เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
อาการไม่สบายเนื้อไม่สบายตัว เจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ แม้ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นทำอันตรายต่อสุขภาพของเรา แต่ถ้าเป็นทีก็น่ารำคาญอยู่เหมือนกัน ซึ่งสารพัดปัญหาต่อไปนี้ก็ไม่จำเป็นต้องกินยารักษาให้ตับต้องทำงานหนักก็ได้ เพียงแค่ลุกไปเปิดตู้กับข้าว ตู้เย็น หรือหาของใช้ในบ้านบางอย่างมาก็ช่วยบรรเทาอาการเหล่านั้นได้แล้ว ลองมาข้อมูลที่เรารวบรวมมาฝากกันดีกว่า
ใบกะเพรา...ไล่ท้องอืด ท้องเฟ้อ
ใบกะเพราที่เป็นอาหารจานโปรดของคนไทยสามารถปราบอาการท้องอืด ท้องเฟ้อได้ดีนักแล เพราะใบกะเพรามีสรรพคุณขับลม ขับแก๊สในร่างกาย ดังนั้น ใครที่ชอบกินถั่วทั้งหลาย (ซึ่งเป็นอาหารที่ทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะ) แล้วรู้สึกแน่นท้อง ก็ลองหาใบกะเพรามาทานกันดู หรือใครมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อบ่อย ๆ คงต้องสั่งผัดกะเพราเป็นเมนูโปรดแล้วล่ะ
แอสไพริน...ลดรอยตุ่มยุงกัด
หลายคนแทบไม่รู้ตัวเลยว่าถูกยุงกัดเข้าให้แล้ว จะมารู้ตัวก็เมื่อรู้สึกคันแล้วเห็นตุ่มขึ้นมา ซึ่งหากใครไม่ชอบกลิ่นของยาหม่อง ก็ลองใช้ยาแอสไพรินมาเป็นตัวช่วยดูสิคะ
แต่ในทีนี้เราไม่ได้ให้ทานนะ แต่ให้นำยาแอสไพริน 1 เม็ดมาบดให้ละเอียด แล้วเจือจางลงในน้ำเปล่าประมาณ 30 มิลลิลิตร จากนั้นก็นำน้ำที่ผสมยามาทาตุ่มที่ถูกยุงกัด ซึ่งแพทย์ด้านผิวหนังของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก เขาบอกว่า ในยาแอสไพรินจะช่วยต้านการอักเสบ ลดรอยแดงตุ่มแดงจากการกัดต่อย รวมทั้งลดการอักเสบในรูขุมขนด้วย เพราะในยานั้นมีกรดซาลิไซลิค ซึ่งเป็นส่วนประกอบหนึ่งของยารักษาสิวนั่นเอง
น้ำชาเย็น ๆ...บรรเทาผิวไหม้-เตารีดลวก
คนที่จำเป็นต้องทำงานกลางแจ้งคงหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญแสงแดดไม่ได้ และถ้ายิ่งไม่ป้องกันตัวเองด้วยล่ะก็ ผิวหนังของคุณอาจถูกแดดเผาจนเกิดแผลไหม้บนผิว หรือเวลารีดผ้าแล้วมือเกิดเผลอไปนาบเตารีดเข้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ ก็เกิดแผลไหม้ขึ้นได้ แบบนี้ต้องหาน้ำชาเย็นมาด่วนเลยล่ะ เพราะการศึกษาจากโรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียของสหรัฐฯ แนะนำว่า การใช้ผ้าขนหนูมาจุ่มลงในชาเขียว หรือชาดำเย็น ๆ แล้วนำมาทาบกับผิวที่ไหม้ สารไฟโตนิวเทรียนท์ในชาจะช่วยลดอาการบวมอักเสบของเส้นเลือดได้
