ขนาดเต้านมสองข้างไม่เท่ากัน เป็นเรื่องปกติ
โดยธรรมชาติแล้ว เต้านมผู้หญิงจะมีขนาดเล็กใหญ่ต่างกันเล็กน้อยในแต่ละข้าง เนื่องจากร่างกายของผู้หญิงแต่ละคนมีความหนาแน่นของเนื้อเยื่อเต้านมทั้งสองข้างไม่เท่ากัน ซึ่งความแน่นของเนื้อเยื่อเต้านมนั้นก็ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันในร่างกายเรา รวมถึงยังเกี่ยวข้องกับพันธุกรรมด้วย แต่ในกรณีที่เต้านมมีขนาดต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ควรไปพบแพทย์ เพราะนี่คือสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งเต้านม
บริเวณหัวนม มีเส้นขน เป็นเรื่องปกติ
หากสาว ๆ ส่องกระจกตัวเองแล้วพบว่าบริเวณหัวนมของเรามีเส้นขนขึ้นนั้น ขอให้รู้ไว้เลยว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ ซึ่งปกติแล้วบริเวณหัวนมของเราจะมีเส้นขนขึ้นมาประมาณ 2-3 เส้น โดยที่ไม่เป็นผลกระทบใด ๆ ต่อร่างกาย แต่กรณีที่มีเส้นขนขึ้นมาก และดูไม่สวยงามก็สามารถกำจัดได้ด้วยการใช้แหนบถอน โกน ฟอกสี หรือเลเซอร์ก็ได้
การนวด-ตบหน้าอกไม่ทำให้เต้านมใหญ่ขึ้น
ตามธรรมชาติของหน้าอกแล้ว จะไม่สามารถเพิ่มไซส์ได้เองจากการนวด ออกกำลังกาย หรือแม้แต่การตบหน้าอกทุกวัน แต่จะเพิ่มขึ้นด้วยฮอร์โมนเพศของเรา ดังนั้น ใครที่ใช้วิธีการทรมานเต้านมตัวเองทุกวัน โดยเฉพาะการตบหน้าอกนั้นขอให้เลิกทำนะคะ เดี๋ยวหน้าอกจะช้ำเอา
สีของปานนม และเนื้อเต้านมคนละสีนั้นเป็นเรื่องธรรมชาติค่ะ เพราะบริเวณปานนมจะมีเซลล์เม็ดสีประกอบอยู่ใต้ชั้นผิวหนังด้วย จึงมีความเข้มและอ่อนไปตามสีผิวของแต่ละคน โดยเนื้อเต้านมจะมีสีเดียวกับสีผิวเรา ในขณะที่สีของปานนมจะมีสีคล้ำกว่า และจะมีสีเดียวกับหัวนมของเรา แต่ถ้าใครมีปัญหาเรื่องปานนมสีคล้ำมากผิดปกติ แนะนำว่าให้ไปพบแพทย์นะคะ เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งเต้านม
ผิวเต้านมมีรอยแตกลาย เป็นเรื่องปกติ
รอยแตกลายของผิวเต้านมส่วนใหญ่จะเกิดกับผู้หญิงตั้งครรภ์ในช่วงเดือนที่ 6-7 ค่ะ เพราะในช่วงนี้ร่างกายจะสะสมไขมันที่ใต้ชั้นผิวหนังมากกว่าช่วงอื่น โดยเฉพาะบริเวณเต้านม ทำให้เกิดเป็นรอยแตกลายที่ผิวเต้านม และยังสามารถเกิดขึ้นกับอวัยวะส่วนอื่นได้ด้วย เช่น หน้าท้อง สะโพก ใต้ท้องแขน และบั้นท้าย และถ้าเกิดรอยแตกลายแล้ว สาว ๆ ควรใช้ครีมทาผิวที่มีส่วนประกอบของวิตามินอีบำรุงผิวบริเวณที่แตกลายเป็นประจำทุกวัน ก็จะช่วยให้รอยแตกลายนั้นจางหายไปได้ค่ะ
หัวนมชี้อยู่ข้างเดียว เป็นเรื่องปกติ
ลักษณะของหัวนมที่ชี้อยู่ข้างเดียวนั้นถือเป็นเรื่องปกตินะคะ เพราะโดยเฉลี่ยร้อยละ 10-20 ของผู้หญิงจะมีหัวนมข้างใดข้างหนึ่งชี้ขึ้น และหัวนมอีกข้างหนึ่งจะหลุบลงเล็กน้อย แต่ไม่ถึงกับหัวนมบอดนะคะ โดยที่หัวนมจะตั้งอยู่ในระดับเดียวกัน แต่กรณีที่มีความผิดปกติก็คือ หัวนมข้างใดข้างหนึ่งรั้งขึ้นมามากกว่าอีกข้างหนึ่ง เมื่อบีบดูพบว่ามีน้ำเหลืองไหล หรือเลือดไหลออกมา สังเกตดูใกล้ ๆ พบแผล แตกนูนออกมาที่ผิวหัวนม อาการเหล่านี้ควรไปพบแพทย์อย่างด่วนค่ะ เพราะเข้าข่ายอาการของโรคมะเร็งเต้านม
คลำพบก้อนแข็งที่เต้านม ผิดปกติ
