เจ็บเต้านม เกิดจากอะไรได้บ้าง เช็กสัญญาณเตือนความผิดปกติเกี่ยวกับสุขภาพผู้หญิง ที่สาว ๆ ทั้งหลายไม่ควรมองข้าม เชื่อว่าสาว ๆ หลายคนคงเคยมีอาการเจ็บเต้านมกันมาบ้าง เพราะการเจ็บเต้านมนี้เป็นอาการเกี่ยวกับสุขภาพผู้หญิงที่พบได้บ่อย หากอยู่ ๆ มีอาการเกิดขึ้น คุณผู้หญิงคงรู้สึกกังวลไม่น้อยว่าเกี่ยวข้องกับมะเร็งเต้านม หรือไม่ วันนี้กระปุกดอทคอมจึงไม่นิ่งนอนใจ ขอรวบรวมสาเหตุ อาการ และวิธีบรรเทาอาการเจ็บเต้านม มาแนะนำกันค่ะ อาการปวดบริเวณเต้านม คือ อาการไม่สบายที่เกิดขึ้นบริเวณเต้านม อาจเป็นข้างเดียวหรือทั้งสองข้างก็ได้ เป็นอาการที่พบได้บ่อย แต่จะแตกต่างกันที่ความรุนแรง โดยทางการแพทย์จะสามารถตรวจวินิจฉัยโรคและรักษาให้ตรงจุดเพื่อป้องกันและรักษาโรคในขั้นต้น รวมถึงได้รับการรักษาเพื่อป้องกันความรุนแรงของโรคในอนาคต เจ็บเต้านมเกิดได้จากหลายสาเหตุ อาทิ การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน เช่น ในช่วงก่อนประจำเดือนมา หรือตอนเข้าสู่วัยหมดประจำเดือน การมีเพศสัมพันธ์ การมีเพศสัมพันธ์สามารถทำให้เกิดการเจ็บเต้านมได้ การตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนเปลี่ยนแปลงเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการให้นมลูก ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงเต้านมมากขึ้น การคลอดลูก ช่วงหลังคลอดจะมีอาการเจ็บเต้านม เพราะฮอร์โมนมีการปรับเปลี่ยนและสร้างน้ำนม ทำให้เกิดการบวมและมีน้ำนมมาคั่งจำนวนมาก จนเต้านมมีขนาดใหญ่ขึ้น บวมและตึง การบาดเจ็บ การชนหรือกระแทกเต้านมอาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการเจ็บ การสวมชุดชั้นในที่คับเกินไป จนไปกดทับเนื้อเยื่อเต้านม ความเครียดเรื้อรัง เมื่อร่างกายหลั่งฮอร์โมนความเครียดเพิ่มขึ้นจะส่งผลต่อการทำงานของฮอร์โมนเพศหญิง รวมทั้งทำให้กล้ามเนื้อทั่วร่างกายมีอาการปวด และอาจกระตุ้นให้มีอาการเจ็บเต้านมได้ ปวดบริเวณคอ บ่า ไหล่ หลัง หากมีอาการเคล็ดขัดยอกหรือบาดเจ็บบริเวณดังกล่าวอาจมีส่วนทำให้มีอาการปวดบริเวณเต้านมตามมาได้ กระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบ ส่งผลให้เกิดอาการเจ็บหน้าอกแบบเฉียบพลันและลุกลามมายังเต้านม การติดเชื้อ โดยเฉพาะการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับเต้านม ก้อนเนื้อในเต้านม เช่น ซีสต์ ถุงน้ำ อาจทำให้รู้สึกปวดบริเวณเต้านม โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งเต้านมเป็นสาเหตุหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับอาการเจ็บเต้านม การใช้ยา เช่น ยาคุมกำเนิด ยารักษาโรคซึมเศร้าบางชนิด อาจมีผลข้างเคียงที่ทำให้เจ็บเต้านม อาการเจ็บเต้านมของผู้หญิง สามารถแบ่งได้ 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้ ในช่วงไข่ตก (2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนมา) จนถึงช่วงที่เริ่มมีประจำเดือน สาว ๆ จะรู้สึกเจ็บเต้านม เนื่องจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ่มสูงขึ้น ทำให้เต้านมขยายตัวและมีอาการบวมน้ำ ส่งผลให้มีอาการคัดตึงเต้านม