กาแฟ เป็นเครื่องดื่มยอดนิยมที่หลายคนดื่มเพื่อเพิ่มพลังและความสดชื่น แต่รู้หรือไม่ว่า อาหารบางชนิดไม่เหมาะกับการกินพร้อมกับกาแฟ เพราะอาจส่งผลเสียต่อร่างกายได้มากกว่าที่คิด กาแฟไม่ควรกินคู่กับอะไร ประเด็นนี้อาจมีหลายคนคิดไม่ถึง โดยเฉพาะคนที่กินอาหารพร้อมกาแฟมาเกือบตลอด และทุกวันนี้ก็ยังมีสุขภาพที่โอเค ไม่ได้เจ็บป่วยตรงไหนให้เห็น ทว่าจริง ๆ แล้ว การดื่มกาแฟคู่กับอาหารบางชนิดอาจส่งผลเสียต่อร่างกาย เช่น ขัดขวางการดูดซึมสารอาหาร ทำให้เกิดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือส่งผลต่อระบบย่อยอาหาร ซึ่งเป็นปัญหาสุขภาพที่หากไม่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ความเรื้อรังอาจสร้างโรคให้ร่างกายได้ในที่สุด ดังนั้น ลองมาเช็กกันหน่อยดีกว่าว่า กาแฟห้ามกินกับอะไรพร้อม ๆ กัน จะได้ปรับก่อนป่วย อาหารบางชนิดอาจไม่เหมาะที่จะกินพร้อมกับกาแฟทันที เช่น กินกาแฟกับไข่ต้ม เชื่อว่าหลายคนจับคู่อาหารเช้าแบบนี้มาแสนนาน ทว่านับจากนาทีนี้ไปเลี่ยงเลยดีกว่า เพราะคาเฟอีนในกาแฟจะไปจับตัวกับสารซัลเฟอร์ (กำมะถัน) ในไข่ต้ม ส่งผลต่อการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกาย และอาจทำให้เกิดอาการร้อนท้อง ท้องอืด จากการมีแก๊สในกระเพาะมากเกินไปได้ด้วย หากอยากกินไข่คู่กับกาแฟ ควรรับประทานไข่ดาวหรือไข่เจียวแทนดีกว่า เพราะในกาแฟที่ไม่ผ่านการกรอง เช่น กาแฟสำเร็จรูป กาแฟชนิดแคปซูล จะมีสารในกลุ่มไดเทอร์พีนที่ส่งผลต่อระดับไขมัน LDL ในเลือดอยู่ เมื่อดื่มกาแฟคู่กับอาหารไขมันสูง เช่น เบคอน เนื้อสัตว์ติดมัน เมนูทอดต่าง ๆ ก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีไขมันสะสมในร่างกายมากขึ้น ดังนั้น คนที่มีระดับไขมันในเลือดสูงอยู่แล้วก็ควรเลี่ยงการดื่มกาแฟกับอาหารเหล่านี้ไว้เลย ถั่วเมล็ดแห้ง หรือธัญพืช เช่น อัลมอนด์ เมล็ดงา ข้าวโอ๊ต จมูกข้าวสาลี ซึ่งเป็นอาหารที่มีธาตุเหล็กชนิดที่ไม่ใช่ฮีม ปกติร่างกายก็ดูดซึมธาตุเหล็กชนิดนี้ได้น้อยอยู่แล้ว แต่ถ้าดื่มกาแฟพร้อมอาหารหรือหลังรับประทานถั่วเมล็ดแห้ง สารแทนนินในกาแฟจะยิ่งเข้าไปขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กของร่างกาย ดังนั้น จึงควรกินคนละช่วงเวลากัน เพื่อให้ร่างกายดูดซึมธาตุเหล็กได้อย่างเต็มที่ เช่น อาหารทะเลเปลือกแข็ง อาทิ หอยนางรม หรือเนื้อแดง ไข่ นม โฮลเกรน เห็ด เมล็ดพืช มันเทศ มันหวาน รวมไปถึงดาร์กช็อกโกแลต เพราะคาเฟอีนอาจขัดขวางการดูดซึมสังกะสีของร่างกาย นมหรือโยเกิร์ตเป็นอาหารที่มีแคลเซียมสูง ซึ่งหากกินคู่กับกาแฟ คาเฟอีนจะทำให้การดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายมีประสิทธิภาพน้อยลง อีกทั้งจะขับแคลเซียมที่ได้จากอาหารออกไปพร้อมกับปัสสาวะ ร่างกายจึงได้รับแคลเซียมน้อยลงไปด้วย ชากับกาแฟต่างก็มีทั้งคาเฟอีนและสารแทนนิน ถ้าดื่มพร้อมกัน หรือนำมาผสมกัน ก็เสี่ยงจะได้รับปริมาณคาเฟอีนมากขึ้นได้ ซึ่งการได้รับคาเฟอีนที่มากเกินไปก็เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพราะมีฤทธิ์ขับปัสสาวะและเพิ่มความดันโลหิตได้เหมือนกัน จึงอาจทำให้เกิดอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ หากดื่มกาแฟที่ผสมแอลกอฮอล์ หรือดื่มเครื่องดื่มสองชนิดนี้ในเวลาไล่เลี่ยกัน นอกเหนือจากอาหารแล้ว กล้วยกับกาแฟก็เป็นประเด็นที่หลายคนสงสัย โดยเฉพาะในกลุ่มคนลดน้ำหนักที่มักจะกินกาแฟดำกับกล้วยเป็นมื้อเช้า ซึ่งก็สามารถรับประทานได้ตามปกติเลยค่ะ แต่ควรเลือกดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่ครีมเทียม ให้ร่างกายได้รับน้ำตาลจากกล้วยก็เพียงพอ หากใครรับประทานอาหารที่กล่าวมาแล้วข้างต้น เช่น อาหารที่มีธาตุเหล็ก อาหารที่มีสังกะสี ถั่ว ไข่ต้ม และอยากดื่มกาแฟต่อ ถ้าเป็นไปได้ก็ควรรอสัก 2 ชั่วโมง หลังรับประทานอาหารแล้วค่อยดื่มกาแฟ เพื่อให้ร่างกายมีเวลาย่อยและดูดซึมสารอาหารจากอาหารที่กินไปอย่างเต็มที่ ไม่ถูกคาเฟอีนในกาแฟขัดขวางการดูดซึมค่ะ อย่างไรก็ดี อาหารเหล่านี้ก็เป็นเพียงคำแนะนำให้เลี่ยงการกินพร้อมกับกาแฟเท่านั้น แต่ก็ไม่ได้ถึงกับห้ามกินอย่างเด็ดขาดไปเลย เพราะร่างกายแต่ละคนก็มีการตอบสนองต่อคาเฟอีนที่ต่างกัน รวมไปถึงสภาพร่างกายก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้น บางคนอาจไม่ได้รู้สึกถึงความผิดปกติอะไร หรือไปตรวจสุขภาพก็ยังปกติดีอยู่ แต่หากมีโรคประจำตัว หรือกินยา-วิตามินบางตัวเป็นประจำ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรให้ชัดไปเลยดีกว่า กาแฟห้ามกินกับอะไร ยาคุม วิตามิน กินพร้อมกาแฟได้ไหม หรือไม่ควรกินคู่กับอะไรบ้าง กาแฟดำใส่มะนาว ลดความอ้วนได้จริงไหม มีประโยชน์ดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง ป่วยโรคไหนควรเลี่ยงกาแฟให้ไกล เพื่อความปลอดภัย อาการไม่กำเริบ ดื่มกาแฟตอนท้องว่าง อันตรายไหม เรื่องใกล้ตัวที่ควรเช็กให้ชัวร์ก่อนดื่ม 9 ข้อดีของกาแฟ ดื่มอย่างเหมาะสมสุขภาพก็แจ่มใส ขอบคุณข้อมูลจาก : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ, คลังข้อมูลยา คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล, โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์, สำนักโภชนาการ กรมอนามัย, webmd.com, medicalnewstoday.com
แสดงความคิดเห็น