วิตามินซีเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 พร้อมคำแนะนำว่าควรกินตอนไหนถึงได้ประโยชน์ ใครเบื่อกลืนวิตามินแบบแคปซูลหรือแบบเม็ด วิตามินซีเม็ดฟู่ คืออีกทางเลือก ! ปัญหาการกลืนวิตามินเม็ดขนาดใหญ่เป็นอุปสรรคสำหรับใครหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอาหารเสริมวิตามินซี ที่มักมาในรูปแบบเม็ดค่อนข้างใหญ่ ด้วยเหตุนี้ วิตามินซีเม็ดฟู่ (Effervescent Tablets) จึงกลายเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น เพราะสะดวก รับประทานง่าย ถูกใจคนไม่ชอบกินแบบเม็ด แต่อยากเสริมวิตามินเพื่อดูแลสุขภาพ แล้วอยากรู้ไหมว่า วิตามินซีเม็ดฟู่ ช่วยอะไรบ้าง ควรกินตอนไหนดี หรือมียี่ห้อไหนในท้องตลาดบ้าง เรารวบรวมข้อมูลมาบอกแล้ว วิตามินซีเม็ดฟู่ แตกต่างจากวิตามินซีแบบเม็ดหรือแคปซูลหลายข้อ ที่เห็นชัด ๆ ก็อย่างเช่น รูปแบบการรับประทาน : วิตามินซีแบบเม็ดหรือแคปซูลจะต้องกลืนพร้อมน้ำ หรือเป็นแบบเม็ดอมไว้ในปาก แต่วิตามินซีเม็ดฟู่ต้องนำไปละลายในน้ำก่อนดื่ม ความสะดวกในการรับประทาน : คนที่มีปัญหากลืนยาเม็ดหรือผู้สูงอายุอาจไม่สะดวกที่จะรับประทานวิตามินซีแบบเม็ด แต่สามารถเลือกรับประทานแบบเม็ดฟู่ที่กินได้ง่ายกว่า การดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย : วิตามินซีแบบเม็ดฟู่ที่เข้าสู่ร่างกายจะอยู่ในรูปแบบสารละลาย จึงถูกดูดซึมได้ง่ายและเร็วกว่า ไม่ต้องรอให้แตกตัวในกระเพาะอาหารเหมือนกับวิตามินซีแบบเม็ด การระคายเคืองกระเพาะอาหาร : วิตามินซีมีฤทธิ์เป็นกรด หากกินแบบเม็ดขณะท้องว่างหรือกินในปริมาณมาก อาจทำให้เกิดอาการไม่สบายท้องหรือระคายเคืองกระเพาะอาหารได้ แต่สำหรับวิตามินซีเม็ดฟู่ เมื่อละลายในน้ำแล้วจะมีความเป็นกรดลดลง หรือมีการปรับค่า pH ให้เป็นกลางมากขึ้น ทำให้อ่อนโยนต่อกระเพาะอาหารมากกว่า ปริมาณโซเดียม : วิตามินซีเม็ดฟู่มักมีส่วนผสมของโซเดียม ในขณะที่วิตามินซีแบบเม็ดไม่มีโซเดียมเหมือนเม็ดฟู่ รสชาติ : วิตามินซีแบบเม็ดหรือแคปซูลจะออกรสขม แต่วิตามินซีเม็ดฟู่สามารถใส่สี แต่งกลิ่น แต่งรส ให้น่ารับประทานได้ ราคา : วิตามินแบบเม็ดมีราคาย่อมเยากว่าวิตามินแบบเม็ดฟู่ ประโยชน์ของวิตามินซีเม็ดฟู่ก็ไม่ต่างจากวิตามินซีในรูปแบบอื่น ๆ โดยข้อดีหลัก ๆ มีดังนี้ มีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน โดยกระตุ้นการทำงานของเม็ดเลือดขาวที่คอยต่อสู้กับเชื้อโรคต่าง ๆ ที่รุกรานเข้ามาในร่างกาย และปกป้องร่างกายจากการติดเชื้อ มีส่วนช่วยลดความถี่และความรุนแรงของอาการเจ็บป่วยโรคทางเดินหายใจ เช่น หวัด ไข้หวัดใหญ่ วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่ง จึงมีบทบาทในการช่วยปกป้องเซลล์ต่าง ๆ จากสารอนุมูลอิสระทั้งหลายที่ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งนำไปสู่โรคเรื้อรังต่าง