ขยี้ตาบ่อย ๆ ไม่ใช่แค่ดูแก่กว่าวัย แต่ยังพ่วงผลร้ายต่อสุขภาพอีกเพียบ !

          ขยี้ตาบ่อย ๆ เป็นหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยรอบ ๆ ดวงตา โดยเฉพาะที่ชั้นหนังตา และยิ่งไปกว่านั้นอาจเป็นสาเหตุของปัญหาสายตาอีกหลายอย่างด้วย
คันขยี้ตาบ่อย

          หน้าแก่ก่อนวัย เป็นสิ่งที่ใครก็ไม่อยากพบเจอ ถ้าอย่างนั้นลองสำรวจตัวเองกันหน่อยค่ะว่า เราชอบขยี้ตาบ่อย ๆ หรือเปล่า เพราะถ้าทำอยู่ก็ขอให้เลิกได้เลิก ก่อนจะเกิดริ้วรอยจนรู้สึกรำคาญใจ และที่สำคัญ การขยี้ตาบ่อย ๆ ก็ยังเพิ่มความเสี่ยงโรคทางสายตาได้มากกว่าที่คิด แถมยังอาจร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้เลย

ทำไมเราถึงอยากขยี้ตา

ขยี้ตาบ่อยๆ

          สาเหตุที่ทำให้เราอยากขยี้ตา เป็นกลไกอย่างหนึ่งของร่างกายที่ต้องการกำจัดสิ่งระคายเคืองออกจากตา ซึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อมีภาวะดังนี้
  • คันตา ระคายเคืองตา จากสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่นละออง เศษผง ควันบุหรี่ หรือขนสัตว์ที่เข้าตา 
  • ตาแห้ง จากน้ำหล่อลื่นในดวงตาลดลง โดยเฉพาะหากจ้องจอนาน ๆ หรือตากลมตากแดดเป็นเวลานาน 
  • ภูมิแพ้ดวงตา ซึ่งจะรู้สึกคันตามาก ๆ 
  • ตาแดง เยื่อบุตาอักเสบจากการติดเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส
          หรือบางคนก็ติดนิสัยชอบขยี้ตา หรือจับดวงตา เมื่อรู้สึกเครียด หรือง่วงนอน อยากได้ความสดชื่น อยากกระตุ้นให้ตาตื่นขึ้นมา

ขยี้ตาบ่อย ๆ ทำหน้าแก่ก่อนวัย

ริ้วรอยรอบดวงตา

          การขยี้ตาคือการใช้นิ้วมือถูบริเวณหนังตาบน ซึ่งบางคนก็อาจจะคลึงเบา ๆ แต่บางคนก็ออกแรงขยี้อย่างจริงจัง และหากขยี้ตาบ่อย ๆ ก็อาจส่งผลต่อความงาม ดังนี้

1. ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย

          เพราะผิวหนังบริเวณเปลือกตาเป็นจุดที่บอบบาง การใช้แรงถูหรือขยี้ลงบนผิวจึงอาจทำให้เกิดริ้วรอยเล็ก ๆ รอบดวงตา และทำให้ผิวสูญเสียความกระชับ ผิวหนังหย่อนคล้อยได้

2. ตาคล้ำ

          การถูลงบนเปลือกตาซ้ำ ๆ ก็ทำให้เกิดรอยคล้ำที่เปลือกตาได้ จากการกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต จนทำให้เส้นเลือดดำมองเห็นได้ชัดเจนกว่าปกติ

3. ชั้นตาไม่เท่ากัน

          ถ้าขยี้ตาบ่อย ๆ จะทำให้กล้ามเนื้อบริเวณเปลือกตายืดได้ ส่งผลให้ชั้นตาคลายตัว จากตาสองชั้นก็มีชั้นตาเพิ่มขึ้นมา จนชั้นตาไม่เท่ากับตาอีกข้าง หรือที่เรียกกันว่าหนังตาตก ดูแก่กว่าวัยได้

4. ตาบวม

          นอกจากอาการข้างต้นแล้ว การขยี้ตายังเสี่ยงทำให้เปลือกตาอักเสบ เวลาขยี้ตาเสร็จจึงอาจสังเกตได้ว่าตาบวมตุ่ย ดวงตาดูไม่สดใส

ขยี้ตาบ่อย ๆ เสี่ยงโรคอีกเพียบ

          ไม่เพียงแต่กระทบกับความสวยความงามเท่านั้น แต่การขยี้ตาบ่อย ๆ ซ้ำ ๆ ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพดวงตา ดังนี้

1. เสี่ยงติดเชื้อ

ขยี้ตาแล้วตาแดง

          เชื้อโรคจากมือเราอาจปนเปื้อนไปยังดวงตาได้ ซึ่งก็เสี่ยงที่จะเกิดการอักเสบที่ดวงตาได้เช่นกัน โดยเฉพาะหากเผลอขยี้ตาไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ล้างมือให้เรียบร้อย ฝุ่นผงอาจฝังไปในกระจกตา หรือทำให้กระจกตาเป็นแผล ก่อให้เกิดอาการอักเสบ

