เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
สะดือเป็นส่วนหนึ่งในร่างกายที่แฝงตัวเนียน ๆ อยู่กึ่งกลางท้องของเรา ซึ่งหลายคนก็คิดว่าเจ้ารูกลม ๆ ที่เห็นอยู่บนท้องของเรานี้ ไม่ได้มีความสำคัญอะไรกับร่างกายเลย แต่จริง ๆ แล้วคุณสะดืออาจจะมีความลับของร่างกายเราซ่อนอยู่ก็ได้ วันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยหอบเอาข้อมูลเกี่ยวกับสะดือกลม ๆ จากเว็บไซต์ ฮัฟฟิงตันโพสต์ มาฝาก เอาล่ะ มาดูกันดีกว่าว่าสะดือกลม ๆ เขาจะบอกอะไรเกี่ยวกับร่างกายของเราได้บ้าง
โตเป็นสาวแล้วจ้าสะดือของแต่ละคนจะมีรูปร่างที่ต่างกันไป อย่างบางคนจะมีสะดือทรงตัว T หรือทรงรูปไข่ ซึ่งนักวิจัยทางกายภาพระบุว่าเป็นทรงสะดือที่เซ็กซี่มาก ๆ เลยทีเดียว แต่เมื่อไม่นานมานี้ University of Helsinki ได้ทำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ โดยนักวิจัยที่ชื่อว่า Aki Sinkkonen ได้ให้ข้อสรุปสั้น ๆ เกี่ยวกับการวิจัยว่า สะดือที่เปลี่ยนรูปเป็นตัว T รูปไข่ หรือทรงกลม ๆ แสนเซ็กซี่ในผู้หญิง สามารถตีความได้ว่าเจ้าของสะดือสวย ๆ เหล่านี้กำลังเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ โตเป็นสาวเต็มตัวแล้วจ้า
นอกจากนี้ Aki Sinkkonen ยังอธิบายเพิ่มเติมต่อไปว่า สัญญาณที่บ่งบอกว่าเด็กผู้หญิงเริ่มโตเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์แล้วก็มีอีกหลายอย่าง เช่น รูปร่างที่เริ่มมีสัดส่วน สมส่วน และมีองค์เอวมากขึ้น อีกทั้งการเปลี่ยนแปลงของสะดือยังสามารถบอกความเสี่ยงความผิดปกติบางอย่างของทารกในครรภ์ และความผิดปกติของทารกจากพันธุกรรมที่ได้รับจากแม่อีกด้วยจ้า
สะดือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากต่อทารกในครรภ์สัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม หรือสัตว์ที่สามารถตั้งครรภ์ได้ (Placental Mammals) รวมทั้งมนุษย์เอง ต่างก็มีสะดือด้วยกันทั้งนั้น เพราะเป็นของสำคัญที่ธรรมชาติมอบให้มา โดยเฉพาะกับเพศหญิง ซึ่งมีโอกาสตั้งครรภ์กันทุกคน เนื่องจากสะดือและสายสะดือจะเป็นตัวเชื่อมต่อสายใยรักและผูกพันจากแม่สู่ลูก อีกทั้งยังเป็นท่อที่ส่งออกซิเจนและสารอาหารจากแม่ไปเลี้ยงลูกน้อยในครรภ์ให้เจริญเติบโตนั่นเองค่ะ
ยิ่งลงพุงยิ่งมีขนสะดือจากการศึกษาวิจัยของประเทศออสเตรเลียในปี 2009 พบว่า ในกลุ่มผู้ทดลองจำนวน 5,000 คน คละอายุและเพศ กลุ่มคนที่มีขนหน้าท้องอยู่มากจะเป็นชายวัยกลางคนที่มีน้ำหนักเกิน และอ้วนลงพุงเสียส่วนใหญ่ โดยจากผลการวิจัยนี้ก็ได้มีคำอธิบายว่า ขนหน้าท้องทำหน้าที่ลดการเสียดสีระหว่างผิวบริเวณหน้าท้องของเรากับเสื้อผ้า ดังนั้นยิ่งคุณมีพุงโตเฉียดใกล้เสื้อผ้าที่ใส่มากเท่าไร ร่างกายก็จะผลิตขนออกมารอบสะดือและท้อง เพื่อลดการเสียดสีของผิวหนังกับเส้นใยของผ้ามากเท่านั้น โดยเฉพาะเสื้อตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมา ใยผ้าจะค่อนข้างแข็ง ไม่นุ่มนิ่มคุ้นชินเหมือนเสื้อผ้าตัวเก่า จึงอาจจะเป็นสาเหตุให้ร่างกายผลิตขนหน้าท้องออกมามากยิ่งขึ้น
