ไฟเบอร์ยี่ห้ออะไรดี 2025 คนธาตุหนักที่ท้องผูกประจำ ถ้าอยากลองอาหารเสริมไฟเบอร์ก็ควรทราบถึงวิธีเลือกซื้อ พร้อมทำความเข้าใจว่าไฟเบอร์ควรกินตอนไหน กินทุกวันได้ไหม ในแต่ละวันผู้ใหญ่อย่างเราควรได้รับไฟเบอร์ หรือใยอาหาร 25-30 กรัม ตามคำแนะนำของนักโภชนาการ อย่างไรก็ตาม ถ้าว่ากันตามความเป็นจริง เราอาจจะกินอาหารจำพวกผัก ผลไม้ ธัญพืช ได้ไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูก ขับถ่ายยาก วนลูปอยู่เรื่อย ๆ หลายคนจึงหันมาสนใจ อาหารเสริมไฟเบอร์ ที่จะช่วยเติมใยอาหารให้ลำไส้ของเราได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่จะมีวิธีพิจารณาเลือกซื้ออย่างไร ไฟเบอร์ยี่ห้อไหนดี แล้วเราสามารถกินไฟเบอร์ทุกวันได้ไหม กินตอนไหนดีที่สุด ข้อมูลทั้งหมดอยู่ด้านล่างนี้แล้ว ไฟเบอร์ หรือใยอาหาร คือ สารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตชนิดหนึ่งซึ่งร่างกายไม่สามารถย่อยหรือดูดซึมได้เหมือนกับสารอาหารชนิดอื่น ๆ ต้องผ่านกระเพาะอาหารและขับออกจากร่างกายผ่านลำไส้ใหญ่ โดยมีอยู่ 2 ประเภทคือ ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำได้ : เมื่อเข้าสู่ระบบทางเดินอาหารจะก่อตัวคล้ายเจลช่วยชะลอการย่อยอาหาร จึงมีส่วนช่วยลดคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเลือดได้ พบมากในข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ เมล็ดแฟลกซ์ พืชตระกูลถั่ว แอปเปิล กล้วย เป็นต้น ไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำ : ใยอาหารชนิดนี้จะเคลื่อนลงไปสู่ลำไส้ใหญ่และเพิ่มปริมาณอุจจาระที่จะขับถ่ายออก คนที่มีปัญหาถ่ายไม่คล่อง ท้องผูกประจำ ควรกินไฟเบอร์ที่ไม่ละลายน้ำ เช่น โฮลวีต รำข้าวสาลี พืชตระกูลถั่ว กะหล่ำดอก เป็นต้น ประโยชน์ของไฟเบอร์มีมากมายที่ส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายและสุขภาพโดยรวม อาทิ ช่วยลดโอกาสท้องผูก เพราะไฟเบอร์จะดูดซับน้ำ ช่วยเพิ่มน้ำหนัก เพิ่มขนาดของอุจจาระ และทำให้นิ่มลง จึงเคลื่อนที่ผ่านลำไส้ได้ง่ายขึ้น ทำหน้าที่เป็นเหมือนไม้กวาดช่วยดีท็อกซ์หรือล้างลำไส้ ด้วยการเพิ่มมวลของกากอาหารที่เคลื่อนที่ผ่านลำไส้ ทำให้ลำไส้บีบตัวได้ดีขึ้น พร้อมกับกวาดเอาอุจจาระเก่า ๆ ของเสีย สารพิษที่ตกค้างอยู่ตามผนังลำไส้ออกไปพร้อมกับอุจจาระ อาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคในลำไส้ เช่น ริดสีดวงทวาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ ถุงลมอักเสบในลำไส้ เพราะอุจจาระถูกขับออกมาง่ายขึ้นโดยไม่ต้องเบ่ง ลดการสะสมของเสียในร่างกาย ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำมีส่วนช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายดูดซึมคอเลสเตอรอลในอาหาร ส่งผลให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดลงลงได้ และอาจส่งผลดีต่อสุขภาพหัวใจ ไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำสามารถช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลในเลือด