เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ mynameismesa สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม
สำหรับใครที่คิดว่าการออกกำลังกาย เป็นแค่ทางเลือกหนึ่งในการลดน้ำหนักหรือเป็นเรื่องไกลตัวเกินกว่าจะให้ความสำคัญ กระปุกดอทคอมขอนำเสนอเรื่องราวจาก คุณ mynameismesa สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม หนึ่งในผู้ที่สร้างแรงบันดาลใจดี ๆ ที่ใช้ความอดทน มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ในการออกกำลังกาย เพื่อช่วยควบคุมน้ำหนักและบรรเทาอาการของโรคต่าง ๆ ที่ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ซึ่งทุกวันนี้เธอได้ของขวัญเป็นสุขภาพที่ดีขึ้น ได้ทั้งสัดส่วนที่พอใจ จนเราอยากเก็บมาแชร์และฝากให้สาว ๆ ทุกคนได้ลองอ่าน เพื่อเติมกำลังใจดี ๆ ในการออกกำลังกายของตัวเองกันค่ะ
วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ของตัวเองให้เพื่อน ๆ ฟังค่ะ แต่ก่อนเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่อ้วนมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วค่ะ เป็นคนชอบดื่มนมหวานมาก เลยได้ทั้งสูงและอ้วนมาพร้อม ๆ กัน ... ในชีวิตตั้งแต่จำความได้ก็อ้วนมาตลอด
พออายุได้ 3 ขวบ ก็พบว่าตัวเองเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่ว และมีไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้เป็นคนที่หัวใจเต้นเร็วกว่าปกติและเต้นผิดจังหวะ ตั้งแต่เด็กจะคุ้นเคยกับโรงพยาบาลมากค่ะ เข้า ICU ทุกเดือน กินยาที่ช่วยปรับการเต้นของหัวใจทุกวัน ออกกำลังกายมากเหมือนคนอื่นก็ไม่ได้ค่ะ เพราะจะทำให้หัวใจเต้นเร็วและเกิดอาการช็อคเป็นแบบนี้มาตลอด จนจำความได้คือ อายุประมาณ 17 ปี ก็มีน้ำหนักถึง 86-88 แต่ก็ยังไม่มีความคิดว่าจะลดน้ำหนักค่ะ รู้สึกว่ามันท้อมันเหนื่อย มันทรมาน ออกกำลังกายเยอะ ๆ ก็จะต้องช็อคเข้า ICU ตลอด รู้สึกแย่และไม่ดีเลยค่ะ ด้วยความที่อ้วนบวกกับร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงทำให้โดนเพื่อนแกล้งบ่อย ๆ เครียดมากค่ะ เคยคิดอยากฆ่าตัวตายถึง 2 ครั้งด้วยกัน !
หน้าเหมือนจะแตกออกมาเลยค่ะ >,<
คุณหมอเลยแนะนำคุณแม่ว่า ถ้าน้ำหนักตัวลงโรคหัวใจก็จะเพลา ๆ ลงตามไปด้วย แต่เรื่องลิ้นหัวใจรั่วนั้นไม่สามารถแก้ไขได้แต่มันรั่วนิดเดียวนะคะ พอให้มีอาการใจสั่นแวบ ๆ เจ็บหน้าอกนิดหน่อยแต่ไม่เป็นอะไรมาก แต่ไฟฟ้าลัดวงจรเนี่ยแหละค่ะ มันค่อนข้างทรมาน จนสุดท้ายก็ตัดสินใจเข้าผ่าตัดทำบายพาสตอนอายุ 17 ปี หลังจากนั้นอาการไฟฟ้าลัดวงจรในหัวใจก็หายดีเป็นปกติค่ะ
