ปล่อยเลือด หรือเจาะเลือดที่นิ้ว ช่วยรักษาโรคเส้นเลือดในสมองแตกได้ ข้อมูลที่แชร์ว่อนโลกไซเบอร์มานานแรมปีเรื่องนี้ จะชัวร์หรือมั่วนิ่ม คำตอบอยู่ข้างล่างนี้
หลายคนอ่านแล้วเกิดคำถามขึ้นทันทีว่า วิธีการ "ปล่อยเลือด" เช่นนี้ ใช้ได้จริงหรือ ภายหลังจึงมีแพทย์ออกมาเตือนว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง
แต่ชาวเน็ตหลายคนก็ยังไม่ทราบ ยังคงแชร์ข้อความดังกล่าวนี้อยู่
ด้วยความหวังดีที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์
วันนี้ กระปุกดอทคอม จึงมานำข้อมูลดี ๆ จาก คุณหมอแมว และอาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาไขข้อสงสัยเรื่องนี้ให้ฟังอย่างชัดเจนอีกครั้ง ว่า ข้อมูลนี้่เป็นเพียงเรื่อง "ลวงโลก"!!! และขอให้หยุดแชร์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย
โดยก่อนหน้านี้ คุณหมอแมว พิรัตน์ โลกาพัฒนา ได้เคยโพสต์เตือนเรื่องนี้ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว แล้วว่า การเจาะเลือดที่ปลายนิ้วหรือที่หู เพื่อรักษาโรคเส้นเลือดโลหิตในสมองแตก เป็นการปฐมพยาบาลที่ผิด ตามเนื้อหาต่อไปนี้
"ขอความกรุณาหยุดแชร์เรื่อง การรักษาโรคเส้นเลือดโลหิตในสมองแตกด้วยการเจาะเลือดที่หู (หรือปลายนิ้ว)
![ปล่อยเลือดช่วยชีวิต ปล่อยเลือดช่วยชีวิต]()
0. เป็นสิ่งที่ผิด เป็นการปฐมพยาบาลที่ผิด
1. โลหิตในสมองแตก มักแยกไม่ได้จากเส้นเลือดในสมองตีบ (บางกรณีแยกได้ แต่จะแยกจริง ๆ ควรใช้ x-ray สมอง)
2. ในเส้นเลือดในสมองแตก จะเกิดการกดเบียดในเนื้อสมอง แรงดันในสมองมากขึ้น ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองลดลง ร่างกายจะตอบสนองโดยเพิ่มความดันในสมองให้สูงขึ้นเพื่อไปเลี้ยงสมอง ในการรักษาทางการแพทย์จะลดความดันแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น และทำก่อนรอการไปผ่าตัด ซึ่งการเจาะเลือดที่หูไม่ช่วยอะไร
3. ในบางรายที่เจาะแบบนั้นแล้วดีขึ้นเอง แปลว่าคนไข้เป็น "เส้นเลือดในสมองตีบ" ครับ และไม่ได้ดีขึ้นเพราะเจาะเลือดนะครับ เพราะเส้นเลือดสมองตีบบางราย โดยเฉพาะกลุ่มที่เรียกว่า TIA อาการจะดีขึ้นเอง
ดังนั้นจะเจาะเลือดที่ติ่งหู ปลายนิ้ว จะรำระบำหน้าท้อง หรือตัดเล็บเท้า หรือเปิดช่องพลังเพอร์ซิอุส นับ 1-2-3 เปิดการ์ตูนเน็ตเวิร์ก เปิดช่องเวิร์คพอยท์ให้คนไข้ดู ก็หายเหมือนกัน
4. ถ้ามีอาการทางสมองแบบนั้น ปากเบี้ยวหน้าเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาขยับไม่ได้ดี
สิ่งที่ควรทำคือ
ก. พาไปโรงพยาบาล เพราะไม่มีใครแยกได้ว่าเป็นเส้นเลือดสมองตีบหรือแตก และถ้าตีบ ไม่มีใครบอกว่าจะตีบชั่วคราวหรืออัมพาต
ข. ถ้าพาไปถึงโรงพยาบาลได้เร็วพอ ไปแล้วอาการหนักพอ ยังมีการให้ยากลุ่มที่ช่วยทะลวงลิ่มเลือดที่อุดตันให้กลับมาดีขึ้นได้
การมัวเสียเวลาหาเข็มมาเจาะเลือดที่หู จึงถ่วงเวลาในการพาคนไข้ไปหาหมอ นับเป็นการทำร้ายคนไข้อย่างแท้จริง
หยุดแชร์ "บาป" กันเถอะครับ
![เจาะเลือดนิ้ว เจาะเลือดนิ้ว]()
ขณะที่ อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็โพสต์ถึงข้อมูลนี้ลงในเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ระบุว่า หากเส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบ ต้องรีบพาไปโรงพยาบาล การเจาะเลือดที่ปลายนิ้วนั้นไม่ช่วยอะไรเลย
"เส้นเลือดในสมองแตก อย่ามัวแต่เอาเข็มจิ้มนิ้ว ให้รีบแบกไปโรงพยาบาล !!"