งาขาว...ขจัดอาการท้องผูก
นี่คืออาการยอดฮิตของคนกรุงที่ต้องใช้ชีวิตอย่างรีบเร่งในตอนเช้า ทำให้แทบไม่มีเวลานั่งปลดทุกข์นาน ๆ จนมีอาการท้องผูกกวนใจทุกวี่ทุกวัน ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปด้วยการทาน "เมล็ดงาขาว" โดยให้นำงาขาว 1 ช้อนโต๊ะมาบดให้กลายเป็นผง แล้วนำไปโรยในชามซีเรียล สลัด หรือโยเกิร์ตกินด้วยกันก็ได้ น้ำมันในเมล็ดงาจะทำหน้าที่เป็นตัวหล่อลื่นลำไส้ ช่วยให้อุจจาระแข็ง ๆ ที่ตกค้างอยู่ในลำไส้เคลื่อนตัวขับถ่ายออกมาได้ง่ายขึ้น
วอดก้า...พิฆาตกลิ่นเท้า
กลิ่นตัวว่าแรงแล้ว แต่ถ้าถอดรองเท้ามาเจอกลิ่นเท้าเข้าไปอีก คนรอบข้างคงแทบเมินหน้าหนี สงสัยต้องใช้ "วอดก้า" เป็นตัวช่วยซะแล้ว โดยนำผ้าเช็ดตัวไปชุบวอดก้าแล้วมาเช็ดที่เท้า กลิ่นเท้าอันไม่พึงประสงค์จะหมดไป นั่นก็เป็นเพราะกลิ่นเท้าพวกนี้เกิดจากแบคทีเรียและเชื้อราที่ชอบความชื้นของเท้า แต่ในวอดก้ามีแอลกอฮอล์ จึงช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แถมยังช่วยขจัดความชื้น ทำให้เชื้อโรคไม่สามารถเจริญเติบโตได้ด้วย
คาบดินสอ...ขอเบรกอาการปวดหัว
รู้ไหมว่า ยามที่คุณกำลังเครียดหรือกังวล จิตใต้สำนึกจะสั่งให้คุณขบเขี้ยวเคี้ยวฟันโดยไม่รู้ตัว และเป็นเพราะว่ากล้ามเนื้อขากรรไกรเชื่อมต่อกับขมับอยู่ ดังนั้น ถ้าคุณเกิดขบเขี้ยวเคี้ยวฟันขึ้นมาเมื่อไร มันจะไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวตามมาได้ ทางแก้ง่าย ๆ ก็คือ หยิบดินสอขึ้นมาคาบไว้ที่ปาก แต่อย่ากัด แล้วคุณจะรู้สึกผ่อนคลายขึ้นเองโดยอัตโนมัติ ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อให้กล้ามเนื้อขากรรไกรได้ทำงาน ไม่ต้องขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แถมยังป้องกันอาการปวดหัวได้ด้วย
กลิ่นหอม ๆ...ขับไล่ไมเกรน
ถ้าปวดหัวขึ้นมา อย่าเพิ่งไปหายามาทาน ลองใช้การบำบัดด้วยกลิ่นหอม ๆ ดูก่อน อย่างเช่นกลิ่นจากน้ำมันหอมระเหยกลิ่นเปปเปอร์มินท์ที่ช่วยให้อาการปวดหัวคลายลงได้ เพียงแค่นำเปปเปอร์มินท์ 2-3 หยด ป้ายลงที่ขมับ ทิ้งไว้สัก 15-30 นาที สารต้านอาการอักเสบในเปปเปอร์มินท์จะช่วยทำให้เส้นประสาทผ่อนคลาย
ใบโรสแมรี่...กำจัดรังแค
