ฟันเหลือง ปัญหาหนักใจที่ทำให้หลายคนถึงกลับหมดความมั่นใจ มาดูสาเหตุ วิธีแก้ฟันเหลือง ใครอยากฟันขาวละก็ไม่อ่านแล้วจะเสียใจ
ฟันเหลือง ปัญหาใหญ่ที่ทำลายความมั่นใจให้กับคนจำนวนไม่น้อย บางคนถึงกับกลายเป็นคนไม่ยอมยิ้มเพราะกลัวว่าคนอื่น ๆ จะเห็นฟันเหลือง ๆ ของตนเองเข้า และอาจจะรู้สึกรังเกียจได้ หลายคนพึ่งวิธีทางการแพทย์ในการขัดฟัน เคลือบฟัน เสียเงินไปก็หลายบาท แต่สุดท้ายก็กลับมาฟันเหลืองอยู่ดี นั่นก็เพราะว่าการรักษาด้วยวิธีเหล่านั้นเป็นเพียงการรักษาที่ปลายเหตุเท่านั้น แต่ต้นเหตุส่วนหนึ่งของฟันเหลืองจริง ๆ แล้วมาจากอาหารการกินของเราเองต่างหาก
อย่างที่เว็บไซต์ Lifehack ได้นำ 10 อาหารที่เป็นสาเหตุของฟันเหลืองมาฝากกันเพื่อให้ได้ทราบกันว่าอาหารและเครื่องดื่มชนิดใดที่ควรเลี่ยง หรือไม่ควรทานมากเกินไป และที่สำคัญ ก็ยังมีวิธีการป้องกันฟันเหลืองที่คุณสามารถทำได้เองง่าย ๆ มาฝากกันด้วย อยากฟันขาว และยิ้มได้อย่างมั่นใจต้องรู้จักเลี่ยงและป้องกันให้ดี
10 อาหารตัวการฟันเหลือง เลี่ยงได้เป็นดี
1. ไวน์แดงและไวน์ขาว
ใครที่ชอบดื่มไวน์เป็นประจำนี่ต้องระวังเลย
เพราะไม่ว่าจะเป็นไวน์ขาวหรือไวน์แดงก็สงผลให้ฟันเหลืองได้ทั้งนั้น
สาเหตุนั่นก็มาจากในไวน์ทั้ง 2
ชนิดนั้นมีสารแทนนินซึ่งเป็นสารที่มีสีเหลือง และสีน้ำตาล
แถมเวลาที่ดื่มเข้าไปยังจะทิ้งคราบสกปรกไว้บนฟันของคุณอีกด้วย
ดังนั้นถ้าไม่อยากฟันเหลือง
หลังจากดื่มไวน์ก็อย่าลืมดื่มน้ำตามเข้าไปสักแก้วนะ
2. กาแฟ
เครื่องดื่มที่ต้องดื่มเป็นประจำทุกเช้าอย่างกาแฟนี้
เป็นตัวการสำคัญเลยล่ะที่ทำให้ฟันเหลือง
การดื่มกาแฟเป็นประจำจะทำให้สีของกาแฟเกาะอยู่บนฟันทำให้กลายเป็นสีเหลืองไม่น่ามอง
ทางแก้ก็ไม่ยาก
แค่เพียงเติมนมลงไปในกาแฟเสียหน่อยให้สีอ่อนลงก็สามารถช่วยได้บ้างค่ะ
3. ชา
หลายคนชอบดื่มชา
ยิ่งชาเข้ม ๆ เนี่ย ยิ่งชอบ แต่รู้หรือเปล่าว่าการดื่มชาโดยเฉพาะชาดำ
ถ้าเข้มเกินไปก็ทำให้ฟันเหลืองได้
เพราะเจ้าชาเหล่านี้จะไปทำปฏิกิริยาบนเนื้อฟันและเปลี่ยนฟันที่เคยขาวให้เหลืองจนไม่น่ามองเลยล่ะ
ฉะนั้นถ้าไม่อยากฟันเหลืองเพราะชาก็ลดปริมาณความเข้มข้นลงดีกว่านะ
4. น้ำส้มสายชูบัลซามิก
น้ำส้มสายชูเข้มข้นที่มีสีเข้ม ๆ
อย่างน้ำส้มสายชูบัลซามิกนี่ล่ะค่ะตัวการกัดกร่อนฟันและทำให้ฟันเหลืองเลยล่ะ
การรับประทานบ่อย ๆ จะทำให้ฟันเหลืองได้อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ถ้ารับประทานเจ้าน้ำส้มชนิดนี้กับสลัดหรือผักโขมละก็
จะทำให้การเป็นกรดของน้ำส้มสายชูลดลงค่ะ
เครื่องเทศชนิดนี้ที่มีสีเหลืองเข้ม
สามารถทำให้ฟันของคุณเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้อย่างไม่ต้องสงสัย
แต่ถ้าคุณไม่รับประทานเจ้าเครื่องเทศชนิดนี้บ่อย ๆ ก็วางใจได้ค่ะ