2. อาการทางสายตารุนแรงขึ้น

          เช่น หากมีอาการภูมิแพ้ ระคายเคืองตาจากสารก่อภูมิแพ้ หรือมีตุ่ม ผื่นคันภูมิแพ้บริเวณหนังตา ซึ่งหากใช้นิ้วมือขยี้ตาก็อาจเสี่ยงติดเชื้อเพิ่มขึ้น หรือมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ เช่น เยื่อบุตาอักเสบ กระจกตาอักเสบได้

3. เสี่ยงภาวะกระจกตาโก่ง

แว่นสายตา

          คนที่ขยี้ตาบ่อย ๆ และมักจะขยี้ตาด้วยการใช้ข้อนิ้วกดลูกตา พฤติกรรมนี้อาจส่งผลให้เกิดการโก่งของกระจกตาได้ โดยจะสังเกตได้จากอาการสายตามัวลงเรื่อย ๆ เห็นภาพบิดเบี้ยว เคืองตา แสบตา ตาสู้แสงไม่ได้ และในบางรายอาจตรวจพบว่าค่าสายตาสั้นและเอียงค่อนข้างมาก ค่าสายตาเปลี่ยนไว ต้องเปลี่ยนแว่นบ่อย ๆ เป็นต้น

4. เลนส์ตาเคลื่อน

          นิ้วมือที่ถูไป-มาบนเปลือกตาอาจทำให้เลนส์ตาเคลื่อน และยังเสี่ยงทำให้กระจกตาด้านหลังได้รับบาดเจ็บไปด้วย

5. กล้ามเนื้อตาอ่อนแรง

หนังตาตก

          อย่างที่บอกว่าชั้นเปลือกตามีความบอบบาง ถ้าขยี้ซ้ำ ๆ บ่อย ๆ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว เพิ่มความเสี่ยงกล้ามเนื้อตาอ่อนแรง มีอาการหนังตาตก บดบังทัศนวิสัยการมองเห็น บางคนก็มีอาการตาพร่ามัว หรือมองเห็นภาพซ้อนร่วมด้วย
          อย่างไรก็ตาม การขยี้ตาแรง ๆ และทำซ้ำบ่อย ๆ อาจเป็นเหตุให้กระจกตาบาง และถ้ายังไม่เลิกขยี้ตาก็อาจทำให้กระจกตาทะลุ ซึ่งจุดนี้ก็อันตรายถึงขั้นตาบอดเลยทีเดียว

คันตา อยากขยี้ตา แก้ยังไงดี

วิธีแก้อาการคันหัวตา

          ถ้ารู้สึกคันตา อยากขยี้ตา ให้ลองใช้วิธีเหล่านี้แทน
  • หยอดน้ำตาเทียม แก้อาการตาแห้ง อาการคันตา
  • ประคบเย็นที่ดวงตา ความเย็นจะช่วยยับยั้งอาการคันได้
  • รักษาอาการทางสายตา
          นอกจากนี้ก็ควรย้ำกับตัวเองเสมอ ๆ ว่าการขยี้ตาส่งผลเสียต่อร่างกายของเรายังไง เพื่อคอยเตือนใจให้หยุดตัวเองได้ทันก่อนใช้นิ้วมือขยี้ตา

วิธีดูแลดวงตา

ลดความอยากขยี้ตา

วิธีดูแลสุขภาพดวงตา

          ถ้าตัดจบได้ตั้งแต่ต้นเหตุเลยก็จะช่วยเซฟตัวเองจากการขยี้ตาได้ โดยวิธีดูแลดวงตาก็สามารถทำได้ ดังนี้
  • หลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจทำให้เกิดอาการคันตา เช่น ฝุ่นละออง ควันบุหรี่ หรือสารเคมี
  • ก่อนออกจากบ้านไปเจอลมและแสงแดด ควรสวมใส่หมวก แว่นตากันแดด หรือกางร่มด้วยทุกครั้ง
  • ควรพักสายตาจากหน้าจอทุก ๆ 20 นาที ด้วยการมองออกไปไกล ๆ ราว 20 วินาที ในระยะ 20 ฟุตเป็นอย่างน้อย 
  • ควรใช้คอนแทคเลนส์เฉพาะกรณีจำเป็น และควรใช้อย่างถูกวิธี ถูกสุขอนามัย
  • ควรตรวจสุขภาพตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
  • หากมีปัญหาสุขภาพดวงตา หรือมีโรคภูมิแพ้ดวงตา ควรรักษาอย่างต่อเนื่อง
          ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญที่เราควรต้องดูแลอย่างดี ดังนั้น ใครชอบขยี้ตาก็ขอให้เลิกพฤติกรรมนี้ให้ไว เพราะส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งด้านความงามและสุขภาพตาอย่างที่ได้กล่าวไป

บทความที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพดวงตา

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ขยี้ตาบ่อย ๆ ไม่ใช่แค่ดูแก่กว่าวัย แต่ยังพ่วงผลร้ายต่อสุขภาพอีกเพียบ ! อัปเดตล่าสุด 26 เมษายน 2567 เวลา 17:28:50 24,646 อ่าน
TOP
x close