เปลี่ยนนิสัยขี้หงุดหงิด ชอบเหวี่ยง ให้กลายเป็นคนใจเย็นอารมณ์ดีได้ ด้วยวิธีง่าย ๆ ไม่อยากเป็นคนขี้หงุดหงิดจนคนรอบข้างต้องเบือนหน้าหนี ก็ได้เวลาเปลี่ยนแปลงตัวเองกันแล้วจ้า
1. นอนหลับให้เพียงพอ
เรื่องอารมณ์หงุดหงิด
เหวี่ยง วีน เป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร แต่ถ้าหากเกิดขึ้นกับใครบ่อย ๆ
ก็อาจจะทำให้คนรอบข้างรู้สึกเบื่อหน่ายได้
เพราะคงไม่มีใครอยากจะอยู่ใกล้กับคนที่อารมณ์ไม่ดีตลอดเวลาหรอกใช่ไหมคะ
ดังนั้นวันนี้กระปุกดอทคอมก็เลยจะนำวิธีง่าย ๆ ที่หนุ่ม ๆ สาว ๆ
ที่มีนิสัยขี้หงุดหงิดจะเปลี่ยนนิสัยจากคนอารมณ์บูด ๆ เป็นคนที่อารมณ์ดี
และสดใสได้ตลอดทั้งวันมาฝาก รับรองว่าไม่ยากเกินไปที่จะทำ
แค่เพียงเริ่มทำเท่านั้นก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้แล้วล่ะ
การนอนหลับไม่เพียงพอเป็นสาเหตุที่ทำให้กลายเป็นคนขี้หงุดหงิดได้
และถ้ายิ่งนอนไม่เพียงพอติดต่อกันก็จะยิ่งทำให้หงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิม
เพราะแค่เพียงคุณนอนน้อยไป 1 - 2 ชั่วโมงในเพียงแค่คืนเดียว
ก็จะส่งผลกระทบไปถึงการนอนหลับของคืนต่อ ๆ ไป
และถ้าหากเป็นอย่างติดต่อกันไป 1
สัปดาห์ละก็ไม่ต้องพูดถึงเลยล่ะค่ะว่าการนอนไม่เพียงพอนั้นจะเปลี่ยนนิสัยให้คุณกลายเป็นคนขี้หงุดหงิดได้มากขนาดไหน
ดังนั้นถ้าไม่อยากเป็นคนขี้หงุดหงิด แค่เพียงนอนหลับไปให้เพียงพออย่างน้อย
8 ชั่วโมงต่อวัน และจะต้องเป็นเวลานอนที่ติดต่อกันด้วยนะ การหลับ ๆ ตื่น ๆ
ตลอดคืนก็ทำให้คุณนอนไม่เต็มอิ่มและหงุดหงิดได้เช่นกัน
2. ผ่อนคลายลงซะบ้าง
ความเครียด
เป็นสาเหตุหลักของอารมณ์หงุดหงิดเลยเชียวล่ะ
ซึ่งความเครียดส่วนใหญ่แล้วก็มักจะเกิดจากปัญหาต่าง ๆ
ที่เข้ามาทับถมดังนั้น แทนที่คุณจะไปเคร่งเครียดกับมันจนหัวระเบิด
คุณก็แค่ทำใจให้เย็นลองแล้วหันกลับไปมองปัญหา
ลองดูสิว่าปัญหาของคุณมีอะไรบ้าง และปัญหาใดที่คุณสามารถแก้ไขได้
ปัญหาใดที่คุณต้องยอมรับและร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นบ้าง
อย่าโทษตัวเองในสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ให้บอกกับตัวเองว่าคุณได้ทำในสิ่งที่คุณสามารถทำได้แล้ว
เมื่อคุณสามารถใจเย็นลงได้ อาการหงุดหงิดของคุณก็จะลดลงตามไปด้วยค่ะ
3. ดูแลตัวเองให้ดีกว่าเดิม
อีกปัญหาหนึ่งที่ทำให้คนเรามีนิสัยหงุดหงิดได้ง่าย ๆ
ก็คือภาพลักษณ์ของเราที่ดูไม่ดีนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นความอ้วน