ถ้าสาว ๆ ลองเช็กมะเร็งเต้านมด้วยตัวเองแล้วคลำพบก้อนแข็งที่เต้านม ขอแนะนำว่าให้เช็กเพิ่มอีกหนึ่งวิธี คือโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย สังเกตดูว่าผิวเต้านมของเราเกิดรอยบุ๋มหรือไม่ หรือหัวนมถูกดึงรั้งลงหรือไม่ ถ้าใช่ ควรไปพบแพทย์ค่ะ เพราะก้อนแข็งที่คลำพบนั้นอาจเป็นถุงน้ำ หรือ ซีสต์ (Cyst) ที่สามารถพัฒนากลายเป็นเนื้องอกของเต้านมได้ แต่กรณีที่คลำพบก้อนนิ่ม ๆ ผิวเต้านมไม่มีรอยบุ๋มนั้นถือว่าปกติดีค่ะ
หน้าอกคล้อยลง เป็นเรื่องปกติ
สาว ๆ หลายคนที่อายุเริ่มมากขึ้นแล้ว อาจพบว่า หน้าอกคล้อยและเหลวลงเรื่อย ๆ ไม่เหมือนสมัยช่วงวัยรุ่น สาเหตุเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในร่างกาย เช่น ตั้งท้อง เข้าสู่วัยทอง อีกทั้งยังเป็นผลมาจากกิจกรรมที่ทำเป็นประจำด้วย เช่น วิ่ง กระโดด หรือเต้น เป็นต้น ดังนั้น การใส่ชุดชั้นในจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพยุงหน้าอกไม่ให้คล้อยลงตามแรงโน้มถ่วงของโลก และยังช่วยเก็บทรงเต้านม เพิ่มความสวยงามให้กับการแต่งตัวของเราอีกด้วย ที่สำคัญคือ เราควรเลือกสวมชุดชั้นในให้เหมาะกับกิจกรรมที่ทำ เช่น สวมสปอร์ตบราเมื่อออกกำลังกาย เป็นต้น หน้าอกของเราจะได้ไม่หย่อนก่อนวัยอันควรนั่นเอง
ฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงของเต้านม หากสาว ๆ สังเกตให้ดีจะพบว่า ในบางช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายเปลี่ยนแปลง เช่น ในช่วงก่อนมีประจำเดือน เรามักจะรู้สึกเจ็บหน้าอก คัดหน้าอก หน้าอกมีขนาดใหญ่ขึ้นเล็กน้อย หรือตอนท้องจะสังเกตว่าหัวนมมีสีคล้ำขึ้นจากเดิม หรือหน้าอกเหลว และคล้อยลงเมื่ออายุเริ่มมากขึ้น เป็นต้น แต่ถ้าใครที่มีอาการเจ็บเต้านมรุนแรง คลำดูพบก้อนแข็ง ควรไปพบแพทย์ เพราะคุณอาจเข้าข่ายเป็นโรคมะเร็งเต้านมได้ค่ะ อีกสิ่งหนึ่งที่ควรระวังคือ การใช้ยาคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน เพื่อทำให้ขนาดหน้าอกใหญ่ขึ้นเป็นวิธีที่อันตรายนะคะ เพราะยาคุมส่วนใหญ่ประกอบด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน หากร่างกายได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเกินไป หน้าอกใหญ่ขึ้นก็จริง แต่เราก็เสี่ยงโรคมะเร็งเต้านมได้เหมือนกัน ไม่คุ้มเลย !
การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรม ไม่ได้เหมาะกับผู้หญิงทุกวัย
การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยแมมโมแกรมนั้นไม่ได้เหมาะกับผู้หญิงทุกวัย แต่เหมาะกับผู้หญิงที่มีอายุ 40-74 ปี เพราะผู้หญิงในช่วงวัยนี้มีเนื้อเยื่อเต้านมเริ่มน้อยลง เมื่อฉายรังสีแล้วจะพบก้อนมะเร็งชัดเจนกว่านั่นเอง ซึ่งตามโรงพยาบาลส่วนใหญ่จะแนะนำให้ผู้หญิงวัยนี้ทำแมมโมแกรมร่วมกับอัลตราซาวด์เต้านมด้วยเพื่อผลที่แน่นอนกว่า แต่สำหรับผู้หญิงที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปนั้นเหมาะกับการตรวจคัดกรองมะเร็งด้วยอัลตราซาวด์เต้านมมากกว่าค่ะ อย่างไรก็ตาม สาว ๆ ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมอย่างน้อยปีละครั้งนะคะ เพราะถ้าหากรู้ตัวว่าเป็นมะเร็งเต้านมในระยะแรก ๆ ละก็ มีโอกาสหายขาดได้ค่ะ
สุขภาพของเต้านมผู้หญิงเป็นเรื่องสำคัญทีเดียวค่ะ ดังนั้น เราจึงต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติเป็นประจำทุกวัน ซึ่งถ้าหากพบว่ามีความผิดปกติอะไรซ่อนอยู่ เราจะได้รักษาอย่างทันท่วงทีนั่นเอง