เมื่อหนังศีรษะผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป จะทำให้เรารู้สึกคันจนต้องเกายิก ๆ แล้วนั่นก็ทำให้เกิดรังแคขุยขาว ๆ ตามมา แต่ถ้าลองใช้ใบโรสแมรี่มาเป็นตัวช่วย จะช่วยกำจัดรังแคให้หมดไปได้ ง่าย ๆ เลยก็คือนำใบโรสแมรี่มาใส่ลงในน้ำต้มเดือด 1 ถ้วย ปิดฝาถ้วยแล้วแช่ทิ้งไว้ 20 นาที จากนั้นปล่อยให้เย็นลงในอุณหภูมิห้อง เมื่อถึงเวลาต้องสระผม ให้สระผมด้วยแชมพูและครีมนวดผมตามปกติก่อน เสร็จแล้วนำชาโรสแมรี่ที่ได้ไปสระผมปิดท้ายอีกครั้ง นวดเบา ๆ ให้ทั่วหนังศีรษะโดยไม่ต้องล้างออก ทำเป็นประจำจะเห็นผลชัดเจนเลยล่ะ
โยเกิร์ต....ระงับกลิ่นปาก
การศึกษาในต่างประเทศพบว่า แบคทีเรียในโยเกิร์ตจะช่วยลดกลิ่นปากอันมีสาเหตุเกิดมาจากเชื้อแบคทีเรียได้ เพราะแบคทีเรียที่ดีในโยเกิร์ตจะไปกำจัดแบคทีเรียตัวที่ทำให้เกิดกลิ่นในช่องปากให้หมดไป นอกจากนี้ จุลินทรีย์โปรไบโอติกในโยเกิร์ตยังจะช่วยลดการอักเสบของเนื้อเยื่อในช่องปากและเหงือกได้ในระดับหนึ่งด้วย ดังนั้น ใครมีปัญหาเรื่องกลิ่นปาก ลองหาโยเกิร์ตรสธรรมชาติ (ถ้าไร้น้ำตาลได้ยิ่งเวิร์ก) มาทานวันละ 1 ถ้วย แล้วรอดูผลลัพธ์
ใช้ลิ้นดันเพดานปาก...กำราบความเครียด
เติมพลังให้สมองต่อสู้กับเครียดด้วยการใช้ลิ้นของคุณดันเพดานปากเอาไว้สักพักหนึ่ง ความร้อนจากลิ้นจะช่วยผ่อนคลายเส้นประสาทส่วนที่เชื่อมต่อกับสมอง และลดความเครียดลงได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว
พริกไทยดำ...ลดน้ำมูก หยุดอาการไอ
ให้ลำคอของคุณได้พักจากอาการไอเสียบ้างด้วยการทานพริกไทยดำกันเถอะ ! โดยนำพริกไทยดำ 1 ช้อนโต๊ะใส่ลงในถ้วยชา จากนั้นเติมน้ำร้อนลงไป ปิดฝาถ้วยแล้วทิ้งไว้สัก 10 นาที จากนั้นเติมน้ำผึ้งลงไปในถ้วย 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากันแล้วดื่มซะ พริกไทยดำจะช่วยลดอาการคัดจมูกและมีน้ำมูกได้ ส่วนน้ำผึ้งจะช่วยคลายอาการเจ็บคอลง เพราะมีสารยับยั้งการอักเสบที่ให้ผลดีทีเดียว
น้ำยาบ้วนปาก...กำจัดตุ่มพอง-น้ำกัดเท้า
น้ำยาบ้วนปากไม่ใช่แค่ช่วยให้ลมหายใจสดชื่นได้เท่านั้น แต่ยังมีพลังที่จะช่วยให้แผลพุพอง ตุ่มพองทั้งหลาย รวมทั้งแผลจากน้ำกัดเท้า ฮ่องกงฟุต หายไปด้วย เพราะในน้ำยาบ้วนปากมีแอลกอฮอล์ที่มีพลังฆ่าแบคทีเรียได้ดี วิธีใช้ก็คือ ให้นำคอตตอนบัต หรือสำลีแผ่นไปจุ่มน้ำยาบ้วนปาก แล้วมาป้ายที่ตุ่มพองวันละ 3 ครั้ง หรือป้ายตามซอกนิ้วเท้าหลังอาบน้ำทุกครั้ง ทำอย่างนี้ไปจนกระทั่งแผลแห้งและไม่รู้สึกเจ็บแผลอีก