อันนี้ก็เป็น Forward mail ลวงโลกจากไต้หวัน ที่แพร่อยู่ในเน็ตไทยมาหลายปี บอกหลายทีแล้ว แต่ก็ยังแชร์กันต่อไป ... เรื่องคำแนะนำว่าถ้าเจอคนที่เส้นเลือดในสมองแตก ให้เอาเข็มเจาะเลือดออกจากปลายนิ้ว จะช่วยชีวิตได้
คือเรื่องเส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบเนี่ย มันเป็นเรื่องฉุกเฉินมาก ๆ ถ้าไม่รีบนำเข้าโรงพยาบาลไปส่งแพทย์โดยด่วนเนี่ย (เพื่อให้ยาสลายลิ่มเลือด หรือผ่าตัดฉุกเฉิน) สมองจะเสียหายถาวร จนถึงเสียชีวิตได้
ส่วนการเจาะเลือดที่ปลายนิ้วเนี่ยมันไม่ได้ช่วยอะไรครับ เจาะแล้วเลือดก็แข็งตัวปิดปากแผล ถ้ามัวแต่เสียเวลาหาเข็ม หาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ เจาะเลือดแล้วรอดูอาการอย่างที่ว่า ... จะกลายเป็นทำบาปต่อบุพาการีโดยไม่รู้ตัวนะครับ
(คิดขำ ๆ ว่า ถ้าเชื่อทฤษฎีลวงโลกนี้ว่า เจาะนิ้วแล้วจะให้มันระบายความดันเลือดได้อย่างที่โม้ไว้ คงต้องตัดมือทิ้ง ให้เลือดพุ่งกระฉูดเลย ... อย่าทำตามนะครับ)
จ่าพิชิต ขจัดพาลชน เขียนสรุปเรื่องนี้อย่างละเอียดไว้ในเพจดราม่าครับ ถึงวิธีดูอาการว่าเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ/แตก/ตัน หรือเปล่า รวมไปถึงดราม่าที่เพจเจ้าของไอเดียมาทะเลาะกับ หมอแมว พิรัตน์ โลกาพัฒนา ด้วย ฮะฮะ ลองเข้าไปดูกัน drama-addict.com
อ่านจบแล้ว เคลียร์ชัด ก็ขอให้หยุดแชร์ และบอกต่อ ๆ กันด้วยว่าข้อมูลนี้เป็นเรื่องเท็จ อย่าทำตามเด็ดขาด เพราะอันตรายเป็นอย่างมาก

เชื่อว่าหลายคนคงเคยอ่านข้อมูลเรื่อง "ปล่อยเลือด" ช่วยชีวิตผู้ที่มีอาการหลอดเลือดในสมองแตกฉับพลัน ที่แชร์กันมากมายในเฟซบุ๊กและส่งต่อเป็นฟอร์เวิร์ดเมล โดยข้อมูลดังกล่าวอ้างว่า เป็นความรู้ทางแพทย์แผนจีนของแพทย์ชาวไต้หวัน
ระบุว่า เมื่อเส้นเลือดฝอยที่อยู่ในสมองแตก จะมีเลือดไหลซึมออกมาช้า ๆ
สิ่งแรกที่ควรทำคือประคองผู้ป่วยให้เอนนั่งตัวตรงให้มั่น แล้วใช้เข็มฉีดยาหรือเข็มเย็บผ้าแทงเข้าไปที่ปลายนิ้วมือทั้งสิบของผู้ป่วยให้มีเลือดไหลออกมา แล้วอีกไม่นานผู้ป่วยจะฟื้นขึ้นมาเอง จากนั้นจึงค่อยนำส่งแพทย์ หากรีบอุ้มขึ้นรถพยาบาลไปหาแพทย์ทันที
โดยไม่ปล่อยเลือดก่อน