พอเริ่มเข้ามหาลัย ปี 1 น้ำหนักทะยานไปถึง 96 กิโลกรัม อย่างรวดเร็วปานสายฟ้าแลบ และยังทะยานต่อไปไม่หยุดหย่อน 5555+ เนื่องจากว่าช่วงนั้นติดเกมค่ะ ไม่ลุกไปไหนไม่ทำอะไร กินข้าวก็กินมันหน้าคอมเนี่ยแหละค่ะ วัน ๆ นั่งจุ้มปุ๊กอยู่อย่างนั้น ไม่อ้วนก็ไม่รู้จะว่าไงแล้วค่ะ จนสุดท้าย จบปี 4 มาด้วยน้ำหนัก 106-107 กิโลกรัม นั่นคือที่สุดในชีวิต รู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวแล้ว ยิ่งอ้วน โรคลิ้นหัวใจรั่วก็ยิ่งแสดงอาการ แค่เดินนิด ๆ หน่อยใจก็สั่นและเจ็บหน้าอกมาก เป็นอะไรที่ทรมานมาก ไม่เพียงแค่โรคเดิมที่มีอยู่ เริ่มมีอาการปวดข้อปวดเข่าเพราะแรงรับน้ำหนักไม่ค่อยจะไหว เลยรู้สึกว่าไม่ไหวกับตัวเองจริง ๆ เลยเริ่มเล่นฟิตเนสแบบจริงจัง
เล่นฟิตเนสวันละ 4-5 ชม. เน้นเป็นพวกเบิร์นจะได้เผาผลาญไขมันเยอะ ๆ
ตามด้วยพวกบอดี้เวทเน้นกระชับ คือกลัวว่าถ้าผอมลงแล้วเดี๋ยวมันจะย้วยหย่อนเผละ ๆ น่ะค่ะ
ทานข้าวปกติ ไม่เคยอด แต่จะเน้นเป็นทานจำพวกแป้งน้อย
น้ำมีสีทุกชนิด คืองด ! ทานแต่น้ำเปล่า งดพวกของทอด ๆ มัน ๆ ไปเลย
ปัจจุบัน อาการเจ็บหน้าอกจากลิ้นหัวใจรั่วเป็นน้อยลงมาก ไม่ค่อยเป็นแล้วค่ะ ^___^ โรคก็ไม่ค่อยถามหา รู้สึกดีเหมือนได้เกิดใหม่
ในเรื่องของการกิน จะถือคติง่าย ๆ นะคะ
มื้อเช้า ทานดั่งราชา
มื้อเที่ยง ทานดั่งขอทาน
มื้อเย็น ทานดั่งยาจก
มื้อเที่ยง ทานดั่งขอทาน
มื้อเย็น ทานดั่งยาจก
ตามนี้เลยค่ะ และมื้อเย็นจะทานก่อนไปออกกำลังกายนั้นก็คือ ประมาณบ่ายสาม จากนั้นก็จะเริ่มไปฟิตเนสตั้งแต่ 16.00-20.00 น. ทำแบบนี้เป็นเวลานานพอสมควร เชื่อว่าของอร่อยทานแล้วอ้วนเสมอ แต่ถ้าเรางด อด ไม่ทานแบบหักดิบไปเลย ซักวันเราอาจจะตบะแตกได้ ก็มันอร่อยนี่ค่ะ ปกติเป็นคนชอบทานไอศกรีม ก็จะทานอาทิตย์ละครั้ง หรืออาทิตย์ละสองครั้งเพื่อสนอง NEED ตัวเองค่ะ
จำไว้ง่าย ๆ ค่ะ เราทานอะไรในวันนั้น ถ้าไม่อยากอ้วนสะสมเราก็แค่ต้องใช้ให้หมดเท่านั้นเอง ปัจจุบันตอนนี้ลดมาได้ถึง 76-77 กิโลกรัมแล้ว แต่ยังอยากจะลดต่อไปอีก มีเป้าหมายไว้ที่ 65 กิโลกรัม ^^
อยากฝากถึงเพื่อน ๆ ทุกคนที่ตั้งใจจะลดน้ำหนัก ถ้าเรามีความตั้งใจเราทำได้แน่ค่ะ ยาไม่ต้องทาน กาฟงกาแฟ อาหารเสริมเอย ลองมาหมดแล้ว ออกกำลังกายผอม เฟิร์ม ร่างกายแข็งแรงค่ะ เพิ่มเติมอีกนิด เราสูง 165 และอายุ 22 ปีค่ะ
หน้าไม่ระเบิดออกมาแล้วค่ะ 55555
สุดท้ายแล้วขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังจะลดน้ำหนักนะคะ ^_____^
เห็นความเปลี่ยนแปลงกันชัดเจนแบบนี้แล้ว เชื่อได้เลยว่าสาว ๆ หลายคนน่าจะมีกำลังใจในการหันมาออกกำลังกายกันเพิ่มมากขึ้น เอาเป็นว่าใครอยากมีสุขภาพแข็งแรง ห่างไกลโรค และได้หุ่นสวยเพรียวมาเป็นของแถม ก็มาเริ่มฟิต แอนด์ เฟริ์มกันเสียแต่วันนี้เลยนะคะ ^^
เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย
คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