ลูกเทนนิส...พิชิตอาการปวดฝ่าเท้า
อย่างที่รู้กันว่า วิธีแก้ปวดที่ง่ายและเห็นผลเร็วก็คือการนวด เพราะการนวดจะช่วยยืดกล้ามเนื้อและบรรเทาอาการปวดได้ดี แต่ถ้ารู้สึกปวดเท้าแล้วไม่มีเวลาไปนวดที่ไหน ให้รีบไปหาลูกเทนนิสมาวางใต้ฝ่าเท้าแล้วใช้เท้าคลึงลูกเทนนิสไปมา หรือจะเป็นลูกกอล์ฟก็ได้ เพียงแค่ 1-2 นาที ก็ช่วยคลายความเมื่อยล้าให้เท้าได้แล้ว หรือจะกรอกน้ำเย็น ๆ ลงในขวดแก้ว แล้วใช้เท้าคลึงขวดเย็น ๆ ดูก็ได้ วิธีนี้ก็จะช่วยให้เท้าผ่อนคลายมากขึ้น
น้ำมะเขือเทศ...แก้เมาค้างยามเช้า
บางคนอาจมีไลฟ์สไตล์ชอบการสังสรรค์เป็นพิเศษ แต่ถ้าเกิดเผลอดื่มมากไปตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ยังแฮงก์จนลุกไม่ไหวในวันที่ต้องมีประชุมตอนเช้าจะทำอย่างไรล่ะ? ถ้าเป็นแบบนี้รีบหาน้ำมะเขือเทศเย็น ๆ มาทานโดยด่วนเลย เพราะในน้ำมะเขือเทศมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยซ่อมแซมเซลล์ที่ถูกแอลกอฮอล์ทำร้าย และยังมีเกลือแร่ไปช่วยเติมพลังงานให้คุณภายในเวลาอันรวดเร็วด้วย
น้ำตาลทรายขาว....ปราบอาการสะอึก
อาการสะอึกเป็นหนึ่งอาการที่ทำให้เรารำคาญไม่น้อย ถ้าลองให้เพื่อนทำให้ตกใจ หรือใช้สารพัดวิธีที่เคยได้ยินมาแล้วก็ยังหยุดอาการสะอึกไม่ได้ ลองกลืนน้ำตาลทรายขาวแห้ง ๆ 1 ช้อนกาแฟ ลงไป วิธีนี้จะช่วยหยุดอาการสะอึกได้ภายใน 1 นาที เพราะน้ำตาลจะไปขัดขวางเส้นประสาทที่ควบคุมการกระตุก ทำให้หยุดสะอึกได้ อ๊ะ...แต่อย่าอมน้ำตาลไว้จนละลายหมดในปากเสียล่ะ ไม่งั้นไม่ได้ผลนะจ๊ะ
ไอศกรีม...แก้ปากพองจากการกินของร้อนจัด
เพดานปากของเราหนาแค่ไม่กี่มิลลิเมตรเท่านั้นนะ ถ้าเกิดเราเผลอทานอาหารร้อน ๆ เข้าไปก็จะทำให้ปากของเราลวกพองเป็นแผลเอาได้ จะทานอะไรต่อก็ไม่อร่อยแล้ว เป็นแบบนี้ให้สั่งไอศกรีม หรือโยเกิร์ตแช่เย็นจัด ๆ มาทานตามลงไปซะ ความเย็นจะช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนได้ชั่วคราว หรือถ้าไม่มีทั้งไอศกรีมและโยเกิร์ต จะเปิดตู้เย็นหาน้ำเย็น ๆ มาดื่มอึกใหญ่ หรืออมน้ำแข็งไว้ในปากก็ได้ แต่อย่าอมน้ำแข็งไว้นานไปล่ะ เดี๋ยวเพดานปากจะชาเอานะ
แอปเปิล...ขัดฟันเหลืองให้ขาวใส
