วิธีลดหน้าท้อง ท่าฟิตกล้ามท้องง่าย ๆ ออกกำลังกายลดหน้าท้องใช้เวลาเพียงไม่นาน เปลี่ยนพุงกะทิให้เป็นกล้ามท้องสุดเซ็กซี่ น่ามอง สาว ๆ ที่มีเวลาน้อยแต่อยากมีซิกแพคสวย ๆ ควรลอง
วิดพื้น (Plank jumps)
ท่าทำคาร์ดิโอหัวใจเบา ๆ
ด้วยการเคลื่อนไหวลำตัวส่วนบน โดยเริ่มจากนอนคว่ำตัว เท้าเหยียดตรง
จากนั้นใช้มือและเท้าดันตัวเองขึ้นมาจากพื้น ต่อมาให้ค่อย ๆ
งอศอกลงแนบกับลำตัว และราบฝ่าเท้า ทำต่อเนื่องให้ได้ประมาณ 30 วินาที
ท่าปีนเขา (Mountain climbers)
5 ท่าฟิตกล้ามท้องทันใจ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที
5 ท่าฟิตกล้ามท้องที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ ใช้เวลาทำไม่ถึง 10 นาทีค่ะ ซึ่งใครที่มีเวลาเหลือเฟือก็ควรทำให้ครบทุกท่านะคะ หรือถ้าใครมีเวลาจำกัด ก็เลือกเอาท่าโปรดไว้ทำประจำสักท่าหนึ่งก็ได้ สิ่งสำคัญในการฝึกท่าฟิตกล้ามเนื้อท้องนั้นก็คือ เราควรรู้ข้อจำกัดของร่างกาย หากไม่ไหวควรหยุดพักค่ะ
ซิทอัพ
- นอนหงาย เหยียดขาตรง ยกมือประสานกันไว้ที่ท้ายทอย
- เกร็งหน้าท้องไว้แล้วดันตัวขึ้นมา
- ค่อย ๆ ผ่อนลำตัวให้นอนราบลงเหมือนเดิม ทำซ้ำ 15 ครั้ง แต่สำหรับมือใหม่เพิ่งเริ่มฝึก ไม่ควรหักโหมนะคะ ทำเท่าที่ร่างกายไหว มิเช่นนั้นจะทำให้ปวดท้อง และปวดหลังได้
เกร็งท้อง และงอตัว (Vertical Toe Touches)
- นอนหงาย เหยียดแขนตรง
- ดันลำตัวขึ้นเล็กน้อย เพื่อเหยียดแขน และเหยียดขาขึ้นตรง
- งอลำตัวแล้วเกร็งหน้าท้องเอาไว้ หากใครที่สามารถโน้มตัวใช้ฝ่ามือแตะปลายเท้าได้ก็ควรทำนะคะ จะช่วยให้เห็นผลดียิ่งขึ้น แต่ใครที่ทำไม่ได้ให้อาศัยการเกร็งหน้าท้องเป็นหลัก
- ค่อย ๆ วางขาลง วางแขนลงในลักษณะยกเหนือศีรษะ แล้วทำซ้ำ 15 ครั้ง หรือแล้วแต่ความสามารถของร่างกาย
เกร็งกล้ามท้องด้านล่าง (Reverse Crunch)
หลังจากตื่นนอนตอนเช้า อย่าเพิ่งลุกจากเตียงไปไหน
สละเวลาสัก 10 นาทีมาทำท่ากายบริหารกันก่อน
ซึ่งเป็นท่าฟิตกล้ามท้องที่จะช่วยเปลี่ยนพุงสามชั้นให้เป็นซิกแพคงาม ๆ
ได้อย่างน่าทึ่ง ที่สำคัญคือ
ช่วยกระตุ้นให้ระบบเผาผลาญในร่างกายทำงานดีขึ้นด้วย
กินเยอะยังไงก็ไม่มีพุงให้เห็น จากเว็บไซต์ Read.Plesh.in แนะนำว่า สาว ๆ
ที่ขี้เกียจออกกำลังกาย ก็สามารถมีกล้ามท้องสวยน่ามองเหมือนเข้าฟิตเนสได้
เพียงแค่ฝึกทำ 5 ท่าฟิตกล้ามท้องให้ได้อย่างน้อยวันละ 10
นาทีเป็นประจำทุกวัน ไขมันหน้าท้องก็ไม่มากวนใจแล้ว
3 ท่าอุ่นเครื่องพร้อมลุยออกกำลังกายลดหน้าท้อง