และไม่ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น จึงอาจช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานประเภทที่ 2 ให้ความรู้สึกอิ่มนาน ทำให้รับประทานอาหารน้อยลง ส่งผลดีต่อการควบคุมน้ำหนัก จะเห็นได้ว่า ไฟเบอร์มีข้อดีมากมาย ทว่าหากร่างกายได้รับไม่เพียงพออาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพหลายอย่าง โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับระบบขับถ่าย เช่น ท้องผูก ซึ่งเป็นปัญหายอดฮิตที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้คนจำนวนมาก นั่นจึงเป็นที่มาของการผลิต "อาหารเสริมไฟเบอร์" ที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ไฟเบอร์ยี่ห้ออะไรดี เป็นคำถามที่หลายคนอยากรู้…แต่ก่อนจะไปถึงจุดนั้น ลองพิจารณาวิธีเลือกซื้อเพื่อหาคำตอบให้กับตัวเองว่า ไฟเบอร์แบบไหนที่เหมาะกับเรา พิจารณาปริมาณไฟเบอร์ : สำหรับผู้ใหญ่ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป ควรได้รับไฟเบอร์ 25 กรัมต่อวัน (25,000 มิลลิกรัม) แต่หากวันนั้นรับประทานผัก-ผลไม้เยอะแล้วก็ไม่จำเป็นต้องกินไฟเบอร์เสริม หรืออาจเลือกไฟเบอร์เสริมในปริมาณที่ไม่สูงมาก เช่น 4-10 กรัม (4,000-10,000 มิลลิกรัม) แต่ถ้าท้องผูกเรื้อรัง ไม่ค่อยได้กินผัก-ผลไม้ ก็สามารถเลือกปริมาณไฟเบอร์ที่สูงขึ้น เช่น 15-25 กรัม (15,000-25,000 มิลลิกรัม) เป็นต้น พิจารณาชนิดของไฟเบอร์ที่เป็นส่วนผสม : อาหารเสริมไฟเบอร์มีทั้งชนิดละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ หรือมีทั้งสองชนิดรวมกัน จึงควรเลือกให้เหมาะกับความต้องการของตัวเอง สำหรับคนที่ต้องการไฟเบอร์มาช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น ลดการกินจุบจิบ ลดความอยากอาหาร หรือควบคุมระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอล ควรเลือกไฟเบอร์ชนิดละลายน้ำมากกว่าชนิดไม่ละลายน้ำ สำหรับคนที่เน้นเพิ่มกากใยอาหาร ช่วยกระตุ้นการขับถ่าย ลดอาการท้องผูก ควรเลือกไฟเบอร์ชนิดไม่ละลายน้ำมากกว่าชนิดละลายน้ำ เลือกไฟเบอร์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ : เช่น สารสกัดจากพืชผัก-ผลไม้ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอื่น ๆ ที่มีประโยชน์กับร่างกาย และทำงานร่วมกับระบบย่อยอาหารได้ดี อีกทั้งไม่ค่อยมีการปรุงแต่งมากนัก จึงค่อนข้างปลอดภัย พิจารณาสารอาหารอื่น ๆ : หากผลิตภัณฑ์นั้นมีโพรไบโอติกและพรีไบโอติก เช่น อินูลิน ฟรุกโตโอลิโกแซคคาไรด์ ก็จะยิ่งดี เพราะช่วยเสริมสร้างระบบย่อยอาหารและภูมิคุ้มกันให้สมดุล หรือบางแบรนด์อาจมีส่วนผสมของวิตามิน สารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ มาเพิ่มเติม ระวังส่วนผสมของยาถ่าย : ควรอ่านฉลากให้ชัดเจนว่าไฟเบอร์ยี่ห้อนี้มีส่วนประกอบของยาถ่ายหรือยาระบายหรือไม่ เพราะการใช้ต่อเนื่องอาจทำให้ลำไส้เสียสมดุลและเกิดภาวะดื้อยาได้ ระวังสารก่อภูมิแพ้ : ไฟเบอร์บางยี่ห้ออาจมีส่วนผสมที่บางคนแพ้ เช่น ข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต เป็นต้น พิจารณาวิธีรับประทานและการพกพา : อาหารเสริมไฟเบอร์มีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเม็ดกลม เม็ดแคปซูล เม็ดเคี้ยว ผงชง ผงโรยบนอาหาร กัมมี่ เจลลี่ สะดวกแบบไหนก็เลือกได้ตามความต้องการ เลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่เติมน้ำตาล : ควรเลือกแบรนด์ที่ระบุชัดเจนว่าไม่เติมน้ำตาล หรือมีน้ำตาลน้อย และถ้าเป็นไปได้ควรเลือกแบบที่มีโซเดียมต่ำด้วย ตรวจสอบข้อมูลบนฉลากให้ครบถ้วน : โดยต้องมีเลขทะเบียน อย. มีข้อมูลเรื่องส่วนผสม ข้อมูลโภชนาการ วิธีการรับประทาน ข้อควรระวัง คำเตือน วันผลิต วันหมดอายุ ระบุไว้บนกล่องผลิตภัณฑ์อย่างชัดเจน มาถึงตรงนี้ตามมาดูกันว่า ไฟเบอร์ยี่ห้ออะไรดีที่คนธาตุหนักถูกใจกดไลก์ ในปี 2025 Prime Health Prebiotic Fiber ไฟเบอร์เกรดคุณภาพมาตรฐานเดียวกับที่ญี่ปุ่น ใน 1 ซองรวมสารสกัดจากธรรมชาติที่ช่วยกระตุ้นการขับถ่ายไว้ทั้งสารสกัดจากสับปะรด, ลูกยอ, มะขามป้อม, ผงขึ้นฉ่าย, ผงกล้วย, ผงแอปเปิลไซเดอร์, ผงไซเลียมฮัสก์ และยังมีพรีไบโอติก รวมแล้วให้ใยอาหารที่ละลายน้ำได้ 15,000 มิลลิกรัม ซึ่งเป็นปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละวัน นอกจากนี้ยังไม่มีน้ำตาล ไม่มีไขมัน แถมยังโซเดียมต่ำด้วย คนที่ได้ลองแล้วต่างก็บอกว่ารสสับปะรดเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ กินง่าย ถ่ายคล่อง ไม่ปวดบิด วิธีรับประทาน : 1 ซอง ผสมกับน้ำ 250 มิลลิกรัม ชงให้ละลายแล้วดื่มวันละ 1 ครั้ง (แนะนำให้ดื่มตอนเช้า) ราคาปกติ : 1 กล่อง (6 ซอง) 590 บาท ไฟเบอร์ NUUI ในรูปแบบเจลลี่เคี้ยวเพลิน พกพาง่าย คัดสรรส่วนผสมจากธรรมชาติมารวมไว้ 15 ชนิด เช่น สารสกัดจากทับทิม, อัลฟาฟา, กีวีสีทอง, บรอกโคลี, สาหร่ายเคลป์, ชาเขียว, มัลเบอร์รี, อินูลิน, ไซเลียมฮัสก์ ฯลฯ ให้ใยอาหาร 6,000 มิลลิกรัม (ชนิดละลายน้ำ 5,400 มิลลิกรัม และชนิดไม่ละลายน้ำ 600 มิลลิกรัม) จึงช่วยกระตุ้นการขับถ่ายให้สบายท้อง กินง่าย รสอร่อยแบบไม่เติมน้ำตาล วิธีรับประทาน : วันละ 1 ซอง และควรรับประทานพร้อมน้ำ 1-2 แก้ว ราคาปกติ : 1 กล่อง (10 ซอง) 490 บาท ไฟเบอร์มะขามตัวตึงที่ชาว 7-11 รีวิวกันเยอะ เพราะ 1 ซองให้ใยอาหารสูงถึง 15,000 มิลลิกรัม (15 กรัม) และมีเชื้อจุลินทรีย์โพรไบโอติก 40,000 ล้านตัว ช่วยให้ขับถ่ายได้ดีขึ้นโดยไม่ปวดบิด เสริมด้วยเบต้ากลูแคนจากเห็ดหลินจืด รสชาติออกจะหวาน ๆ อมเปรี้ยวเล็กน้อย เหมือนกินน้ำมะขามอย่างไรอย่างนั้น ซึ่งนอกจากไฟเบอร์มะขามแล้วก็ยังมีไฟเบอร์มะขาม MAX ที่ให้ใยอาหารเต็มแม็กซ์มาแบบ 25,000 มิลลิกรัม เหมาะกับคนธาตุหนักของจริง หรือถ้าไม่ชอบรสมะขาม เขาก็ยังมีไฟเบอร์มะนาว ไฟเบอร์ส้มเขียวหวาน ไฟเบอร์สับปะรด ไฟเบอร์เสาวรส ให้เลือกด้วย วิธีรับประทาน : 1 ซอง ผสมน้ำเย็น 200 มิลลิลิตร คนจนละลายแล้วดื่มก่อนนอนหรือเมื่อต้องการ ราคาปกติ : ซองละ 39 บาท หรือ 1 กล่อง (6 ซอง) 234 บาท ไฟเบอร์ GIFFARINE แบบผง กลิ่นน้ำผึ้งผสมมะนาว ให้ใยอาหาร 4,000 มิลลิกรัมต่อซอง ผสมผสานสารสกัดธรรมชาติจากผัก-ผลไม้ เช่น มะเขือเทศ ส้ม มิกซ์เบอร์รี ทับทิม อัลฟาฟา และยังมีใยอาหารชนิดละลายน้ำอย่างโพลีเด็กซ์โตรส, ไซเลียมฮัสก์, อินูลิน ฯลฯ จึงช่วยเพิ่มกากใยในระบบทางเดินอาหาร เหมาะกับคนที่ท้องผูก ท้องอืด ท้องเฟ้อ เป็นประจำ วิธีรับประทาน : วันละ 1 ซอง ก่อนมื้ออาหาร โดยเทลงในน้ำ 150-200 มิลลิลิตร คนผสมให้เข้ากันแล้วทิ้งไว้ประมาณ 3-5 นาที ก่อนรับประทาน และควรดื่มน้ำตามประมาณ 1-2 แก้ว ราคาปกติ : 1 กล่อง (10 ซอง) 120 บาท ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เวลวีเนส ไฟเบอร์พลัส ช่วยปรับลำไส้ให้สมดุลด้วยโพรไบโอติกและพรีไบโอติก 2,700 มิลลิกรัม พร้อมกับสารสกัดจากผัก-ผลไม้สูงถึง 24 ชนิด เช่น คลอโรฟิลล์จากอัลฟาฟา ถั่วขาว ส้มแขก ผลไม้ตระกูลเบอร์รี และสารต้านอนุมูอิสระอย่างไอโซฟาโวน เควอซิทิน ไลโคปีน เบต้าแคโรทีน เป็นต้น หลายคนที่ได้ชิมก็บอกว่าอร่อย ถ่ายง่ายจนท้องโล่งโดยไม่ปวดบิด วิธีรับประทาน : 1 ซอง ผสมกับน้ำ 150-200 มิลลิกรัม คนให้ละลาย รับประทานก่อนนอน ราคาปกติ : 1 กล่อง (7 ซอง) 1,590 บาท ไฟเบอร์กลิ่นไลม์จากแบรนด์โปรทริว่า ที่มีส่วนผสมของอินูลิน, ผงไซเลียมฮัสก์, สารสกัดจากผลส้มแขก, ผงบุก, ผงน้ำใบข้าวสาลี, สารสกัดจากชาเขียว, มะขามป้อม, แดนดิไลออน และผงซิตรัสไบโอฟลาโวนอยด์ รวม ๆ กันแล้วช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้ พร้อม ๆ กับให้ความรู้สึกอิ่มนานขึ้น ช่วยลดการรับประทานจุบจิบระหว่างวัน ดื่มแล้วอร่อย สดชื่นดับกระหายด้วยรสมะนาว วิธีรับประทาน : วันละ 1 ซอง ละลายในน้ำ 150 มิลลิกรัม หรือมากกว่าได้ตามต้องการ คนให้ละลายแล้วดื่มได้ทั้งตอนท้องว่างหรือหลังอาหาร ราคาปกติ : 1 กล่อง (7 ซอง) 1,590 บาท ไฟเบอร์ nutrilite ในเครือ amway ชนิดเม็ดเคี้ยว เมดอิน USA กระปุกนี้มีส่วนผสมของใยอาหารทั้งชนิดละลายน้ำ (1,186 มิลลิกรัม) และไม่ละลายน้ำ (840 มิลลิกรัม) ประกอบด้วย ใยอาหารจากอ้อย, ข้าวโอ๊ต, ข้าวสาลี, รำข้าวบาร์เลย์, อะเคเซีย, เลมอน, ถั่วเหลือง, ถั่วลันเตา, กระบองเพชร, แอปเปิล, อะเซโรลาเชอร์รี และแครอต พร้อมผสมกลิ่นส้มจากธรรมชาติ ช่วยให้เคี้ยวได้อย่างมีรสชาติ ไม่เจือสี และไม่ใช้วัตถุกันเสีย วิธีรับประทาน : ครั้งละ 3 เม็ด วันละ 1 ครั้ง ราคาปกติ : 1 ขวด (60 เม็ด) 1,285 บาท จริง ๆ แล้วไม่ได้มีคำแนะนำที่เป็นมาตรฐานว่ากินไฟเบอร์เวลาไหนดีที่สุด แต่สิ่งสำคัญคือควรเลือกเสริมไฟเบอร์ในเวลาเดียวกันของแต่ละวัน เพื่อให้ไฟเบอร์ทำงานได้อย่างสม่ำเสมอ และช่วยให้เราเข้าห้องน้ำได้เป็นเวลา โดยอาจพิจารณาตามความเหมาะสมของแต่ละคน ดังนี้ ช่วยให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น เป็นประโยชน์กับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือลดปริมาณการกินจุบจิบระหว่างวัน เพราะทำให้ความอยากอาหารลดลง และอาจช่วยให้ขับถ่ายในตอนบ่าย ๆ อีกทั้งเราสามารถดื่มน้ำได้ตลอดทั้งวัน จึงช่วยลดความเสี่ยงที่ไฟเบอร์จะอุดตันในลำไส้ ทั้งนี้ สำหรับคนที่ต้องกินยาหลังอาหารเช้า ไม่แนะนำให้กินไฟเบอร์ช่วงเช้า เพื่อไม่ให้ไฟเบอร์จับกับยาและลดอัตราการดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด เหมาะกับคนที่ต้องกินยารักษาโรคในช่วงเช้า เพราะไฟเบอร์จะได้ไม่รบกวนการดูดซึมของยา นอกจากนี้การกินไฟเบอร์ในช่วงเที่ยงยังช่วยควบคุมความอยากอาหารมื้อบ่าย และอาจส่งผลต่อเนื่องไปถึงมื้อเย็นที่เราจะรับประทานอาหารได้น้อยลง อย่างไรก็ตาม ต้องระวังว่าไฟเบอร์บางยี่ห้อที่มีฤทธิ์แรงหน่อย อาจทำให้เราต้องเข้าห้องน้ำในช่วงกลางดึกแทนที่จะขับถ่ายตอนเช้า อาหารเสริมหลายยี่ห้อมักแนะนำให้กินไฟเบอร์ก่อนนอน เพราะการที่ไฟเบอร์อยู่ในระบบทางเดินอาหารข้ามคืนจะช่วยให้อุจจาระนุ่มขึ้นและเพิ่มปริมาณกากใย กระตุ้นให้ขับถ่ายในช่วงเช้าที่เป็นเวลาทำงานของลำไส้พอดี แต่สิ่งที่ควรระวังก็คือ ช่วงกลางคืนเป็นเวลาที่คนไม่ค่อยดื่มน้ำแล้ว และหากดื่มน้ำไม่เพียงพอ ไฟเบอร์อาจอุดตันในลำไส้ ดังนั้น หลังจากกินไฟเบอร์ต้องดื่มน้ำตามมาก ๆ และอย่าเพิ่งนอนทันที เพื่อให้ไฟเบอร์มีเวลาพองตัวและเคลื่อนที่ในระบบทางเดินอาหาร ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการอุดตันและอาการไม่สบายท้อง ทั้งนี้ หากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะกินไฟเบอร์ตอนไหนดี แนะนำให้รับประทานตามคำแนะนำบนฉลากของแต่ละยี่ห้อที่แตกต่างกัน สำหรับคนที่สงสัยว่า กินไฟเบอร์ก่อนอาหาร หรือ กินไฟเบอร์หลังอาหารดี ประเด็นนี้ก็ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของแต่ละคนเช่นกัน หากต้องการให้ไฟเบอร์ช่วยควบคุมความอยากอาหารและช่วยให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น ก็ควรกินไฟเบอร์ก่อนอาหาร แต่ถ้ากินไฟเบอร์หลังอาหารก็จะช่วยเรื่องการย่อยอาหารและส่งผลดีต่อระบบขับถ่ายมากกว่า ที่สำคัญก็คือ ไม่ว่าจะกินไฟเบอร์เวลาไหนก็ต้องดื่มน้ำตามมาก ๆ ไฟเบอร์คือใยอาหารที่เราควรได้รับทุกวันอยู่แล้ว ไม่ว่าจะได้รับจากอาหารโดยตรงหรืออาหารเสริมก็คือไฟเบอร์เช่นเดียวกัน จึงสามารถรับประทานได้ทุกวัน หรืออาจเลือกรับประทานในวันที่ไม่ค่อยได้กินผัก-ผลไม้ เพื่อช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ปกติและรักษาสมดุลของลำไส้ อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจสงสัยว่า ถ้าวันไหนหยุดกินไฟเบอร์จะไม่สามารถขับถ่ายได้เองตามปกติหรือไม่ ต้องบอกว่า อาหารเสริมไฟเบอร์นั้นไม่ได้ทำให้มีอาการดื้อยาเหมือนกับยาระบายชนิดที่กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้ เพราะไฟเบอร์ไม่ได้มีฤทธิ์กระตุ้นลำไส้โดยตรง แต่จะไปเพิ่มปริมาณอุจจาระ ช่วยให้ลำไส้บีบตัวได้ดีขึ้นตามธรรมชาติ เมื่อหยุดกินก็ยังสามารถขับถ่ายได้ตามปกติหากได้รับไฟเบอร์จากอาหารและดื่มน้ำอย่างเพียงพอ เพื่อการรับประทานอย่างปลอดภัย