หรือปวดแบบตุบ ๆ หนัก ๆ เต้านมจะบวมและแข็ง เจ็บเมื่อถูกสัมผัส เป็นได้ทั้งข้างเดียวหรือทั้งสองข้าง และอาจมีปวดร้าวมาที่รักแร้ได้ แต่อาการปวดจะทุเลาลงเมื่อประจำเดือนมา อย่างไรก็ตาม อาการปวดเต้านมที่สัมพันธ์กับรอบเดือนส่วนใหญ่ไม่เป็นอันตราย เป็นอาการปวดที่เกิดขึ้นแม้ไม่ได้อยู่ในช่วงมีประจำเดือน จึงไม่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน อาการที่พบบ่อยคือ มักปวดตึง ๆ แน่น ๆ แสบร้อน มีตำแหน่งที่ปวดเป็นพิเศษ บางคนอาจปวดตลอดเวลาหรือปวดเป็นช่วง ๆ โดยปวดข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างก็ได้ อาการเจ็บเต้านมที่ไม่สัมพันธ์กับประจำเดือนนี้เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น มีก้อนเนื้องอกที่เต้านม, มะเร็งเต้านม, เกิดอุบัติเหตุกระแทกที่เต้านม, เต้านมอักเสบ, ผลข้างเคียงจากการผ่าตัดเสริมเต้านม, กระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบ, กล้ามเนื้ออักเสบ และอื่น ๆ ซึ่งจำเป็นต้องให้แพทย์วินิจฉัยเพื่อหาสาเหตุที่แน่ชัด นอกจากนี้อาการปวดเต้านมยังสามารถแบ่งตามลักษณะอาการและบริเวณที่เป็นได้อีก อาการเจ็บเต้านมของสาว ๆ สามารถแบ่งได้เป็น 3 แบบตามบริเวณที่เกิด ดังนี้ เป็นอาการปวดเฉพาะที่เต้านมข้างเดียว เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น เต้านมถูกบีบ, ถูกกระแทก, เต้านมอักเสบ, มีฝีในเต้านม, ท่อน้ำนมอุดตัน, มีซีสต์ในเต้านม รวมทั้งเกิดจากกระดูกอ่อนซี่โครงอักเสบ ทำให้เจ็บบริเวณหน้าอกและร้าวไปถึงเต้านมได้ เป็นอาการปวดที่เกิดขึ้นบริเวณทั้งสองข้างของเต้านม ส่วนใหญ่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนในช่วงก่อนมีประจำเดือน แต่ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ได้อีก เช่น กินยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ การให้นมบุตร รวมถึงโรคอื่น ๆ เช่น มีเนื้องอกในเต้านม เป็นต้น เป็นอาการปวดที่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งบริเวณเต้านม อาจมีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศหญิง ทั้งในช่วงก่อนมีประจำเดือน การตั้งครรภ์ หรือการรับประทานยาคุมกำเนิดบางชนิด ในขณะเดียวกันก็อาจเป็นสัญญาณเตือนบางโรคได้เช่นกัน อย่างที่กล่าวไปแล้วว่า การเจ็บเต้านมอาจเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น การติดเชื้อ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย หรือเจ็บป่วยด้วยโรคเกี่ยวกับเต้านม โดยอาการเจ็บเต้านมหากไม่ได้รับการรักษาอย่างตรงจุดและปล่อยทิ้งไว้นานอาจทำให้เกิดการอักเสบ หรือในกรณีที่เกิดจากการติดเชื้อก็อาจทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อได้ ดังนั้น หากมีอาการเจ็บปวด หรือไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาอย่างเหมาะสมต่อไป ในบางกรณีอาการเจ็บเต้านมอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคอื่น ๆ ได้ ดังนั้น ต้องสังเกตอาการ หากมีอาการที่น่าสงสัยต่อไปนี้ควรรีบปรึกษาแพทย์ อาการเจ็บรุนแรง เมื่อผ่านไประยะหนึ่งอาการก็ยังไม่ดีขึ้น