แต่ถ้าคุณกลัวว่าการรับประทานผงกะหรี่ของคุณในคราวหน้าอาจจะทำให้ฟันเหลืองได้
ก็ลองเติมผักโขมลงไปในอาหารที่มีผงกะหรี่ด้วยก็ดีนะคะ
เพราะผักโขมจะช่วยป้องกันไม่ให้เคลือบฟันของคุณถูกจู่โจมด้วยสีเหลืองจากผงกะหรี่ค่ะ
6. ซอสมะเขือเทศ
สำหรับหลาย ๆ คน
ซอสมะเขือเทศอาจจะเป็นซอสชนิดโปรดที่นำมาใส่ในอาหารหรือไว้จิ้มกับของทอดใช่ไหมล่ะคะ
แต่รู้หรือเปล่าว่าการรับประทานซอสมะเขือเทศบ่อย ๆ
อาจจะทำให้ฟันของคุณเปลี่ยนเป็นสีเหลืองได้ เพราะจริง ๆ
แล้วในซอสมะเขือเทศก็มีกรดสูงเช่นกัน
ดังนั้นทางที่ดีก็ควรจะหลีกเลี่ยงรับประทานบ่อย ๆ
หรือรับประทานคู่กับผักโขมดีกว่านะ
7. ผลไม้ตระกูลเบอร์รี
ราสป์เบอร์รี
แบลคเบอร์รี และบลูเบอร์รี
ล้วนเป็นผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญต่อร่างกาย
ยกเว้นแต่สีของผลไม้เหล่านี้ที่มีสีเข้มจนอาจจะทำให้ติดฟันได้
ซึ่งจะทำให้ฟันเปลี่ยนเป็นสีไม่น่ามองเท่าไร
ดังนั้นถ้าหากคุณชอบรับประทานผลไม้ตระกูลเบอร์รีก็อย่าลืมดื่มน้ำตามเข้าไปด้วยหลังจากรับประทานเสร็จ
จะได้ช่วยล้างสีจากผลไม้เหล่านี้ออกจากฟันไงล่ะ
8. น้ำอัดลมและโซดา
น้ำอัดลมและโซดา นอกจากจะทำให้เกิดคราบหินปูนแล้ว
ก็ยังส่งผลให้ฟันเหลืองได้ เพราะน้ำอัดลมที่มีสีเข้ม
สีของน้ำสามารถดูดซึมเข้าสู่ฟันได้ ยิ่งถ้าเป็นน้ำอัดลมเย็น ๆ
ด้วยละก็ไม่ต้องพูดถึงเลย สีจะยิ่งดูดซึมได้มากขึ้นกว่าเดิมเลยเชียว
ทางที่ดีที่สุดก็คือหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอัดลมดีกว่า แต่ถ้าหากอดไม่ได้
ก็ดื่มนาน ๆ ครั้งจะดีกว่าค่ะ
9. ซอสถั่วเหลือง
การบริโภคซอสถั่วเหลืองมากเกินไปสามารถทำให้ฟันเหลืองได้
แถมยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วย
เพราะซอสถั่วเหลืองบางชนิดใช้กรดเพื่อช่วยให้ถั่วเหลืองที่หมักเปลี่ยนเป็นซอสถั่วเหลืองเร็วขึ้น
และกรดเหล่านั้นก็จะยังคงหลงเหลืออยู่จนถึงพวกเราที่เป็นผู้บริโภค
ดังนั้น ถ้าไม่อยากฟันเหลือง ก็ควรใช้ให้น้อยลง จะได้ฟันไม่เหลือง
แถมไม่ต้องกังวลกับปริมาณโซเดียมอีกด้วยค่ะ
10. หัวบีท
หลายคนอาจจะชอบดื่มน้ำบีทรูทหรือไม่ก็นำหัวบีทมาทำอาหาร
ซึ่งสีแดงเข้มของหัวบีท ทำให้อาหารน่ารับประทานมากขึ้น แต่การรับประทานบ่อย
ๆ ก็อาจจะทำให้ได้ของแถมเป็นฟันเหลือง ๆ แทน
ฉะนั้นคราวหน้าถ้าจะนำหัวบีทมาใช้
ควรล้างให้สะอาดก่อนเพื่อชำระล้างสีจากหัวบีท และถ้าหากดื่มเป็นน้ำ
ก็ควรดื่มน้ำตามมาก ๆ ด้วยนะคะ
ไม่อย่างนั้นสีของหัวบีทอาจติดฟันไม่น่ามองได้นะ
วิธีแก้ฟันเหลือง 6 วิธีง่าย ๆ ที่ควรทำถ้าอยากฟันขาว
1. อย่าแปรงฟันทันที
แม้ว่าการรับประทานอาหารที่มีกรดสูงหรืออาหารที่มีสีเข้มจะทำให้ฟันโดนกัดกร่อนและอาจจะทำให้ฟันเหลืองได้
แต่ก็ไม่ควรจะแปรงฟันในทันที
เนื่องจากหลังจากการรับประทานอาหารที่มีกรดสูง ฟันของเราจะบอบบางลง
