ปวดตรงนั้น เมื่อยตรงนี้ เวียนหัว คลื่นไส้ เจ็บคอ คัดจมูก หรือแม้แต่เป็นไข้ เมื่อมีอาการเหล่านี้ เรายังออกกำลังกายกันได้หรือเปล่านะ อยากรู้ต้องรีบอ่าน
![ไม่สบายออกกำลังกายได้ไหม ไม่สบายออกกำลังกายได้ไหม]()
สำหรับคนที่ชอบและติดการออกกำลังกาย
การไม่ได้ออกกำลังกายแม้เพียงวันเดียวก็อาจจะทำให้รู้สึกไม่สบายเนื้อสบายตัวได้
แต่ถ้าเกิดว่ากำลังไม่สบายล่ะจะทำอย่างไร
จะให้ฝืนออกกำลังกายก็คงจะยิ่งทำให้ป่วยหนักกกว่าเดิม
แต่จะให้เลิกออกกำลังกายเลยในช่วงนั้นก็คงทำได้ยากใช่ไหมล่ะคะ
ดังนั้นวันนี้กระปุกดอทคอมเลยหยิบยกเรื่องการออกกำลังกายในช่วงที่ป่วยจากเว็บไซต์
health.com มาเล่าสู่กันฟัง ไปดูกันสิว่าป่วยแบบไหนที่ยังออกกำลังกายได้ แล้วป่วยแบบใดที่ห้ามออกกำลังกาย




1. ไอ

อาการไอและเจ็บคอ
เป็นอาการที่พบได้บ่อยซึ่งมีสาเหตุจากการใช้เสียงมากเกินไป
หรือแม้แต่อากาศเปลี่ยนแปลง
และโดยส่วนใหญ่ก็มักจะไม่ส่งผลกระทบอะไรนักกับการออกกำลังกาย
แต่ก็ควรที่จะหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักหน่วงและเข้มข้น
เพราะอาจจะทำให้ไอมากขึ้น ถ้าอยากออกกำลังกายละก็
ลองเลี่ยงมาออกกำลังกายเบา ๆ อย่างเช่นคาร์ดิโอแบบเบา ๆ หรือไม่ก็ยกน้ำหนัก
และหมั่นจิบน้ำบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้อาการบรรเทาลงได้อีกด้วยล่ะ
2. คัดจมูก น้ำมูกไหล
อาการคัดจมูกและมีน้ำมูกไหล
เป็นอาการที่หลาย ๆ คนรู้สึกรำคาญ เพราะจะทำให้หายใจได้ไม่สะดวก
บางคนถึงกับต้องหายใจทางปากเลยทีเดียว แต่ใช่ว่าคัดจมูก
น้ำมูกไหลแล้วจะไม่สามารถออกกำลังกายได้นะ
เพียงแค่หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ มาออกกำลังกายด้วยการเล่นโยคะ
แต่ต้องเลี่ยงท่าโยคะที่ต้องก้มหัวต่ำ ๆ หรือท่ากลับศีรษะ
เพราะจะยิ่งทำให้หายใจได้ไม่สะดวก
3. คลื่นไส้ อาเจียน หรือท้องเสีย
เมื่อเกิดอาการเหล่านี้ ไม่ควรออกกำลังกายเด็ดขาดค่ะ
เพราะจะยิ่งทำให้อาการหนักขึ้น ควรจะพักผ่อนโดยการนั่งสบาย ๆ
บนเก้าอี้หรือโซฟาตัวโปรด หรือไม่ก็กินยาแล้วนอนพักจะดีกว่าค่ะ
การที่คุณออกกำลังกายทั้ง ๆ ที่มีอาการเหล่านี้ จะทำให้คุณรู้สึกคลื่นไส้
อาเจียนได้ง่าย แถมอาการท้องเสียก็จะไม่บรรเทาลงอีกด้วยล่ะค่ะ
4. เป็นไข้

หลายคนมักจะคิดว่าเมื่อเป็นไข้
ควรจะออกกำลังกายให้เหงื่อออกเพื่อที่ไข้จะได้ลด แต่จริง ๆ
แล้วนั่นเป็นความคิดที่ผิดมหันต์เลยล่ะค่ะ
เพราะยิ่งเราเสียเหงื่อมากขึ้นร่างกายก็จะยิ่งอ่อนเพลีย
แถมการออกกำลังกายยังทำให้ร่างกายมีอุณหภูมิสูงขึ้นกว่าเดิม
และถ้าหากร่างกายมีอุณหภูมิสูงมากเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดการช็อกได้ค่ะ
ดังนั้นหากคุณรู้สึกเป้นไข้ ควรรับประทานยาแล้วนอนพักจะดีกว่านะ
5. อาการปวดหัวเล็กน้อย

อาการปวดหัว สิ่งที่ดีที่สุดคือการนอนพัก
แต่ถ้าหากคุณรู้สึกปวดหัวเพียงเล็กน้อยและอยากออกกำลังกาย
ขอแนะนำให้ออกกำลังกายแบบเบา ๆ อย่างเช่นการเดิน เป็นต้น
และเลี่ยงการออกกำลังกายที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายอย่างหนัก
หรือท่าทางที่จะต้องก้มหัวลงเป็นเวลานาน
เพราะจะทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงบริเวณศีรษะได้ไม่สะดวก
ส่งผลทำให้ปวดหัวไม่หายค่ะ และควรจะออกกำลังกายในที่ ๆ
อากาศถ่ายเทได้สะดวกด้วยนะคะ จะได้หายปวดหัวได้เร็วขึ้นไงล่ะ
6. อาการปวดเมื่อยตามส่วนต่าง ๆ
ตราบใดที่อาการปวดเหล่านั้นไม่ได้มาพร้อมกับอาการไข้
คุณก็สามารถออกกำลังกายได้อย่างสบาย ๆ เลยล่ะค่ะ
เพราะการออกกำลังกายจะทำให้เลือดไหลเวียนในร่างกายดีขึ้น
ส่งผลให้อาการปวดลดลง แต่ก็ไม่ควรจะออกกำลังกายหนัก ๆ และหักโหมจนเกินไป
ควรจะเลือกออกกำลังกายที่เบา ๆ
และเสี่ยงต่ออาการบาดเจ็บน้อยอย่างเช่นการยืดกล้ามเนื้อ หรือการว่ายน้ำ
จะได้ไม่ต้องกลัวว่าจะปวดยิ่งกว่าเดิมค่ะ
เห็นไหมว่าการออกกำลังกายในเวลาที่ไม่สบายไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
เรายังสามารถออกกำลังกายได้ตลอดหากเรารู้วิธีการออกกำลังกายอย่างถูกต้อง
ดังนั้นใครที่กำลังใช้ข้ออ้างว่าไม่สบายเพื่อที่จะไม่ออกกำลังกายละก็
หยุดเดี๋ยวนี้ แล้วมาออกกำลังกายเลยดีกว่าค่ะ
เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงไงล่ะจ๊ะ