คลำพบก้อนที่เต้านม เต้านมมีขนาดหรือรูปร่างเปลี่ยนไป มีน้ำไหลออกจากหัวนม ไม่ว่าจะเป็นน้ำใส เลือด หรือน้ำเหลือง ผิวหนังบริเวณเต้านมเปลี่ยนแปลงไป เช่น มีรอยบวม แดง มีรอยบุ๋ม หรือมีลักษณะคล้ายผิวส้ม เกิดแผล ผื่น อาการคัน บริเวณเต้านม เจ็บเต้านมร้าวไปที่รักแร้หรือไหล่ มีไข้ วิธีรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้เจ็บเต้านม ดังนั้น จึงควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัย โดยแพทย์จะตรวจร่างกาย ซักประวัติ และอาจตรวจพิเศษเพิ่มเติม เช่น อัลตราซาวด์ แมมโมแกรม หรือการเจาะตรวจชิ้นเนื้อ แล้วทำการรักษาด้วยวิธีการที่เหมาะสม เช่น ให้ยาแก้ปวด ใช้ยาฮอร์โมน การผ่าตัด หรือในกรณีที่เป็นมะเร็งเต้านมจะใช้การฉายแสงหรือทำเคมีบำบัด เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การรักษาอาการเจ็บเต้านมจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของอาการ ในกรณีที่มีอาการเจ็บเต้านม เราสามารถบรรเทาอาการในเบื้องต้นได้หลายวิธี ดังต่อไปนี้ 1. รับประทานยาแก้ปวด เช่น พาราเซตามอล หรือยาต้านอักเสบ ที่สามารถช่วยลดอาการบวมและปวดได้ 2. ประคบร้อนหรือประคบเย็นบริเวณเต้านม หากมีอาการเจ็บเต้านมในลักษณะกล้ามเนื้อตึง ควรใช้ผ้าชุบน้ำร้อนประคบบริเวณเต้านมเป็นเวลา 15-20 นาที เพื่อให้กล้ามเนื้อคลายตัวและเพิ่มการไหลเวียนโลหิต แต่ถ้ามีอาการเจ็บเต้านมแบบเฉียบพลัน มีอาการบวม หรือปวดจากการบาดเจ็บ ควรใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเพื่อลดอาการบวมที่เกิดขึ้น 3. สวมใส่ชุดชั้นใน หรือบราไร้โครง ที่เหมาะกับสรีระหน้าอก ไม่อึดอัดหรือรัดแน่นจนเกินไป 4. เลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเจ็บเต้านม เช่น การสวมชุดรัดแน่นพอดีตัว หรือเครื่องประดับที่มีขนาดใหญ่ การออกกำลังกายที่ใช้แรงกระแทกหนักเกินไป เพราะอาจกระทบบริเวณเต้านมได้ 5. ปรับเปลี่ยนท่าทางในการนอน โดยนอนหงาย หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหรือนอนตะแคงทับเต้านม สำหรับใครที่มีอาการเจ็บเต้านม แนะนำว่าควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม โดยไม่ควรปล่อยไว้นาน เพราะการเจ็บเต้านมอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคร้ายที่ซุกซ่อนอยู่ได้ และอย่าลืมตรวจสุขภาพเต้านมด้วยตัวเองเป็นประจำทุกเดือนหลังจากหมดประจำเดือน 7 วัน หากพบความผิดปกติใด ๆ ตั้งแต่เริ่มต้นจะช่วยเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้มากขึ้น เช็กจากภาพให้ไว ! หน้าอกหน้าใจผิดปกติแบบไหน ใช่มะเร็งเต้านม ? 8 ผลไม้ต้านมะเร็งเต้านม ดักให้ครบทุกความเสี่ยง ไขข้อข้องใจ 8 อาการผิดปกติของเต้านมเหล่านี้อันตรายหรือไม่ ? 12 วิธีลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม สาว ๆ รู้ครบยัง ? อาการมะเร็งเต้านมระยะต่าง ๆ ที่ผู้หญิงควรรู้ไว้ ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลเปาโล, โรงพยาบาลเวชธานี, รัตตินันท์ เมดิคอล เซ็นเตอร์, mayoclinic.org, medicalnewstoday.com
แสดงความคิดเห็น