กรรมพันธุ์และการรับประทานอาหารก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ฟันแต่ละคนมีสีแตกต่างกัน แต่ถ้าอยากทำให้ฟันดูสดใสขึ้นได้บ้าง ให้หาผลไม้มาเคี้ยวค่ะ เพราะการเคี้ยวผักหรือผลไม้บางชนิดก็เหมือนกับเรากำลังแปรงสีฟันอยู่ดี ๆ นี่เอง โดยเฉพาะแอปเปิลที่จะปกติเวลาเราเคี้ยว เนื้อแอปเปิลที่สาก ๆ จะไปช่วยกำจัดคราบฟันได้ตามธรรมชาติอยู่แล้ว นอกจากนี้ แอปเปิลยังมีกรดมาลิคอ่อน ๆ ช่วยเจือจางคราบสีฟันด้วย เคี้ยวบ่อย ๆ ฟันสวยชัวร์
ชาคาโมมายล์...คลายอาการท้องร่วง
ชาคาโมมายล์เป็นพืชชนิดหนึ่งที่นิยมนำมาใช้รักษาอาการผิดปกติในลำไส้ โดยเฉพาะอาการท้องร่วง ท้องเสีย ถ้ามีอาการแบบนี้ให้ดื่มชาคาโมมายล์อุ่น ๆ 1 ถ้วย จะช่วยหยุดอาการท้องเสียได้ หรือถ้าไม่อยากดื่มชาคาโมมายล์สำเร็จรูป อาจจะซื้อดอกคาโมมายล์มาเก็บไว้ อาการกำเริบเมื่อใดก็นำดอกคาโมมายล์ประมาณ 1 ช้อนชาผสมกับใบเปปเปอร์มินท์ 1 ช้อนชา ต้มกับน้ำ 1 ถ้วย ประมาณ 15 นาที ดื่มวันละ 3 ครั้ง สารแทนนินในชาจะช่วยหยุดอาการท้องร่วงท้องเสียได้
ไข่...บูทความจำให้ดีขึ้น
มีงานวิจัยบอกว่า สารเลซิทินช่วยให้ความจำดีขึ้น ไม่หลง ๆ ลืม ๆ เพราะจะช่วยบำรุงเซลล์ประสาทที่มีผลในด้านความจำให้ดีขึ้น ซึ่งสารเลซิทินนี้หาทานได้ในไข่ เมล็ดทานตะวัน รวมทั้งน้ำมันถั่วเหลือง หรือจะทานอาหารเสริมเลซิตินก็ได้ ซึ่งงานวิจัยบอกว่า หากทานวันละ 70 กรัมจะช่วยฟื้นฟูความจำได้
ถุงชา-ช้อนเย็น ๆ ...สลายตาบวม ๆ
อดหลับอดนอนมาหลายวัน อาจทำให้คุณตาบวมได้ แต่ถ้าไม่อยากเดินออกจากบ้านด้วยสภาพแบบนั้น ให้หาชาเขียว ชาดำ หรือชาคาโมมายล์ก็ได้ เลือกแบบที่เป็นถุงมาต้มในน้ำเดือน 3-5 นาที จากนั้นทิ้งไว้สักพักจนชาถุงอุ่น ๆ ค่อยเอามาวางทาบที่ดวงตาบวม ๆ ทั้งสองข้าง ในชามีสารที่จะช่วยทำให้ผิวหนังหายบวม ช่วยลดการอักเสบและรอยแดง ๆ ได้
หรืออีกวิธีหนึ่งซึ่งต้องใช้เวลาเตรียมการมากหน่อย ให้หาช้อนเล็ก ๆ ขนาดประมาณช้อนกาแฟ หรือช้อนชา 4-6 คัน แช่ไว้ในตู้เย็นให้เย็น เมื่ออยากลดอาการตาบวมก็ให้นำช้อนเย็น ๆ มาวางไว้บนดวงตา พอช้อนคันแรกหายเย็นแล้ว ก็เปลี่ยนไปใช้ช้อนคันใหม่ต่อไปเรื่อย ๆ
เป็นไงบ้างเอ่ยกับ 20 ทิปส์ดี ๆ ที่ช่วยให้คุณหยิบของใช้ ของกินใกล้ตัว มาปราบปัญหาสุขภาพจิ๊บ ๆ แต่กวนใจเราอยู่บ่อย ๆ ได้ ลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้กันดูนะจ๊ะ