3 ท่าวอร์มอัพต่อไปนี้ เป็นขั้นตอนสำคัญในการกระตุ้นเลือดลมให้เริ่มสูบฉีด รวมถึงกระตุ้นให้สมองของเราตื่นตัว และยังมีข้อดีคือ ช่วยเผาผลาญแคลอรีส่วนเกินได้มากขึ้นด้วย ซึ่งใช้เวลาไม่นานเพียงท่าละ 30 วินาทีเท่านั้นเอง แต่หากใครมีเวลาไม่มากจะเลือกทำแค่เพียงท่าเดียวก็ได้ค่ะ
3 ท่าอุ่นเครื่องพร้อมลุยออกกำลังกายลดหน้าท้อง
3 ท่าวอร์มอัพต่อไปนี้ เป็นขั้นตอนสำคัญในการกระตุ้นเลือดลมให้เริ่มสูบฉีด รวมถึงกระตุ้นให้สมองของเราตื่นตัว และยังมีข้อดีคือ ช่วยเผาผลาญแคลอรีส่วนเกินได้มากขึ้นด้วย ซึ่งใช้เวลาไม่นานเพียงท่าละ 30 วินาทีเท่านั้นเอง แต่หากใครมีเวลาไม่มากจะเลือกทำแค่เพียงท่าเดียวก็ได้ค่ะ
ท่าวิ่งอยู่กับที่ (High knees)
ท่าเรียกเหงื่อให้ร่างกายตื่นตัวนี้ เริ่มจาก
ยืนตัวตรง ฝ่าเท้าแยกกันเล็กน้อย
จากนั้นยกเข่าข้างขวาขึ้นให้สูงกว่าการวิ่ง งอข้อศอก
จากนั้นเหวี่ยงแขนขึ้นลงสลับข้างกัน ทำต่อเนื่องให้ได้ประมาณ 30 วินาที
วิดพื้น (Plank jumps)
ท่าปีนเขา (Mountain climbers)
ท่าเตรียมความพร้อมของกล้ามเนื้อให้มีความยืดหยุ่นดี
เริ่มจาก นอนคว่ำตัว แขนทั้งสองข้างเหยียดพื้น เท้าเหยียดตรง
ดันปลายเท้าขึ้น จากนั้น งอเข่าขวาขึ้นมาค้างไว้ที่ระดับอกให้พอเมื่อย
แล้วสลับไปงอเข่าซ้าย ทำต่อเนื่องให้ได้ประมาณ 30 วินาที
5 ท่าฟิตกล้ามท้องทันใจ ใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที
5 ท่าฟิตกล้ามท้องที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ ใช้เวลาทำไม่ถึง 10 นาทีค่ะ ซึ่งใครที่มีเวลาเหลือเฟือก็ควรทำให้ครบทุกท่านะคะ หรือถ้าใครมีเวลาจำกัด ก็เลือกเอาท่าโปรดไว้ทำประจำสักท่าหนึ่งก็ได้ สิ่งสำคัญในการฝึกท่าฟิตกล้ามเนื้อท้องนั้นก็คือ เราควรรู้ข้อจำกัดของร่างกาย หากไม่ไหวควรหยุดพักค่ะ
ซิทอัพ
ท่าซิทอัพเป็นท่าบริหารกล้ามท้องที่ยากที่สุด
แต่ทำแล้วเห็นผลไวกว่าท่าอื่น เพราะต้องอาศัยการเกร็งหน้าท้องเป็นหลัก
โดยเริ่มจาก
- นอนหงาย เหยียดขาตรง ยกมือประสานกันไว้ที่ท้ายทอย
- เกร็งหน้าท้องไว้แล้วดันตัวขึ้นมา
- ค่อย ๆ ผ่อนลำตัวให้นอนราบลงเหมือนเดิม ทำซ้ำ 15 ครั้ง แต่สำหรับมือใหม่เพิ่งเริ่มฝึก ไม่ควรหักโหมนะคะ ทำเท่าที่ร่างกายไหว มิเช่นนั้นจะทำให้ปวดท้อง และปวดหลังได้
เกร็งท้อง และงอตัว (Vertical Toe Touches)
ท่าฟิตกล้ามท้องท่านี้ช่วยทำให้เรียวขาของเรากระชับขึ้นได้ด้วยนะ โดยเริ่มจาก
- ดันลำตัวขึ้นเล็กน้อย เพื่อเหยียดแขน และเหยียดขาขึ้นตรง
