ไขมันส่วนเกิน ศัตรูตัวฉกาจของการมีหุ่น ฟิต แอนด์ เฟิร์ม มาดูวิธีกำจัดไขมันออกจากร่างกายโดยไม่เสียมวลกล้ามเนื้อกันเถอะ
![ออกกำลังกาย ออกกำลังกาย]()
3. ลดความถี่และความหนักหน่วงในการเล่นเวตเทรนนิ่งลง

สำหรับคนที่อยากมีรูปร่างสวยและดูสุขภาพดี
การเผาผลาญไขมันส่วนเกินถือเป็นสิ่งที่จะต้องทำเป็นประจำ ซึ่งหลาย ๆ
คนมักจะเลือกใช้วิธีการออกกำลังกายหนัก
ๆ เพื่อเบิร์นไขมันออก แต่จริง ๆ
แล้ววิธีเหล่านั้นไม่ได้เบิร์นไขมันออกเพียงเท่านั้น
แต่ยังทำให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้ออีกด้วย
แล้วเราจะใช้วิธีไหนให้ไขมันส่วนเกินออกไปจากร่างกายและยังมีกล้ามเนื้อสวย ๆ
วันนี้กระปุกดอทคอมนำวิธีมาฝากกันจากเว็บไซต์ aworkoutroutine.com ค่ะ ขอบอกเลยล่ะว่าง่ายกว่าที่คิด แถมยังได้ผลชัวร์ 100% เลย
1. รับประทานโปรตีนให้เพียงพอ

โปรตีนเป็นสารอาหารสำคัญที่สุดที่ควรได้รับอย่างเพียงพอในทุกวัน เพราะมีส่วนสำคัญในการช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อ โดยสูตรคำนวณโปรตีนต่อวัน ก็คือทาน 1 กรัม ต่อทุกน้ำหนัก 1 ปอนด์ (0.45
กิโลกรัม) เช่น หากคุณหนัก 45 กิโลกรัม คุณก็ควรทานโปรตีนให้ได้ 100 กรัม
ระหว่างช่วงที่คุณกำลังต้องการเบิร์นไขมัน
ก็จะช่วยทำให้ร่างกายของคุณไม่สูญเสียมวลกล้ามเนื้อไปในขณะที่คุณกำลังเบิร์นไขมัน
แถมยังช่วยสร้างเสริมกล้ามเนื้อของคุณให้แข็งแรงอีกด้วย
ไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วนนะคะ
ตราบใดที่คุณรับประทานโปรตีนไขมันน้อยคุณก็วางใจได้เลยว่าจะไม่มีไขมันสะสมเพิ่มให้หนักใจค่ะ
2. ออกกำลังกายด้วยการโหนบาร์
คนส่วนใหญ่มักมีความเชื่อผิด
ๆ ว่าการโหนบาร์ หรือการยกน้ำหนัก ไม่ได้ช่วยเบิร์นไขมันออกจากร่างกายได้
จึงไปหักโหมออกกำลังกายด้วยวิธีอื่นที่ทำให้เบิร์นไขมันได้ และละเลยการรักษากล้ามเนื้อให้ยังคงแข็งแรง ทั้ง ๆ
ที่จริงแล้วการโหนบาร์และยกน้ำหน้กเป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยทำให้คุณสามารถเบิร์นไขมันได้โดยไม่สูญเสียมวลกล้ามเนื้อตามไปด้วย
นอกจากนี้ยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อของเราแข็งแรงมากขึ้นอีกด้วย
ซึ่งการรักษากล้ามเนื้อของเราให้ยังแข็งแรงในช่วงที่กำลังลดปริมาณไขมันส่วนเกินจะช่วยทำให้เรามีสุขภาพที่แข็งแรง
แถมยังทำให้ดูฟิต แอนด์ เฟิร์มด้วยล่ะค่ะ

ถึงแม้ว่าการการยกน้ำหนักจะช่วยเบิร์นไขมันส่วนเกินออกไปได้แบบไม่สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
แต่ในช่วงลดน้ำหนักก็ไม่ควรจะเล่นเวตเทรนนิ่งให้หนักจนเกินไป
และควรจะลดความถี่ในการเล่นเวตเทรนนิ่งลง เพราะในช่วงเบิร์นไขมัน
สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการเผาผลาญไขมันออกจากร่างกาย
ไม่ใช่การสร้างเสริมกล้ามเนื้อ
ถ้าหากเราทั้งเบิร์นไขมันและสร้างกล้ามเนื้อด้วยการเล่นเวตเทรนนิ่งอย่างหนักไปด้วย
แทนที่จะเบิร์นไขมันออกได้ก็อาจจะได้กล้ามเนื้อมาแทน
แถมยังไขมันก็ยังอยู่อีกด้วย
ดังนั้นจึงควรจะยกน้ำหนักแบบพอดีเพื่อให้มวลกล้ามเนื้อยังคงอยู่ในระดับปกตินะคะ
4. รับประทานอาหารก่อนและหลังออกกำลังกาย
แม้อาจจะดูขัดกับความรู้สึกไปเสียหน่อย
แต่การรับประทานอาหารทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกายจะช่วยทำให้คุณสามารถกำจัดไขมันส่วนเกินออกได้โดยที่ไม่สูญเสียกล้ามเนื้อค่ะ
ซึ่งจุดประสงค์หลักของการรับประทานอาหารก่อนออกกำลังกาย
คือเพื่อเป็นพลังงานให้ร่างกายในการออกกำลังกาย
ส่วนการรับประทานหลังออกกำลังกายนั้นมีจุดประสงค์คือช่วยฟื้นฟูพลังงานที่สูญเสียไปในการออกกำลังกาย
ทั้งนี้การรับประทานอาหารไม่ใช่ว่าจะรับประทานอะไรก็ได้นะคะ
แต่ควรจะรับประทานแค่เพียงคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนเท่านั้น
เพื่อให้คาร์โบไฮเดรตไปฟื้นฟูพลังงาน
และโปรตีนช่วยสร้างเสริมและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย
โดยมีสูตรการคำนวณปริมาณคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนที่จะต้องรับประทานดังนี้
โดยทั้งก่อนและหลังการออกกำลังกายควรรับประทานอาหารที่มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรต
0.25 กรัม ต่อน้ำหนัก 1 ปอนด์ (0.45 กิโลกรัม)
ของน้ำหนักที่ตั้งเป้าหมายไว้ค่ะ
5. อย่าลดปริมาณแคลอรีมากเกินไป