หากแปรงฟันในทันทีก็อาจจะทำให้ผิวเคลือบฟันเสียได้ ควรจะรออย่างน้อย
ครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยแปรงฟันจะดีกว่านะคะ
2. อย่าลืมแปรงลิ้น
หลายคนเวลาแปรงฟันมักจะชอบลืมแปรงลิ้น
เพราะลิ้นเป็นแหล่งสะสมของเสีย หากคุณไม่แปรงลิ้นด้วย
ถึงแม้ว่าจะแปรงฟันสะอาดขนาดไหนฟันของคุณก็จะยังคงเหลืองอยู่ดี
คราวหน้าถ้าแปรงฟันก็อย่าลืมแปรงลิ้นด้วยนะคะ
เพราะถ้าลิ้นสะอาดแล้วไม่เพียงแต่ฟันจะขาวแต่กลิ่นปากก็จะยังหอมสดชื่นอีกด้วย
3. ใช้น้ำส้มสายชูหมักแอปเปิล
น้ำส้มสายชูถือเป็นดาบสองคมที่สามารถทำลายผิวเคลือบฟันได้หากรับประทานบ่อย
ๆ แต่ก็สามารถทำให้ฟันขาวได้ หากใช้บ้วนปากเดือนละครั้ง
ซึ่งความเชื่อนี้เชื่อกันว่าการแปรงฟันด้วยยาสีฟันปกติ
และบ้วนปากด้วยน้ำส้มสายชูหมักแอปเปิลสามารถทำให้ฟันขาวได้
แต่ก็ควรระมัดระวังในการใช้
เพราะหากใช้ในปริมาณที่เข้มข้นเกินไปอาจจะทำให้ผิวฟันถูกกัดกร่อนได้
และควรบ้วนปากด้วยน้ำสะอาดตามด้วยนะคะ
4. รับประทานแอปเปิล เซเลอรี และดอกกะหล่ำ
ถ้าคุณชอบผลไม้ประเภทเบอร์รีเพราะมีวิตามินสูง
แต่กลัวว่าฟันจะเหลือง คราวหน้าก็อย่าลืมรับประทานผลไม้ประเภทแอปเปิลด้วยนะ
เพราะแอปเปิลนั้นสามารถช่วยล้างสีของผลไม้ที่มีสีเข้มออกได้
แค่เพียงเคี้ยว แอปเปิลก็จะทำหน้าที่เหมือนแปรงสีฟันชำระล้างสีออกได้ง่าย ๆ
นอกจากนี้ผักอย่างเซเลอรีและดอกกะหล่ำที่เรานำมาทำอาหารก็สามารถช่วยได้เช่นกันค่ะ
5. ดื่มน้ำหลังจากรับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวทุกชนิดจะมีกรดที่สามารถกัดกร่อนผิวเคลือบฟันได้
ถ้าไม่อยากให้ผิวเคลือบฟันถูกทำลายก็ควรดื่มน้ำตามทุกครั้งทันทีหลังจากรับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
เพื่อน้ำสะอาดจะได้ชำระล้างกรดที่อยู่บนฟันออกไป
6. ไปพบทันตแพทย์ทุก ๆ 6 เดือน
แม้ว่าวิธีต่าง ๆ ที่นำเสนอมาจะช่วยให้ฟันขาว
และป้องกันไม่ให้ฟันเหลืองได้ แต่การไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันทุก ๆ 6
เดือน ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะการขัดหินปูนและการเคลือบฟัน
จะช่วยทำให้ฟันของเราแข็งแรงและขาวขึ้น
ขณะที่การตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำนั้นก็สามารถลดปัญหาที่เกิดภายในช่องปากอันเป็นสาเหตุของกลิ่นปากอันไม่พึงประสงค์ได้อีกด้วยนะ
สุขภาพช่องปากเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะหากเราดูแลสุขภาพช่องปากให้ดี
ไม่ว่าจะปัญหาฟันเหลือง หรือกลิ่นปากก็จะไม่มีมากวนใจ
แถมยังเสริมสร้างความมั่นใจให้เราได้อีกด้วย
ได้ทราบสาเหตุของฟันเหลืองและวิธีป้องกันแล้วแบบนี้ก็อย่าลืมนำไปใช้ล่ะ
เพื่อที่จะได้ยิ้มได้กว้าง ๆ อย่างมั่นใจกันมากขึ้น