในกระแสเลือด
ขณะที่ ผศ. นพ.กำธร มาลาธรรม รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี และประธานคณะทำงานด้านยาปฏิชีวนะ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ในแต่ละปีมีผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่เสียชีวิตจากการติดเชื้อดื้อยาปีละ 45,000 คน และพบผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยาที่ไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลจำนวนมากขึ้น ทำให้ต้องรักษาด้วยวิธีการยุ่งยากและรักษาด้วยยาที่แพงกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้มีผู้ป่วยติดเชื้อดื้อยาจำนวนมากนั้นเป็นเพราะใช้ยาต้านแบคทีเรียที่มากเกินความจำเป็นและใช้อย่างไม่ถูกต้อง เพราะสามารถหาซื้อยาเหล่านี้ได้ทั่วไป
ภาพจาก thaihealth.or.th
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก thaihealth.or.th