ผู้ป่วยอาจเกิดอาการช็อกขึ้นมาก่อนที่จะไปถึงโรงพยาบาล
ทำให้เส้นเลือดฝอยในสมองอาจแตกเกือบทั้งหมด
วันนี้ กระปุกดอทคอม จึงมานำข้อมูลดี ๆ จาก คุณหมอแมว และอาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มาไขข้อสงสัยเรื่องนี้ให้ฟังอย่างชัดเจนอีกครั้ง ว่า ข้อมูลนี้่เป็นเพียงเรื่อง "ลวงโลก"!!! และขอให้หยุดแชร์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ป่วย
โดยก่อนหน้านี้ คุณหมอแมว พิรัตน์ โลกาพัฒนา ได้เคยโพสต์เตือนเรื่องนี้ไว้ในเฟซบุ๊กส่วนตัว แล้วว่า การเจาะเลือดที่ปลายนิ้วหรือที่หู เพื่อรักษาโรคเส้นเลือดโลหิตในสมองแตก เป็นการปฐมพยาบาลที่ผิด ตามเนื้อหาต่อไปนี้
"ขอความกรุณาหยุดแชร์เรื่อง การรักษาโรคเส้นเลือดโลหิตในสมองแตกด้วยการเจาะเลือดที่หู (หรือปลายนิ้ว)

0. เป็นสิ่งที่ผิด เป็นการปฐมพยาบาลที่ผิด
1. โลหิตในสมองแตก มักแยกไม่ได้จากเส้นเลือดในสมองตีบ (บางกรณีแยกได้ แต่จะแยกจริง ๆ ควรใช้ x-ray สมอง)
2. ในเส้นเลือดในสมองแตก จะเกิดการกดเบียดในเนื้อสมอง แรงดันในสมองมากขึ้น ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองลดลง ร่างกายจะตอบสนองโดยเพิ่มความดันในสมองให้สูงขึ้นเพื่อไปเลี้ยงสมอง ในการรักษาทางการแพทย์จะลดความดันแค่ระดับหนึ่งเท่านั้น และทำก่อนรอการไปผ่าตัด ซึ่งการเจาะเลือดที่หูไม่ช่วยอะไร
3. ในบางรายที่เจาะแบบนั้นแล้วดีขึ้นเอง แปลว่าคนไข้เป็น "เส้นเลือดในสมองตีบ" ครับ และไม่ได้ดีขึ้นเพราะเจาะเลือดนะครับ เพราะเส้นเลือดสมองตีบบางราย โดยเฉพาะกลุ่มที่เรียกว่า TIA อาการจะดีขึ้นเอง
ดังนั้นจะเจาะเลือดที่ติ่งหู ปลายนิ้ว จะรำระบำหน้าท้อง หรือตัดเล็บเท้า หรือเปิดช่องพลังเพอร์ซิอุส นับ 1-2-3 เปิดการ์ตูนเน็ตเวิร์ก เปิดช่องเวิร์คพอยท์ให้คนไข้ดู ก็หายเหมือนกัน
4. ถ้ามีอาการทางสมองแบบนั้น ปากเบี้ยวหน้าเบี้ยว พูดไม่ชัด แขนขาขยับไม่ได้ดี
สิ่งที่ควรทำคือ
ก. พาไปโรงพยาบาล เพราะไม่มีใครแยกได้ว่าเป็นเส้นเลือดสมองตีบหรือแตก และถ้าตีบ ไม่มีใครบอกว่าจะตีบชั่วคราวหรืออัมพาต
ข. ถ้าพาไปถึงโรงพยาบาลได้เร็วพอ ไปแล้วอาการหนักพอ ยังมีการให้ยากลุ่มที่ช่วยทะลวงลิ่มเลือดที่อุดตันให้กลับมาดีขึ้นได้
