8 เรื่องน่ารู้ของน้ำยาระงับกลิ่นกาย


วิธีดับกลิ่นตัว


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
           
          น้ำยาระงับกลิ่นกาย หรือที่หลายคนคุ้นเคยกันในชื่อ ดิโอโดแรนต์ (Deodorant) เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย จึงทำให้เราไม่มีกลิ่นตัว อีกทั้งน้ำยาระงับกลิ่นกายทั้งหลายก็มักจะใส่น้ำหอมเข้าไปด้วย ทำให้เรามีกลิ่นตัวหอม ๆ แทนกลิ่นเหงื่อ และกลิ่นไม่พึงประสงค์

          แต่เชื่อได้เลยว่าคนที่ใช้น้ำยาระงับกลิ่นกายอยู่ทุกวันนี้ ก็รู้ข้อมูลพื้นฐานของน้ำยาระงับกลิ่นกายอยู่แค่ไม่กี่อย่าง วันนี้เราก็เลยหอบเอา 8 เรื่องน่ารู้ของน้ำยาระงับกลิ่นกายจาก เว็บไซต์ฮัฟฟิงตันโพสต์ มาฝาก ขวดน้ำยาระงับกลิ่นกายเล็ก ๆ จะมีความลับอะไรซ่อนอยู่บ้าง มาดูพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
 
1. การระงับกลิ่นกายไม่ใช่เรื่องใหม่
           
          หลายคนอาจจะเข้าใจผิดว่าน้ำยาระงับกลิ่นกายเป็นวิวัฒนาการของการดับกลิ่นตัวที่เพิ่งถูกค้นพบ แต่นิตยสารนิวยอร์ก ไทม์ ก็ได้ตีพิมพ์ประวัติศาสตร์ของชาวอียิปต์ ที่แสดงให้เห็นว่า ชาวอียิปต์โบราณมีศิลปะในการชำระล้างร่างกาย และเติมความหอมเพิ่มเสน่ห์ให้ตัวเองมาเนิ่นนานแล้ว และมีหลักฐานที่บอกว่า น้ำยาระงับกลิ่นกายยี่ห้อ Mum ซึ่งเป็นน้ำยาระงับกลิ่นกายยี่ห้อแรกของโลกมีจำหน่ายมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1888 เลยทีเดียว และอีก 15 ปีต่อมาก็มีผลิตภัณฑ์ระงับเหงื่อยี่ห้อ Everdry ออกมาจำหน่ายเป็นครั้งแรกของโลกเช่นกัน
 
2. น้ำยาระงับกลิ่นกายช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย
           
          ความจริงแล้วเหงื่อไม่ใช่ตัวการที่ทำให้เกิดกลิ่นกายแต่อย่างใด เพราะเหงื่อเป็นน้ำใส ๆ ที่แทบจะไม่มีกลิ่นเลยด้วยซ้ำ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเหงื่อไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดกลิ่นกาย เนื่องจากกลิ่นกายของเราเกิดมาจากการที่เชื้อแบคทีเรียเข้ามาผสมกับเหงื่อนั่นเอง ดังนั้นหากเราใช้น้ำยาระงับกลิ่นกาย ที่มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย กระบวนการที่ทำให้เกิดกลิ่นกายเหล่านี้ก็จะไม่เกิด และสารระงับเหงื่อที่ผสมอยู่ในน้ำยาระงับกลิ่นกายก็จะเข้าไปจัดการกับเม็ดเหงื่อที่ผุดออกมา ร่วมมือร่วมใจกันแบบนี้กลิ่นกายก็เลยหายเกลี้ยงยังไงล่ะ
 

วิธีดับกลิ่นตัว


3. สารระงับเหงื่อไม่ได้ช่วยยับยั้งการผลิตเหงื่อของร่างกายแต่อย่างใด
           
ต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อออกมาทุกวัน วันละปริมาณเท่า ๆ กันเสมอ แต่สารระงับเหงื่อที่มีอยู่ในน้ำยาระงับกลิ่นกาย มีหน้าที่แค่ยับยั้งไม่ให้เหงื่อขับออกมาทางผิวหนังเท่านั้น ซึ่งก็จะช่วยให้เรารู้สึกว่าเหงื่อออกมาน้อยกว่าปกติ แต่ทั้งนี้องค์การอาหารและยาก็ออกมาชี้แจงว่า สารเคมีระงับเหงื่อก็ไม่ได้ช่วยให้ร่างกายปราศจากเหงื่อแต่อย่างใด แค่ทำให้เรามีเหงื่อออกน้อยลงประมาณ20-30% เท่านั้นจ้า
 
4. ร่างกายสามารถต้านทานสารระงับเหงื่อได้
           
          ในขณะที่สารระงับเหงื่อไปยับยั้งไม่ให้เหงื่อขับออกมาทางร่างกาย ระบบภายในร่างกายก็จะต่อต้านสารระงับเหงื่อเหล่านั้น ด้วยการขับเหงื่ออกไปยังต่อมอื่น ๆ แทน ฉะนั้นเพื่อป้องกันร่างกายต่อต้านสารระงับเหงื่อ ผู้เชี่ยวชาญก็แนะนำให้เปลี่ยนยี่ห้อ หรือสูตรน้ำยาระงับกลิ่นกายทุก ๆ 6 เดือนนะจ๊ะ


