
ไข่เน่า สมุนไพรชื่อเหม็น แต่ดอกหอม สุดยอดสรรพคุณบำรุงสมอง บำรุงระบบเพศ (หมอชาวบ้าน)
โดย ภกญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ปราจีนบุรี
ได้ยินชื่อ ไข่เน่า อาจจะคิดว่าสมุนไพรชนิดนี้คงจะมีกลิ่นเหม็นแน่ ๆ แต่จริง ๆ แล้วเป็นสมุนไพรที่มีดอกหอม และเต็มไปด้วยสรรพคุณที่ชวนทุกคนมาทำความรู้จักกัน
ไข่เน่า" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Vitex glabrata R. Br. อยู่ในวงศ์ Verbenaceaa มีชื่อตามท้องถิ่นอื่น ๆ เช่น ขี้เห็น (เลย อุบลราชธานี) ปลู (เขมร-สุรินทร์) คมขวาน ฝรั่งโคก (ภาคกลาง) เป็นต้น ขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ด
ไข่เน่า เป็นพรรณไม้ยืนต้น มีทั้งขนาดกลางและขนาดใหญ่ ลำต้นมีความสูงประมาณ 10-12 เมตร ลำต้นเกลี้ยงเป็นสีหม่นและมีด่างเป็นดวงขาว ๆ ลักษณะของใบเป็นใบประกอบ มีสีเขียวเข้ม คล้ายงิ้ว มีขนาดไม่เท่ากัน ปลายใบแหลมเป็นติ่ง ส่วนโคนใบขอบแหลมหรือมน ขนาดของใบกว้างประมาณ 3-10 เซนติเมตร และยาวประมาณ 9-22 เซนติเมตร ผิวใบด้านบนเกลี้ยงมีสีเขียวเข้มและเป็นมัน ส่วนท้องใบมีสีอ่อนกว่า และมีขนสั้นอยู่ประปราย ก้านใบย่อยยาวประมาณ 1-7 เซนติเมตร ส่วนก้านช่อใบจะยาวประมาณ 7-20 เซนติเมตร
ดอกไข่เน่า ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกมีขนาดเล็กและมีกลิ่นหอม กลีบดอกมีสีม่วงอ่อน หรือสีม่วงอมชมพู สีขาวมีแดงเรื่อ ๆ กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดกว้าง และมีขนละเอียดที่ดอก
ส่วนผลไข่เน่า หรือลูกไข่เน่า มีลักษณะเป็นรูปไข่หรือรูปไข่กลับ มีขนาดกว้างประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร และยาวประมาณ 1.5-3 เซนติเมตร
ผลอ่อนมีสีเขียว ส่วนผลสุกจะเป็นสีม่วงดำ มีเนื้ออ่อนนุ่ม รสหวานอมเปรี้ยวและเหม็น เมล็ดมีขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย
กล่าวว่า "ไข่เน่า" เป็นผลไม้บำรุงสมองบำรุงสุขภาพของคนภาคกลาง โดยไข่เน่าจะมีสารแอนโทไซยานินสูง ซึ่งกำลังมีงานวิจัยในญี่ปุ่นและอินเดียว่าช่วยบำรุงสมองและกระดูกได้ เนื่องจากช่วยให้หลอดเลือดไหลเวียนดี จึงทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น อีกทั้งยังช่วยในเรื่องโรคซางในเด็กที่ผอมแห้งแรงน้อย ช่วยให้เจริญอาหาร แต่ปัจจุบันต้นไข่เน่าในประเทศไทยมีน้อย และการเพาะปลูกต้องใช้เวลานานถึง 7 ปี จึงจะออกผล ซึ่งโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรกำลังนำไปอนุรักษ์และเพาะปลูก
สรรพคุณทางสมุนไพรของไข่เน่า








ประโยชน์ของไข่เน่า




ขอขอบคุณข้อมูลจาก
