เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สำหรับชาวฝรั่งผิวขาว การมีผิวคล้ำเข้ม หรือที่เรียกว่าผิวแทน นับเป็นสัญลักษณ์ของความสุขภาพดี มีชีวิตชีวา จึงได้เห็นบรรดาชาวต่างชาติผิวขาวพยายามหาสารพัดหนทาง เพื่อให้ผิวของตนดูคล้ำ และเป็นสีแทนขึ้น ซึ่งการอาบผิวด้วย "ซันเบด" (sunbed) ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งซึ่งได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่มันก็เป็นที่จับจ้องและคอยระมัดระวังมาตลอด เนื่องจากการทำซันเบดเสี่ยงก่อให้เกิดโรคมะเร็งผิวหนังได้ ร้อนถึงสมาคมการอาบแดดแห่งอเมริกา หรือ ASA (American Suntanning Association) ที่ได้ออกมาแย้งว่าความเข้าใจดังกล่าวเป็นเรื่องผิด ซันเบดไม่ใช่สาเหตุของการเกิดมะเร็งแต่อย่างใด
ASA ซึ่งเป็นสมาคมใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นในปี 2012 จากการรวมตัวของผู้ให้บริการซันเบดซาลอนหลายรายในสหรัฐฯ ได้ระบุว่า ผู้คนมีความเข้าใจผิดหลายประการเกี่ยวกับการทำซันเบด อันเนื่องมาจากการวิจัยหลายชิ้นชี้ว่ามันเป็นสาเหตุก่อให้เกิดมะเร็งได้ แต่ความเป็นจริงแล้ว เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนอันเนื่องมาจากทำการวิจัย เพราะผู้วิจัยมักเฉพาะเจาะจงที่เลือกจะศึกษาอันตรายที่เกิดจากเครื่องมือซันเบดแบบทำเองที่บ้าน หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ให้รังสียูวีเสียมากกว่า แต่กลับไม่วิจัยการทำซันเบดโดยซาลอนที่มีความที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษเข้าไป (professional sunbed salon) ซึ่งทาง ASA กล่าวว่าการทำซันเบดในซาลอนนั้นสามารถควบคุมความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังระบุว่า ภาวะพร่องวิตามิน D กำลังระบาดไปทั่วโลก จึงจำเป็นที่จะต้องให้ข้อมูลที่เป็นกลาง และถูกต้องเกี่ยวกับการอาบรังสียูวี
กรรมการของ ASA ระบุว่า ในตอนนี้จำเป็นต้องมีการอภิปรายถึงแสงยูวีที่มาจากดวงอาทิตย์ และจากซันเบดกันอย่างจริงจังเสียที เนื่องจากที่ผ่านมา มีการพูดถึงการอาบรังสียูวีให้ดูอันตรายเกินจริงมาโดยตลอด หลาย ๆ คนเปรียบการอาบรังสียูวีซึ่งสามารถควบคุมความเสี่ยงได้ ว่ามันอันตรายอย่างกับสารหนู หรือว่ากัมมันตรังสีพลูโตเนียม ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริงอย่างร้ายแรง และต้องการปรับความเข้าใจใหม่ให้ถูกต้อง
อย่างไรก็ดี แม้ทาง ASA จะออกมาแถลงการณ์ดังกล่าวอย่างชัดเจนใน เว็บไซต์ ของตนเอง ว่าการทำซันเบดไม่ใช่สาเหตุของโรคมะเร็งผิวหนัง แต่ก็ดูจะเป็นเพียงการยืนยันแบบกระต่ายขาเดียว ซึ่งสวนทางกับผลการศึกษาล่าสุดขององค์การอนามัยโลก หรือ WHO โดยสิ้นเชิง โดยผลการศึกษาของ WHO พบว่า การทำซันเบดมีความเชื่อมโยงกับการเกิดโรคมะเร็งผิวหนัง และ 75% ของผู้ที่ทำซันเบด เสี่ยงต่อการพัฒนาไปสู่การเป็นมะเร็งผิวหนังชนิดร้ายแรง (melanoma) ด้วย
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อนๆ ได้ที่นี่ค่ะ