วิธีดับกลิ่นตัว


5. น้ำยาระงับกลิ่นกายไม่แยกเพศหญิง หรือชาย
          
          ร่างกายของเพศหญิงมีต่อมเหงื่อมากกว่าเพศชาย แต่แปลกตรงที่ต่อมเหงื่อในร่างกายเพศชายจะขับเหงื่อออกมามากกว่าต่อมเหงื่อของฝ่ายหญิง และนักวิจัยก็ได้ทำการทดลองแล้วว่า น้ำยาระงับกลิ่นกายของทุกยี่ห้อ มีสารระงับเหงื่อ และเคมีระงับกลิ่นกายในปริมาณเท่า ๆ กัน ซึ่งก็หมายความว่า ไม่ว่าคุณจะเป็นเพศไหน ก็จะได้ใช้น้ำยาระงับกลิ่นกายที่มีสรรพคุณไม่ต่างกัน ยกเว้นแค่กลิ่นน้ำหอม และแพคเกจที่ดูไม่เหมือนกันอย่างชัดเจนแค่นั้นเอง

6. คุณเป็นคนมีกลิ่นตัวไหม ดูได้จากขี้หู !
           
          จริง ๆ แล้วบางคนก็ไม่ได้มีกลิ่นตัวแรงเท่าไร แต่ติดที่จะใช้น้ำยาระงับกลิ่นกายเพิ่มความหอมให้ตัวเองเท่านั้น ซึ่งถ้าอยากจะรู้ว่าคุณควรจะใช้น้ำยาระงับกลิ่นกายหรือเปล่า ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้สังเกตขี้หูของตัวเอง หากคุณเป็นคนที่มีขี้หูแห้ง เป็นลักษณะแผ่นสีขาว คุณไม่จำเป็นต้องใช้น้ำยาระงับกลิ่นกายก็ได้ เนื่องจากคุณไม่ค่อยมีกลิ่นตัวเท่าไร แต่ถ้าคุณเป็นคนที่มีขี้หูสีคล้ำ แถมเหนียวและเปียก คุณจำเป็นต้องระงับกลิ่นกายของตัวเองแล้วล่ะ


กลิ่นตัวแรงทำไงดี

7. คราบเหลือง ๆ ที่ติดอยู่ใต้วงแขนเสื้อมาจากอะลูมิเนียม
           
          เนื่องจากในสารระงับเหงื่อ จะมีอะลูมิเนียมเป็นส่วนผสมอยู่ ซึ่งเจ้าอะลูมิเนียมอาจจะทำปฏิกิริยากับเหงื่อ ผิวหนัง เสื้อ น้ำยาซักผ้าที่ติดอยู่กับเสื้อ  หรืออาจจะทำปฏิกิริยากับทุกอย่าง จนเป็นต้นเหตุของคราบเหลือง ๆ ที่ติดอยู่กับใต้วงแขนเสื้อของเรา ฉะนั้นหากคุณไม่ต้องการให้มีคราบสกปรกเหล่านี้ ก็ลองมองหาน้ำยาระงับกลิ่นกายที่ไม่มีส่วนผสมของอะลูมิเนียมมาใช้แทนนะคะ
 
8. คุณสามารถทำน้ำยาระงับกลิ่นกายใช้เองได้
           
          ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า น้ำมันสกัดจากพืชหลายชนิด และสารสกัดจากธรรมชาติหลายอย่าง มีสรรพคุณระงับกลิ่นกายได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งก็หมายความว่า คุณสามารถทำน้ำยาระงับกลิ่นกายจากสารสกัดธรรมชาติเหล่านี้ได้ด้วยตัวเอง อย่างสารส้มก็สามารถระงับกลิ่นกายได้อยู่หมัดเช่นกัน ดังนั้นหากคุณไม่ได้ติดใจกับกลิ่นหอม ๆ ของน้ำยาระงับกลิ่นกายที่มีขายตามท้องตลาด จะลองใช้สารส้มดับกลิ่นกายดูบ้างก็ได้ ประหยัดเงินไปได้หลายบาทเลยทีเดียวนะ
 

          จากที่เคยใช้น้ำยาระงับกลิ่นกายมานาน โดยที่ไม่รู้ข้อมูลตื้นลึกหนาบางของน้ำยาระงับกลิ่นกายกันเลย วันนี้เราก็ได้รู้จักกับน้ำยาระงับกลิ่นกายกันมากขึ้นแล้วเนอะ และเราก็หวังว่า ข้อมูลนี้น่าจะเป็นประโยชน์ให้คุณใช้น้ำยาระงับกลิ่นกายได้อย่างคุ้มค่าและครอบคลุมมากขึ้นนะคะ
            


  เคล็ดลับสุขภาพ สุขภาพใกล้ตัว โรคและการป้องกัน คลิกเลย 

 คลิกอ่านความคิดเห็นของเพื่อน ๆ ได้ที่นี่ค่ะ




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
8 เรื่องน่ารู้ของน้ำยาระงับกลิ่นกาย อัปเดตล่าสุด 18 ธันวาคม 2556 เวลา 16:35:20 9,041 อ่าน
TOP
x close