- งอลำตัวแล้วเกร็งหน้าท้องเอาไว้ หากใครที่สามารถโน้มตัวใช้ฝ่ามือแตะปลายเท้าได้ก็ควรทำนะคะ จะช่วยให้เห็นผลดียิ่งขึ้น แต่ใครที่ทำไม่ได้ให้อาศัยการเกร็งหน้าท้องเป็นหลัก
- ค่อย ๆ วางขาลง วางแขนลงในลักษณะยกเหนือศีรษะ แล้วทำซ้ำ 15 ครั้ง หรือแล้วแต่ความสามารถของร่างกาย
เกร็งกล้ามท้องด้านล่าง (Reverse Crunch)
ท่าบริหารท่านี้ยังช่วยบรรเทาอาการกรดไหลย้อนได้ด้วยนะคะ โดยเริ่มจาก
- นอนหงายราบไปกับพื้น วางแขนทั้งสองข้างแนบลำตัว
- ดันลำตัวขึ้น เกร็งหน้าท้องเอาไว้
- ยกขาให้ขึ้นอยู่บริเวณหน้าอก งอเข่าเล็กน้อย จากนั้นวางขาราบลงแล้วทำซ้ำ 15 ครั้ง หรือแล้วแต่ความสามารถของร่างกาย
เกร็งท้อง ขาตั้งตรง (Leg Raises)
- นอนหงายราบไปกับพื้น วางแขนทั้งสองข้างแนบลำตัว
- ดันลำตัวขึ้น เกร็งหน้าท้องเอาไว้
- ยกขาให้ขึ้นอยู่บริเวณหน้าอก งอเข่าเล็กน้อย จากนั้นวางขาราบลงแล้วทำซ้ำ 15 ครั้ง หรือแล้วแต่ความสามารถของร่างกาย
เกร็งท้อง ขาตั้งตรง (Leg Raises)
ท่าบริหารนี้ง่ายที่สุด เราสามารถทำบ่อยแค่ไหนก็ได้ เพราะท่าไม่ซับซ้อนค่ะ โดยเริ่มจาก
- นอนหงายราบกับพื้น วางแขนแนบลำตัว
- เกร็งหน้าท้องขณะยกขาทั้งสองข้างขึ้น ทำซ้ำ 15 ครั้ง หรือแล้วแต่ความสามารถของร่างกาย
เกร็งท้อง ขาสลับ (Diagonal Crunches)
เกร็งท้อง ขาสลับ (Diagonal Crunches)
ท่าบริหารนี้ซับซ้อนที่สุด แต่ถ้าหากใครทำได้ รับรองว่ากล้ามท้องสวยงาม แถมมีเอวบางลงอีกด้วย โดยเริ่มจาก
- นอนหงายราบไปกับพื้น ฝ่ามือประสานกันไว้ที่ท้ายทอย
- ขาเหยียดตรง ยกขาขวาตั้งฉากขึ้นมาในระดับอก
- เกร็งท้องแล้วบิดลำตัวไปด้านตรงข้าม ให้ขาอีกข้างหนึ่งเหยียดตรง
- วางขาขวาลง แล้วสลับทำข้างละ 15 ครั้ง หรือแล้วแต่ความสามารถของร่างกาย
- นอนหงายราบไปกับพื้น ฝ่ามือประสานกันไว้ที่ท้ายทอย
- ขาเหยียดตรง ยกขาขวาตั้งฉากขึ้นมาในระดับอก
- เกร็งท้องแล้วบิดลำตัวไปด้านตรงข้าม ให้ขาอีกข้างหนึ่งเหยียดตรง
- วางขาขวาลง แล้วสลับทำข้างละ 15 ครั้ง หรือแล้วแต่ความสามารถของร่างกาย
อย่างไรก็ตาม
การบริหารกล้ามท้องตอนเช้าก็มีข้อควรระวังเล็กน้อยด้วยนะคะ นั่นคือ
หากไม่ได้วอร์มอัพร่างกายก่อน อาจทำให้เกิดอาการเคล็ด
เป็นตะคริวขณะทำกายบริหารได้นะคะ อีกสิ่งหนึ่งที่ควรคำนึงก็คือ
ไม่ควรทำกับพื้นแข็ง ๆ ค่ะ เพราะทำให้ปวดหลัง ทางที่ดีควรหาเสื่อโยคะ หรือ
ผ้าผืนหนา ๆ มารองก่อนทำทุกครั้งค่ะ
ก็จะช่วยให้ท่าฟิตกล้ามท้องของเราสนุกและปลอดภัยด้วย