นี่คือข้อควรระวังหลัก ๆ ในการกินอาหารเสริมไฟเบอร์ ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ 1-2 แก้ว และดื่มให้เพียงพอเรื่อย ๆ ตลอดทั้งวัน หลังรับประทานอาหารเสริมไฟเบอร์ เพื่อป้องกันภาวะการอุดตันของลำไส้ที่จะยิ่งทำให้ท้องผูกหนักกว่าเดิม ในช่วงแรกที่เพิ่งรับประทานไฟเบอร์ ควรรับประทานในปริมาณน้อยแล้วค่อย ๆ เพิ่มขนาด เพื่อให้ร่างกายปรับตัว เพราะการรับประทานไฟเบอร์ในปริมาณมากเกินไปอาจทำให้ท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะอาหาร หรือท้องเสียได้ ไฟเบอร์อาจลดการดูดซึมสารอาหาร รวมถึงวิตามินที่ละลายในไขมันอาจถูกขับออกไปก่อนที่ร่างกายจะดูดซึมได้เต็มที่ จึงไม่ควรกินมากเกินไป ผู้ที่รับประทานยาควรเว้นระยะห่างจากการกินไฟเบอร์อย่างน้อย 4 ชั่วโมง หรือปรึกษาแพทย์ก่อนกินอาหารเสริมไฟเบอร์ เพราะไฟเบอร์อาจมีผลต่อการดูดซึมของยาบางชนิด ทำให้ยาออกฤทธิ์ได้ไม่เต็มที่ เด็ก สตรีมีครรภ์ สตรีให้นมบุตร ไม่ควรรับประทานอาหารเสริมไฟเบอร์ ผู้ที่มีโรคประจำตัว โดยเฉพาะป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับลำไส้ เช่น ลำไส้แปรปรวน ลำไส้อุดตัน หรือเพิ่งผ่าตัดเกี่ยวกับลำไส้และกระเพาะอาหาร ไม่ควรรับประทานไฟเบอร์ หรือควรปรึกษาแพทย์ก่อน ผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคไต ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทาน เพราะอาจมีข้อจำกัดในการดื่มน้ำตามในปริมาณมาก ๆ อีกทั้งยังต้องกินยารักษาโรคประจำตัวอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งไฟเบอร์อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของยา อาหารเสริมไฟเบอร์ไม่มีผลในการป้องกันและรักษาโรค สิ่งสำคัญเพื่อสุขภาพที่ดีก็คือ ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และหลากหลายชนิด โดยเฉพาะผัก-ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี ที่จะช่วยเติมไฟเบอร์ธรรมชาติให้กับร่างกาย ควบคู่ไปกับการดื่มน้ำอย่างเพียงพอ ออกกำลังกาย ยืดเส้นยืดสาย เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหว ก็จะช่วยขจัดปัญหาท้องผูกได้ หากวันไหนรับประทานไฟเบอร์จากอาหารไม่เพียงพอ อาหารเสริมไฟเบอร์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยเพิ่มใยอาหารให้กับร่างกาย โพรไบโอติกแบบซอง ยี่ห้อไหนดี ปี 2025 อร่อย กินง่าย ช่วยปรับสมดุลลำไส้และการขับถ่าย อาหารที่มีโพรไบโอติกสูง สำหรับวีแกน-มังสวิรัติ เติมจุลินทรีย์ชนิดดีให้ร่างกาย 10 ผักที่มีโปรตีนสูง มาพร้อมไฟเบอร์และวิตามิน เลือกกินอะไรดี 9 ธัญพืชที่มีไฟเบอร์ละลายน้ำสูง ช่วยดักจับไขมัน 14 ของกินเล่นไฟเบอร์สูง แก้ท้องผูกก็เวิร์ก ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : PRIME HEALTH PHARMACEUTICAL, NUUIWORLD, เฟซบุ๊ก Posh-ไฟเบอร์มหาชน, giffarine.com, EVE'S STORE Co.,Ltd., Protriva, amway.co.th, สสส., mayoclinic, health.com (1), (2)
แสดงความคิดเห็น