สธ เตือนกินคลอโรฟิลล์มากไป ส่งผลให้ไตทำงานหนักได้




          สธ.ออกโรงเตือนประชาชนอย่ารับประทานคลอโรฟิลล์เกินวันละ 450 มิลลิกรัม เพราะอาจส่งผลให้ไตทำงานหนัก โดยเฉพาะเด็กอายุต่ำกว่า 4 ปี ที่อวัยวะภายในยังทำงานไม่เต็มที่ ห้ามกินเด็ดขาด

          เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2557 นายแพทย์บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา ได้เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องที่มีการถกเถียงกันถึงการโฆษณาสรรพคุณของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคลอโรฟิลล์นั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้มีความห่วงใยผู้บริโภค เกรงว่าผู้บริโภคจะตกเป็นเหยื่อแล้วหลงเชื่อคำโฆษณาเชิญชวนที่เกินจริงเหล่านี้ หาซื้อผลิตภัณฑ์เสริมอาหารคลอโรฟิลล์ดังกล่าวมารับประทาน 

          ทั้งนี้มีการวิจัยพบว่าการบริโภคคลอโรฟิลล์อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ มีผื่นคัน ลิ้นเปลี่ยนสีเป็นเหลืองหรือดำ และยังทำให้สีของปัสสาวะและอุจจาระเปลี่ยนเป็นสีเขียวได้ นอกจากนี้ยังอาจส่งผลทำให้อุจจาระร่วงได้อีกด้วย หากรับประทานมากเกินวันละ 450 มิลลิกรัม ก็อาจจะทำให้ไตทำงานหนักและส่งผลระยะยาวในอนาคตได้ 

          ดังนั้นการที่มีโฆษณาชวนเชื่อว่าน้ำคลอโรฟิลล์สามารถช่วยขับสารพิษและสารตกค้างต่าง ๆ ทำให้ผิวพรรณสดใส และบรรเทาอาการของโรคต่าง ๆ หรือแม้แต่การช่วยทำให้เด็กทารกสุขภาพแข็งแรงนั้น จึงไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าจริงหรือไม่ 

          นอกจากนี้จากที่มีการถกเถียงกันถึงเรื่องที่ให้เด็กรับประทานคลอโรฟิลล์แล้วจะสุขภาพแข็งแรงนั้น ยังพบว่าในกลุ่มเด็กแรกเกิดจนถึง 1 ปี ไม่ควรรับประทานเด็ดขาด ควรให้รับประทานนมแม่และอาหารเสริมตามวัย และไม่ควรให้เด็กอายุต่ำกว่ารับประทานผลิตภัณฑ์อาหารเสริมคลอโรฟิลล์ เนื่องจากร่างกายของเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 4 ปีนั้น อวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายยังทำงานได้ไม่เต็มที่ โดยเฉพาะไตที่ยังขับของเสียได้ไม่เต็มที่ หากได้รับสารคลอโรฟิลล์อาจจะทำให้ไตของเด็กทำงานหนักมากเกินไปได้ จึงควรให้เด็กในวัยนี้รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว

          โดยเลขาธิการฯ อย. ยังได้เพิ่มเติมอีกว่า ขอให้ผู้บริโภคใช้วิจารณญาณในการรับฟังโฆษณาชวนเชื่อเหล่านี้ให้ถี่ถ้วนก่อนจะตัดสินใจว่ามีความจำเป็นที่จะต้องดื่มน้ำคลอโรฟิลล์หรือไม่ และถ้าหากต้องการได้รับคลอโรฟิลล์จริง ๆ ก็สามารถรับประทานผักทดแทนได้ เพราะในผักผลไม้ก็มีสารคลอโรฟิลล์ในปริมาณที่ร่างกายต้องการเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีอาหารช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายอีกด้วย 

          และที่สำคัญอย่าได้หลงเชื่อสรรพคุณที่เกินจริง ที่ว่าจะช่วยรักษาและป้องกันโรคได้ เพราะจะทำให้เสียเงินโดยไม่จำเป็น แถมยังอาจจะได้รับผลข้างเคียงต่อสุขภาพที่คาดไม่ถึง พร้อมทั้งขอให้ผู้ประกอบการทุกรายเห็นแก่ความปลอดภัยของผู้บริโภคเป็นที่ตั้ง และอย่าโฆษณาด้วยลักษณะต่าง ๆ ที่เกินความเป็นจริง 

          สำหรับผู้ประกอบการรายใดที่โฆษณาผลิตภัณฑ์เกินจริง โอ้อวดสรรพคุณ จะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการลักลอบใส่สารอันตรายลงในผลิตภัณฑ์ จะเข้าข่ายอาหารปลอมมีโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000-100,000 บาท โดยถ้าหากผู้บริโภคเห็นการโฆษณาโอ้อวดเกินจริงผ่านช่องทางสื่อต่าง ๆ หรือโฆษณาหลอกลวงให้หลงเชื่อโดยการขายตรง สามารถแจ้งร้องเรียนมายังสายด่วน อย. 1556 หรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อจะได้ทำการตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป


อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
สธ เตือนกินคลอโรฟิลล์มากไป ส่งผลให้ไตทำงานหนักได้ อัปเดตล่าสุด 28 พฤศจิกายน 2557 เวลา 18:23:41 37,583 อ่าน
TOP
x close