หลายคนมักใช้วิธีการจำกัด หรือการลดปริมาณแคลอรีควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ซึ่งขอบอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีเลยล่ะค่ะ
เพราะการที่คุณจำกัดปริมาณแคลอรีลงจะทำให้พลังงานที่คุณต้องใช้ในการออกกำลังกายลดลงไปด้วย
และเมื่อร่างกายมีพลังงานไม่เพียงพอ
ร่างกายก็จะดึงพลังงานจากในกล้ามเนื้อออกมาใช้
ส่งผลให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ และทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอลงอีกด้วย
นอกจากนี้การลดปริมาณแคลอรี่ให้น้อยลงจนเกินไปยังทำให้ร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูหลังจากออกกำลังกายได้อย่างเต็มที่ค่ะ
ดังนั้นควรจะรับประทานอาหารให้ร่างกายได้รับแคลอรีอย่างพอเหมาะจะดีกว่าค่ะ
6. วันออกกำลังกายกินมาก - วันพักกินน้อย
ในช่วงที่คนต้องการเบิร์นไขมันออกจากร่างกาย การรับประทานอาหารถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ แต่ถ้าหากรับประทานในปริมาณเท่ากันทุก
ๆ วัน แล้วไม่ได้ออกกำลังกายทุกวัน
ก็จะทำให้เราต้องเบิร์นมากขึ้นในวันที่ออกกำลังกาย
ดังนั้นเพื่อให้ร่างกายสามารถเบิร์นไขมันออกได้อย่างมีประสิทธิภาพและไม่หนักหน่วงเกินไปจนเป็นอันตราย
ก็ควรจะปรับปริมาณอาหาร และสารอาหารที่ได้รับต่อวัน
โดยหากวันไหนออกกำลังกายก็ควรจะรับประทานให้มากขึ้นอีกสักหน่อยเพื่อให้ร่างกายมีพลังงานในการออกกำลังกาย
และหากวันไหนที่เป็นวันพัก ก็ควรรับประทานน้อย ๆ
แต่พอดีเพื่อให้ร่างกายสามารถเผาผลาญได้หมดภายในวันนั้น
จะได้ไม่สะสมกลายเป็นไขมันในร่างกายไงล่ะ
7. หยุดพักการไดเอตอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์

เชื่อว่าคงมีคนจำนวนไม่น้อยที่ใช้วิธีการลดไขมันส่วนเกินด้วยการควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัด
ซึ่งอะไรที่มากเกินไปก็อาจจะส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ดังนั้นแทนที่คุณจะควบคุมอาหารอย่างเคร่งครัดไปตลอด
คุณควรจะปล่อยให้ตัวเองมีเวลา 1-2 สัปดาห์ที่จะการรับประทานอาหารตามปกติบ้าง
เพื่อให้ร่างกายสามารถกลับมาฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่
เพราะการที่ควบคุมอาหารนาน ๆ
อาจจะทำให้ร่างกายไม่สามารถฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
แต่ก็ไม่ควรจะพักหยุดพักการไดเอตในช่วงลดไขมันส่วนเกินบ่อย ๆ นะ
เพราะอาจจะต้องมากลุ้มใจกับตัวเลขบนตราชั่งแทนที่จะยิ้มออกได้เพราะสามารถลดน้ำหนักได้นั่นเอง
8. ลดการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ
การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอในช่วงที่ต้องการลดไขมันส่วนเกิน
เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะหักโหมมากเกินไป
ถึงแม้ว่าจะช่วยให้เผาผลาญแคลอรีได้เร็วขึ้น
แต่ก็จะส่งผลทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้เช่นเดียวกัน
เพราะเมื่อคุณออกกำลังกายอย่างหักโหมมากเกินไปคุณก็จะต้องรับประทานมากขึ้นเพื่อนำพลังงานไปทดแทนและฟื้นฟูร่างกาย
ดังนั้นควรหันมาออกกำลังกายแบบเบา ๆ แต่ทำอย่างสม่ำเสมอจะดีกว่า
ถึงแม้ว่าจะให้ผลช้ากว่าการออกกำลังกายแบบหนักหน่วง
แต่ก็ทำให้ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วกว่าค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 8 วิธีที่นำเสนอไป
หวังว่าคนที่กำลังต้องการเบิร์นไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายก็คงจะพอรู้กันแล้วใช่ไหมล่ะว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ต้องมานั่งสร้างกล้ามเนื้อกันใหม่หลังเบิร์นไขมัน
เห็นไหมว่า ไม่ต้องอดอาหารก็สามารถเบิร์นไขมันได้
แค่เพียงเราตั้งใจและทำอย่างถูกวิธี เอาล่ะ
อ่านจบแล้วใครที่กำลังใช้วิธีลดไขมันส่วนเกินด้วยวิธีผิด ๆ
อยู่ละก็รีบเปลี่ยนเดี๋ยวนี้เลยนะจ๊ะ