ๆ มีส่วนช่วยป้องกันอาการเลือดออกตามไรฟัน และยังส่งเสริมสุขภาพเหงือกและฟันให้แข็งแรง มีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญที่ทำให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น รวมทั้งช่วยในเรื่องการสมานแผล วิตามินซีมีส่วนช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน จึงช่วยให้ผิวพรรณดูกระจ่างใสขึ้น ลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ และเป็นเกราะป้องกันผิวจากความเสียหายที่เกิดจากรังสี UV ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหาร โดยวิตามินซีจะเปลี่ยนธาตุเหล็กจากพืชให้เป็นรูปแบบที่ดูดซึมง่าย จึงเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อคนที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ และอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคโลหิตจางในผู้ที่มีแนวโน้มจะขาดธาตุเหล็กได้ มีงานวิจัยพบว่า วิตามินซีอาจช่วยลดระดับความดันโลหิตได้ทั้งในผู้ที่มีและไม่มีภาวะความดันโลหิตสูง เนื่องจากวิตามินซีอาจช่วยคลายหลอดเลือดที่ส่งเลือดจากหัวใจ อาจช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ โดยมีงานวิจัยพบว่า ผู้ที่รับประทานวิตามินซีเสริมอย่างน้อย 700 มิลลิกรัม/วัน มีความเสี่ยงของโรคหัวใจลดลง 25% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทานอาหารเสริมวิตามินซี ในขณะที่การศึกษาอื่น ๆ ก็สอดคล้องไปในทางเดียวกัน โดยผู้ที่รับประทานวิตามินซีอย่างน้อย 500 มิลลิกรัม/วัน มีระดับไขมันชนิดไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ในเลือดลดลง ซึ่งไขมันทั้งสองชนิดเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ ทั้งนี้ การรับประทานวิตามินซีจากอาหารก็มีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงโรคหัวใจที่ลดลงเช่นกัน วิตามินซีช่วยลดกรดยูริกในเลือดและอาจส่งผลให้ป้องกันการเกิดโรคเกาต์ได้ ดังการศึกษาชิ้นหนึ่งที่พบว่า ผู้วิจัยที่รับประทานวิตามินซีมากที่สุดมีระดับกรดยูริกในเลือดต่ำกว่าผู้ที่บริโภควิตามินซีน้อยที่สุดอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้งานวิจัยอีกชิ้นก็ระบุว่า ผู้ที่รับประทานอาหารเสริมวิตามินซีมีความเสี่ยงต่อโรคเกาต์ลดลง 44% ถ้าอยากซื้อวิตามินซีเม็ดฟู่ เราควรเลือกแบบไหน ต้องพิจารณาอะไรบ้าง มาดูกัน พิจารณาแหล่งที่มาของวิตามินซี ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิดหลัก ๆ คือ วิตามินซีสังเคราะห์ : มีโครงสร้างทางเคมีเหมือนกับกรดแอสคอร์บิกที่พบในธรรมชาติ เป็นชนิดที่หาซื้อง่าย มีราคาถูก แต่มักจะมีความเป็นกรดสูง อาจระคายเคืองต่อกระเพาะอาหารได้มากกว่า จึงไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหากระเพาะอาหาร วิตามินซีธรรมชาติ : เป็นวิตามินซีที่สกัดมาจากพืชผัก-ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง เช่น คามูคามู อะเซโรลาเชอร์รี ซิตรัส เป็นต้น มักจะมาพร้อมกับไบโอฟลาโวนอยด์และสารพฤกษเคมีอื่น ๆ ซึ่งช่วยเสริมการดูดซึมได้ดีขึ้น อีกทั้งอ่อนโยนต่อกระเพาะอาหารมากกว่า แต่ก็มีราคาสูงกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ และปริมาณวิตามินซีที่แน่นอนมีน้อยกว่า เช่น หากบนฉลากระบุว่า 1,000 มิลลิกรัม ของสารสกัดอะเซโรลาเชอร์รี อาจมีวิตามินซีจริง ๆ แค่ 100-200 มิลลิกรัม ขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของสารสกัด พิจารณาชนิดของวิตามินซีที่ต้องการ บางสูตรมีส่วนผสมของวิตามินซีเพียงชนิดเดียว เหมาะกับคนที่ต้องการประโยชน์จากวิตามินซีแบบเต็มแม็กซ์ หรือมีภาวะขาดวิตามินซีเพียงอย่างเดียว บางสูตรมีส่วนผสมของวิตามินและแร่ธาตุชนิดอื่นที่ช่วยเสริมการทำงานของวิตามินซีด้วย อาทิ วิตามินดี สังกะสี ไบโอฟลาโวนอยด์ เควอซิทิน ซีลีเนียม วิตามินบี ฯลฯ ซึ่งก็มักจะมีราคาสูงกว่า ตรวจสอบปริมาณของกรดแอสคอร์บิก (Ascorbic Acid) ที่ผลิตภัณฑ์นั้นให้ต่อหน่วยบริโภค เพื่อจะได้ทราบปริมาณวิตามินซีที่เราได้รับจริง ๆ โดยในคนที่มีภาวะขาดวิตามินซี ต้องการวิตามินซีเข้มข้นสูง ควรเลือกยี่ห้อที่ให้ปริมาณวิตามินซี 500-1,000 มิลลิกรัม/เม็ด เลือกตามรสชาติที่ชอบ ซึ่งผู้ผลิตมักจะแต่งกลิ่น แต่งรส เพื่อให้วิตามินเม็ดฟู่มีรสชาติอร่อย รับประทานง่าย หากต้องควบคุมโซเดียมควรเลือกซื้อวิตามินซีเม็ดฟู่ที่มีปริมาณโซเดียมต่ำ โดยตรวจสอบข้อมูลได้จากฉลากโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์ สำหรับผู้ที่ต้องควบคุมระดับน้ำในเลือดหรือกำลังลดน้ำหนัก ควรเลือกซื้อวิตามินซีเม็ดฟู่ที่ไม่เติมน้ำตาล หรือมีน้ำตาลน้อยที่สุด โดยอ่านจากฉลากโภชนาการบนบรรจุภัณฑ์ เลือกซื้อวิตามินซีเม็ดฟู่จากบริษัทที่น่าเชื่อถือ มีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน มีการรับรองจาก อย. หรือหน่วยงานอื่น ๆ หากซื้อผ่านช้อปปิ้งออนไลน์ควรซื้อจากร้านค้าทางการ ร้านขายยา หรือร้าน Mall อ่านข้อมูลบนฉลากโภชนาการอย่างละเอียด เพื่อดูส่วนประกอบ คุณค่าทางโภชนาการ วิธีรับประทาน รวมทั้งคำเตือนต่าง ๆ เช่น ข้อมูลสารก่อภูมิแพ้ เนื่องจากบางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมของกลูเตน แล็กโทส เป็นต้น คราวนี้เราก็ได้รวบรวมวิตามินเม็ดฟู่ยี่ห้อที่น่าสนใจมาแนะนำไว้ให้พิจารณากันตรงนี้แล้ว วิตามินซีเม็ดฟู่ เยอรมนี มีอยู่หลายแบรนด์ อย่างหลอดนี้เป็นของดีโมซานา (Demosana) ซึ่งมีให้เลือกทั้งรสส้ม รสเลมอน 1 เม็ดจะให้วิตามินซีจากกรดแอล-แอสคอร์บิก 100% ในปริมาณ 46 มิลลิกรัม ผสมลงในน้ำแล้วละลายง่าย ดูดซึมง่าย ไม่มีแคลอรี เหมาะกับคนที่ต้องการเริ่มดูแลระบบภูมิคุ้มกัน