สัญญาณของการตั้งครรภ์นอกจากการเปลี่ยนแปลงของสะดือจะเป็นสัญญาณของการเจริยวัยเต็มตัวในผู้หญิงแล้ว ยังสามารถบ่งบอกให้เรารู้อีกด้วยว่า ในท้องของเรากำลังมีเจ้าตัวน้อยมาอาศัยอยู่ ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก็ได้ให้ข้อมูลว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ที่ตั้งครรภ์ จะมีรูปร่างสะดือที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อย และเมื่อคลอดเด็กออกมาแล้ว สะดือก็จะค่อย ๆ กลับคืนสู่รูปร่างเดิมก่อนตั้งครรภ์ได้ในที่สุด
เป็นตัวชี้วัดความเร็วในการวิ่งและว่ายน้ำเชื่อไหมคะว่า แค่ตำแหน่งของสะดือก็สามารถคาดเดาผลการวิ่งแข่งขันของนักวิ่งและนักว่ายน้ำได้แล้ว โดยข้อมูลนี้ได้รับการยืนยันจากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยดุ๊ก ที่เขาได้ทำการทดลองนำนักกีฬาชาย 2 คน ที่มีส่วนสูงเท่ากัน มาวิ่งและว่ายน้ำแข่งกัน ผลปรากฏว่า นักกีฬาที่มีตำแหน่งสะดืออยู่สูงกว่าเป็นผู้ชนะทั้ง 2 ชนิดกีฬา
แล้วเคยสงสัยไหมคะว่า เวลาดูการแข่งขันกีฬาประเภทวิ่งทีไร ทำไมนักวิ่งจากประเทศแถบแอฟริกามักจะเป็นฝ่ายชนะคนผิวขาวอยู่เกือบทุกทีเลย นั่นก็เป็นเพราะว่าชาวแอฟริกาใต้มีรูปร่างที่สูง ขายาว จึงทำให้สะดืออยู่ในตำแหน่งที่สูงกว่า และที่สำคัญคนผิวดำมักจะมีขนาดสะดือที่ยาวประมาณ 1.8 นิ้ว ซึ่งยาวกว่าคนผิวขาวอย่างเรา ๆ อยู่พอสมควรเลยด้วยล่ะ
สะดือเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคและเชื้อราสะดือกลม ๆ กลางลำตัวของเราเป็นแหล่งสะสมเชื้อแบคทีเรียกว่า 1,400 ชนิดเลยทีเดียว ! ยืนยันจากผลการวิจัยของ Toronto Star ที่ค้นพบเชื้อโรคและเชื้อแบคทีเรียจากการหมักหมมของสบู่ ครีม และสิ่งสกปรกต่าง ๆ ภายในรูสะดือของเรา ซึ่งเมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็ควรต้องทำความสะอาดสะดืออยู่เสมอ เริ่มง่าย ๆ ด้วยการใช้สำลีหรือคอตตอนบัดป้ายขี้ผึ้ง และนำมาเช็ดทำความสะอาดสะดือให้หมดจด และทุกครั้งที่อาบน้ำเสร็จ ก็ควรใช้ผ้าขนหนูเช็ดสะดือให้แห้งด้วยนะจ๊ะ
เมื่อได้รู้อย่างนี้แล้วก็เปลี่ยนความคิดว่าสะดือเป็นอวัยวะที่ไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายกันได้แล้วนะคะ เพราะดูแล้วสะดือสามารถเป็นได้ทั้งสัญญาณบอกความผิดปกติของทารกในครรภ์ เป็นสายใยผูกพันแม่ลูก และยังบอกอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายเราได้อีกด้วย ถึงแม้จะเป็นแค่รูกลม ๆ เล็ก ๆ แต่ก็มีประโยชน์และหน้าที่เหมือนกับอวัยวะส่วนต่าง ๆ ของร่างกายเรานี่แหละจ้า