หรือผิวพรรณที่ไม่สดใส ทำให้ดูโทรมจนตัวเองยังต้องหงุดหงิด
วิธีเหล่านี้แก้ไขได้ไม่ยาก
แค่เพียงคุณหันกลับมาดูแลตัวเองโดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายให้มากขึ้น
เมื่อคุณมีร่างกายที่แข็งแรงแล้วคุณก็จะมีอารมณ์ที่ดีขึ้น
นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงบุคลิกและภาพลักษณ์ตัวเองก็สามารถช่วยทำให้คุณรู้สึกกับตัวเองได้อีกด้วย
และเมื่อคุณชอบตัวเองมากขึ้น นิสัยขี้หงุดหงิด ก็จะหายไปอย่างแน่นอน
4. ทำในสิ่งที่ชอบ
เมื่อคนเรารู้สึกไม่มีความสุข
ก็มักจะต้องการให้คนอื่นได้รับรู้ผ่านอารมณ์หงุดหงิด เหวี่ยง วีน
ในขณะเดียวกันถ้าหากเรามีความสุข ได้ทำในสิ่งที่ชอบ
จิตใต้สำนึกของคุณก็ต้องการแสดงออกให้ผู้อื่นรับรู้เช่นกันว่าคุณมีความสุข
ดังนั้นแทนที่คุณจะปล่อยให้ตัวเองมีความทุกข์แล้วแสดงออกไปโดยไม่ได้ตั้งใจก็หาอะไรที่ทำแล้วมีความสุขดีกว่าเนอะ
เวลาที่อยู่กับคนอื่น ๆ คุณจะได้รู้สึกยิ้มแย้มตลอดเวลาไงล่ะ
5. พูดออกมา
หลายคนมักกลายเป็นคนขี้หงุดหงิดก็เพราะประหม่าและไม่กล้าพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา
วิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ก็คือการพูดออกมา
ลองหันไปหาเพื่อนสักคนที่แคร์คุณและห่วงใยคุณ ผลัดกันระบายถึงปัญหาที่พบเจอ
ก็จะทำให้คุณรู้สึกสบายใจมากขึ้น
แต่ถ้าหากปัญหาเหล่านั้นเป็นเรื่องที่คุณไม่สามารถบอกกับเพื่อนของคุณได้
ในปัจจุบันก็มีนักจิตบำบัดมากมายที่พร้อมจะช่วยรับฟังปัญหาของคุณ
และเมื่อคุณได้ระบายออกมาจนสบายใจแล้ว
ก็จะช่วยทำให้อารมณ์ที่ขุ่นมัวในใจของคุณดีขึ้น
นิสัยขี้หงุดหงิดของคุณก็จะหมดไปค่ะ
6. พบแพทย์
หากทุกวิธีที่แนะนำมาข้างต้นไม่สามารถทำให้คุณหายหงุดหงิดได้
วิธีสุดท้ายก็คือการไปพบผู้เชี่ยวชาญเพื่อปรึกษาถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
เพราะบางทีอารมณ์หงุดหงิดเหล่านี้ก็อาจจะเกิดขึ้นจากปัญหาสุขภาพที่คุณไม่รู้ตัวก็ได้ค่ะ
ซึ่งการรักษาทางการแพทย์จะช่วยทำให้นิสัยขี้หงุดหงิดของคุณลดลงได้ค่ะ
นิสัยขี้หงุดหงิดนั้นเป็นนิสัยที่ควรเปลี่ยนแปลงให้เร็วที่สุด
เพราะยิ่งเจ้านิสัยนี้อยู่กับเรานานมากเท่าใด
ก็จะยิ่งทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสุขภาพจิต
และบุคลิกภาพไปในทางที่ไม่ดีได้
คงไม่มีใครที่อยากจะกลายเป็นคนอารมณ์ร้ายหรอกเนอะ จริงไหมคะ