วิธีรับประทาน : วันละ 1 เม็ด ละลาย 1 เม็ดในน้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร ราคาปกติ : 1 หลอด (20 เม็ด) 145 บาท วิตามินซีเม็ดฟู่ เรด็อกซอน ซี ดี พลัส ซิงค์ หลอดนี้ให้วิตามินซีมาเต็มแม็กซ์ 1,000 มิลลิกรัม และยังมีส่วนผสมของวิตามินดี 400IU รวมถึงแร่ธาตุสังกะสี 10 มิลลิกรัม ซึ่งทั้ง 3 ชนิดมีบทบาทสำคัญในการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันและการต้านทานโรคของร่างกาย ใช้สำหรับรักษาอาการขาดวิตามินซี วิตามินดี และสังกะสี ในภาวะที่ร่างกายมีความต้องการเพิ่มขึ้น ได้รับไม่เพียงพอ หรือมีความเสี่ยงว่าจะมีการขาดเกิดขึ้น หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป วิธีรับประทาน : ละลายเม็ดฟู่ในน้ำเย็น 1 แก้ว ผู้ใหญ่และเด็กอายุมากกว่า 12 ปี รับประทานวันละ 1 เม็ด ราคาปกติ : 1 หลอด (15 เม็ด) 190 บาท สำหรับคนที่อยากได้วิตามินซีแบบเพียว ๆ น่าจะถูกใจ Swisse Ultiboost High Strength Vitamin C 1000 mg วิตามินซีแบรนด์นำเข้าจากประเทศออสเตรเลีย ซึ่ง 1 เม็ดประกอบด้วยวิตามินซีจากกรดแอสคอร์บิก 1,000 มิลลิกรัม ช่วยเติมวิตามินซีให้กับร่างกายเต็มโดส รสชาติอร่อยจากกลิ่นสตรอว์เบอร์รี ให้ความหวานด้วยซอร์บิทอลและซูคราโลส แต่คนที่แพ้กลูเตนต้องระวัง เพราะแบรนด์นี้มีส่วนผสมของกลูเตนด้วย วิธีรับประทาน : ละลายน้ำวันละ 1 เม็ด หรือตามคำแนะนำของแพทย์ เมื่อละลายแล้วให้รับประทานทันที ราคาปกติ : 1 หลอด (20 เม็ด) 460 บาท แอตแลนต้า (Atlanta) อีกหนึ่งแบรนด์วิตามินซีเม็ดฟู่ที่มีมาตรฐานการผลิตจากประเทศเยอรมนี ในแต่ละเม็ดให้สารอาหาร 3 ชนิดที่มีส่วนช่วยเรื่องภูมิคุ้มกัน ทำงานร่วมกับแบบ Tri Immune Booster Formula ทั้งวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม เควอทิซิน 100 มิลลิกรัม และซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์ 100 มิลลิกรัม ที่ช่วยให้วิตามินซีดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้ดีขึ้น ดื่มง่าย เพราะมีรสชาติทรอปิคอล ให้ความรู้สึกเหมือนกินผลไม้ ไม่มีน้ำตาลด้วยนะ เหมาะกับคนที่เป็นหวัดง่าย ต้องเผชิญฝุ่นควันทั้งวัน หรืออยากดูแลภูมิคุ้มกันและสุขภาพโดยรวม วิธีรับประทาน : รับประทานวันละ 1 เม็ด โดยละลายวิตามินเม็ดฟู่ 1 เม็ด ในน้ำ 200-250 มิลลิลิตร ดื่มให้หมดทันทีหลังวิตามินเม็ดฟู่ละลายน้ำ ราคาปกติ : 1 หลอด (15 เม็ด) 490 บาท ใครอยากกินวิตามินซีเพื่อดูแลผิวพรรณ ลองมาดูวิตามินซีเม็ดฟู่จากไวบูสตา (Viboosta) สูตรนี้ให้วิตามินซีจากธรรมชาติที่สกัดมาจาก Acerola Cherry ในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าวิตามินซีจากธรรมชาติจะออกฤทธิ์ได้ดีและเร็วกว่าวิตามินซีสังเคราะห์ทั่วไป อีกทั้งเป็นสารสกัดที่มีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านอนุมูลอิสระ จึงช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ผิว มาพร้อมกับซิตรัส ไบโอฟลาโวนอยด์ และกรดแอสคอร์บิก ที่มีส่วนช่วยเรื่องซ่อมแซมเซลล์ผิวและสมานแผล ดีต่อผิวแบบคูณสาม วิธีรับประทาน : ใส่เม็ดวิตามิน 1 เม็ดลงในน้ำอุณหภูมิห้อง ประมาณ 200 มิลลิลิตร ใช้ช้อนคนให้ละลายและรับประทาน ราคาปกติ : 1 หลอด (20 เม็ด) 159 บาท วิตามินซีเม็ดฟู่เกรดยา 1,000 มิลลิกรัม จากผลไม้ตระกูลซิตรัส แบรนด์สวิส เอ็นเนอร์จี้ ดร.ฟราย มาพร้อมกลิ่นเลมอน อร่อยซ่า สดชื่น แบบไม่เติมน้ำตาล ไม่มีกลูเตน ไม่มีแล็กโทส กินแล้วไม่ระคายเคืองกระเพาะอาหาร ให้พลังงานเบา ๆ เพียง 8.72 Kcal ต่อเม็ด ที่สำคัญก็คือ แบรนด์นี้ผลิตภายใต้ลิขสิทธิ์ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และได้รับการรับรองจากสถาบันคุณภาพมากมายทั้งในประเทศไทยและทวีปยุโรป วิธีรับประทาน : ละลายเม็ดฟู่ในน้ำเปล่า 200 มิลลิลิตร ดื่มตอนเช้าวันละ 1 ครั้ง ราคาปกติ : 1 หลอด (20 เม็ด) 490 บาท แม้วิตามินเม็ดฟู่ บีรอคคา เพอร์ฟอร์มานซ์ กลิ่นส้ม จะเป็นวิตามินรวมหลายชนิด แต่ก็ให้วิตามินซีมาในปริมาณมากที่สุดคือ 500 มิลลิกรัม อีกทั้งยังมีวิตามินบีรวม 8 ชนิด และมีแร่ธาตุ 3 ชนิด คือ แคลเซียม แมกนีเซียม และสังกะสี ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของวิตามินต่าง ๆ ให้ดีขึ้น เหมาะกับคนพักผ่อนน้อย อ่อนเพลีย เครียดง่าย ต้องการดูแลสุขภาพร่างกายโดยรวม วิธีรับประทาน : ละลายเม็ดฟู่ในน้ำเปล่า 1 แก้ว แล้วดื่ม ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้าหรือมื้ออื่น ๆ ราคาปกติ : 1 หลอด (15 เม็ด) 260 บาท วิตามินซีเม็ดฟู่ กินตอนไหนดี ? แม้ว่าวิตามินซีเม็ดฟู่จะไม่ค่อยระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร แต่ส่วนใหญ่ยังคงแนะนำให้กินหลังมื้ออาหาร เพราะสำหรับบางคนแล้วอาจมีปัญหากระเพาะอาหารบอบบาง วิตามินซีซึ่งเป็นกรดก็อาจส่งผลต่อกระเพาะอาหารได้ นอกจากนี้ไม่แนะนำให้กินช่วงท้องว่าง แม้วิตามินซีเม็ดฟู่จะละลายน้ำได้ดีและอ่อนโยนกว่าแบบเม็ด แต่ก็ยังคงมีความเป็นกรดอยู่ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการไม่สบายท้อง แสบท้อง หรือปวดท้องในบางคน สำหรับช่วงเวลาหลังมื้ออาหารที่เหมาะสมที่สุดคือ หลังอาหารตอนเช้าหรือกลางวัน แต่ควรหลีกเลี่ยงตอนกลางคืน เนื่องจากวิตามินซีเป็นวิตามินที่ละลายในน้ำ การรับประทานช่วงกลางคืนอาจทำให้รู้สึกปวดปัสสาวะบ่อยจนรบกวนการนอนหลับได้เช่นกัน หากต้องการกินวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม/วัน ควรแบ่งรับประทานเป็นครั้งละ 500 มิลลิกรัม วันละ 2 ครั้ง เช้า-กลางวัน หรือเช้า-เย็น จึงจะได้รับประโยชน์สูงสุด เนื่องจากร่างกายเรามีข้อจำกัดในการดูดซึมวิตามินซีไปใช้ได้ประมาณ 500 มิลลิกรัม/ครั้งเท่านั้น และส่วนเกินที่เหลือจะถูกขับทิ้งไป ควรรอให้วิตามินซีเม็ดฟู่ละลายในน้ำจนหมดและฟองก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนใหญ่ระเหยไปก่อนจึงค่อยดื่ม เพื่อป้องกันท้องอืด เรอ แน่นท้อง โดยทั่วไปจะใช้เวลา 1-3 นาที วิตามินซีมีความเป็นกรดเล็กน้อย บางยี่ห้อมีส่วนผสมของน้ำตาลหรือสารให้ความหวาน เมื่อดื่มบ่อย ๆ อาจส่งผลให้เคลือบฟันกร่อนลง ดังนั้น หลังดื่มวิตามินซีเม็ดฟู่แล้วควรดื่มน้ำเปล่าตามหรือบ้วนปากเพื่อลดความเป็นกรดที่ตกค้างในช่องปาก ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ เพื่อช่วยให้ไตทำงานได้ดีในการขับวิตามินซีส่วนเกินออก และช่วยป้องกันการตกตะกอนของสารบางอย่างในไต เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน คนที่เป็นโรคไต โรคความดันโลหิตสูง ผู้ป่วยโรคหัวใจ หรือผู้ที่มีภาวะบวมน้ำ ซึ่งต้องจำกัดโซเดียม ควรระวังการรับประทานวิตามินซีเม็ดฟู่ หรือปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะวิตามินซีเม็ดฟู่มักมีส่วนผสมของโซเดียม ซึ่งเป็นสารที่ช่วยให้เกิดฟองฟู่และทำให้ละลายน้ำได้ดี ผู้ที่มีโรคประจำตัวอื่น ๆ หรือรับประทานยาและอาหารเสริมตัวอื่นอยู่ ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนรับประทานวิตามินซีเสริมทุกครั้ง รับประทานตามคำแนะนำบนฉลากหรือตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่ควรรับประทานเกินขนาดหรือนานติดต่อกันจนเกินไป การรับประทานวิตามินซีในปริมาณที่สูงมาก เช่น มากกว่า 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นเวลานาน อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตในบางราย หากมีอาการแพ้ เช่น ผื่นคัน ลมพิษ หายใจลำบาก ควรหยุดรับประทานทันทีและปรึกษาแพทย์ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค ควรรับประทานอาหารให้หลากหลายครบ 5 ส่วน ในสัดส่วนที่เหมาะสมเป็นประจำ การรับประทานวิตามินซีเม็ดฟู่อย่าลืมใส่ใจในข้อควรระวังเหล่านี้ จะช่วยให้ได้รับประโยชน์จากวิตามินซีได้อย่างเต็มที่และปลอดภัย วิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 พร้อมไขข้อสงสัย กินวิตามินซีทุกวันอันตรายไหม วิธีกินวิตามินซีที่ถูกต้อง ต้องกินยังไงถึงได้ผลดี รับประโยชน์อย่างเต็มที่ คอลลาเจนกับวิตามินซีกินพร้อมกันได้ไหม แล้วคอลลาเจนควรกินตอนไหนดี ? วิตามินซีไม่ควรกินคู่กับอะไร หรือควรกินคู่กับวิตามินตัวไหนให้ช่วยดูดซึมได้ดีขึ้น วิตามินซีกินตอนไหนดี ควรกินวันละเท่าไร กินทุกวันอันตรายไหม ? ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : Tops Vita Official Store, redoxon.co.th (1), (2), AtlantaHealthcare, Viboosta Thailand, Swisse Overseas, Swiss Energy & Dr.Frei Mall, berocca.co.th, healthline.com
แสดงความคิดเห็น