การมัวเสียเวลาหาเข็มมาเจาะเลือดที่หู จึงถ่วงเวลาในการพาคนไข้ไปหาหมอ นับเป็นการทำร้ายคนไข้อย่างแท้จริง
หยุดแชร์ "บาป" กันเถอะครับ

ขณะที่ อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็โพสต์ถึงข้อมูลนี้ลงในเฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant ระบุว่า หากเส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบ ต้องรีบพาไปโรงพยาบาล การเจาะเลือดที่ปลายนิ้วนั้นไม่ช่วยอะไรเลย
"เส้นเลือดในสมองแตก อย่ามัวแต่เอาเข็มจิ้มนิ้ว ให้รีบแบกไปโรงพยาบาล !!"
อันนี้ก็เป็น Forward mail ลวงโลกจากไต้หวัน ที่แพร่อยู่ในเน็ตไทยมาหลายปี บอกหลายทีแล้ว แต่ก็ยังแชร์กันต่อไป ... เรื่องคำแนะนำว่าถ้าเจอคนที่เส้นเลือดในสมองแตก ให้เอาเข็มเจาะเลือดออกจากปลายนิ้ว จะช่วยชีวิตได้
คือเรื่องเส้นเลือดในสมองแตกหรือตีบเนี่ย มันเป็นเรื่องฉุกเฉินมาก ๆ ถ้าไม่รีบนำเข้าโรงพยาบาลไปส่งแพทย์โดยด่วนเนี่ย (เพื่อให้ยาสลายลิ่มเลือด หรือผ่าตัดฉุกเฉิน) สมองจะเสียหายถาวร จนถึงเสียชีวิตได้
ส่วนการเจาะเลือดที่ปลายนิ้วเนี่ยมันไม่ได้ช่วยอะไรครับ เจาะแล้วเลือดก็แข็งตัวปิดปากแผล ถ้ามัวแต่เสียเวลาหาเข็ม หาแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ เจาะเลือดแล้วรอดูอาการอย่างที่ว่า ... จะกลายเป็นทำบาปต่อบุพาการีโดยไม่รู้ตัวนะครับ
(คิดขำ ๆ ว่า ถ้าเชื่อทฤษฎีลวงโลกนี้ว่า เจาะนิ้วแล้วจะให้มันระบายความดันเลือดได้อย่างที่โม้ไว้ คงต้องตัดมือทิ้ง ให้เลือดพุ่งกระฉูดเลย ... อย่าทำตามนะครับ)
จ่าพิชิต ขจัดพาลชน เขียนสรุปเรื่องนี้อย่างละเอียดไว้ในเพจดราม่าครับ ถึงวิธีดูอาการว่าเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ/แตก/ตัน หรือเปล่า รวมไปถึงดราม่าที่เพจเจ้าของไอเดียมาทะเลาะกับ หมอแมว พิรัตน์ โลกาพัฒนา ด้วย ฮะฮะ ลองเข้าไปดูกัน drama-addict.com
อ่านจบแล้ว เคลียร์ชัด ก็ขอให้หยุดแชร์ และบอกต่อ ๆ กันด้วยว่าข้อมูลนี้เป็นเรื่องเท็จ อย่าทำตามเด็ดขาด เพราะอันตรายเป็นอย่างมาก
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก