ไข้หวัดใหญ่ H3N2 รู้ให้ทัน ก่อนตื่นตระหนก

ไข้หวัดใหญ่ H3N2 รู้ให้ทัน ก่อนตื่นตระหนก


          ไข้หวัดใหญ่ H3N2 โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ที่กำลังตกเป็นข่าว มาดูกันสิว่าไข้หวัดH3N2 นั้นมีที่มา อาการ การรักษาและการป้องกันอย่างไร แล้วอันตรายอย่างที่อยู่ในกระแสข่าวจริงหรือไม่ 

          ในช่วงไม่นานมานี้ หลาย ๆ คนอาจจะเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับเชื้อโรคไข้หวัดใหญ่ H3N2 ที่ระบาดในฮ่องกงจนมีผู้คนเสียชีวิตแล้วกว่า 200 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 4 มีนาคม 2558) และยังมีผู้ติดเชื้อนี้ในประเทศไทยด้วย จนทำให้เกิดการเล่าลือกันไปว่าเจ้าเชื้อโรคสายพันธุ์นี้เป็นสาย­­­พันธุ์ที่อันตราย สร้างความหวาดกลัวกันเป็นวงกว้าง แต่หลายคนก็ยังคงอยากรู้ว่าจริง ๆ แล้วเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H3N2 นั้นเป็นอย่างไรกันแน่ วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับเชื้อไข้หวัดใหญ่­­­สายพันธุ์นี้กัน เพื่อความเข้าใจและเพื่อการเตรียมพร้อมรับมือกันได้แบบไม่ต้องต­­­ื่นตระหนกค่ะ 

 ไข้หวัดใหญ่ H3N2 คืออะไร 

ไข้หวัดใหญ่ H3N2 รู้ให้ทัน ก่อนตื่นตระหนก

          ไข้หวัดใหญ่ H3N2 หรือไข้หวัดสุกรนั้น เป็นไข้หวัดใหญ่ที่มีแหล่งกำเนิดมาจากหมู มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า H3N2V โดยเชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดนี้มักจะมีอาการคล้ายกับโรคไข้หวัดใหญ่­­­ทั่วไป จึงทำให้คนเข้าใจผิดว่าเป็นเพียงไข้หวัดใหญ่ธรรมดาเท่านั้น แต่ความรุนแรงของโรคนี้จะมีมากกว่าไข้หวัดใหญ่ทั่วไป และอันตรายน้อยกว่าไข้หวัดนก เพราะไม่สามารถติดต่อกันได้ง่ายเหมือนไข้หวัดนกค่ะ 

          ทั้งนี้ในแต่ละปีไข้หวัดสายพันธุ์นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปทำให้­­­ในทุก ๆ ปีจะมีการระบาดในสายพันธุ์ที่แตกต่างกัน อย่างเช่นการระบาดในครั้งแรกเมื่อปี 2011 ในประเทศสหรัฐอเมริกา ก็ยังจะเป็นการระบาดในสายพันธุ์ไอโอวา ส่วนในปี 2015 นั้นสายพันธุ์ที่เกิดการระบาดในฮ่องกง เป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A H3N2 สายพันธุ์สวิสเซอร์แลนด์ซึ่งจะมีความรุนแรงแตกต่างกัน แต่ลักษณะ­โดยรวมก็จะมีอาการเหมือน ๆ กันค่ะ 

 ลักษณะการแพร่เชื้อ 

          ไข้หวัดใหญ่ H3N2 สามารถแพร่เชื้อจากหมูสู่คนได้จากการรับประทานเนื้อหมูที่มีเชื­­้อไวรัสนี้อยู่ หรือจะเป็นการสัมผัสโดยตรงกับสุกรที่ติดเชื้อ นอกจากนี้การแพร่เชื้อจากคนสู่คนยังมีการแพร่กระจายเช่นเดียวกั­­­บการแพร่เชื้อของไข้หวัดใหญ่ทั่วไป อาทิเช่นการสัมผัสอย่างใกล้ชิดกับผู้ป่วยก็อาจทำให้เกิดการติดเ­­­ชื้อได้ หรือหากผู้ป่วยจามหรือไอใส่ก็ทำให้ติดเชื้อได้เช่นกัน โดยระยะในการฟักตัวของเชื้อไวรัสชนิดนี้อยู่ที่ประมาณ 1 - 3 วันค่ะ 

 กลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H3N2 

          เนื่องจากเป็นไข้หวัดใหญ่ที่มีสาเหตุมาจากสัตว์ เกษตรกรที่ทำฟาร์มสุกรก็อาจจะมีความเสี่ยงในการติดเชื้อโดยตรงจ­­­ากสุกรได้ ในขณะที่การระบาดจากคนสู่คน กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงคือคนที่มีภูมิต้านทานต่ำ เด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยด้วยโรคเรื้อรัง เด็กที่ได้รับการรักษาด้วยยาแอสไพรินมาเป็นเวลานาน หญิงตั้งครรภ์ในระยะที่ 2 ผู้ที่เป็นโรคอ้วน หรือมีน้ำหนักมากกว่า 100 กิโลกรัมขึ้นไป รวมทั้งผู้ป่วยที่มีความพิการสมองที่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได­­­้ ซึ่งในกลุ่มคนเหล่านี้อาจมีอาการรุนแรงหรือเสียชีวิตได้หากได้ร­­­ับการรักษาที่ไม่ถูกต้องค่ะ 

 ลักษณะอาการของผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H3N2 

ไข้หวัดใหญ่ H3N2 รู้ให้ทัน ก่อนตื่นตระหนก

          อาการของไข้หวัดใหญ่ H3N2 โดยส่วนใหญ่ไม่มีอาการรุนแรงและมีอาการเช่นเดียวกับไข้หวัดใหญ่­­­ทั่วไป ซึ่งได้แก่ ไข้ขึ้นสูงแบบเฉียบพลัน ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ไอ เจ็บคอ และมีน้ำมูก แต่อาการเหล่านี้สามารถหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ ทั้งนี้ในกลุ่มเสี่ยงก็ควรได้รับยาและการดูแลจากแพทย์อย่างใกล้­­­ชิดเพื่อไม่ให้เกิดอาการแทรกซ้อนค่ะ 

 วิธีการรักษา 

          วิธีการรักษาของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้สามารถรักษาได้เช่นเดีย­­­วกับการรักษาโรคไข้หวัดใหญ่ทั่วไป โดยให้ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) และซานามิเวียร์ ภายใน 48 ชั่วโมงแรกหลังจากเริ่มมีอาการ และมีอาการรุนแรง หรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรครุนแรง ทั้งนี้ผู้ป่วยยังต้องอยู่ในดุลพินิจของแพทย์ 

 วิธีการป้องกัน 

          การป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ H3N2 คือการป้องกันตัวและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอและควรหลีกเล­­­ี่ยงการสัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อหรือการสัมผัสกับน้ำลายหรือน­­้ำมูกของผู้ป่วย และควรจะให้ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ H3N2 สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันเชื้อโรคแพร่กระจายจากการไอหรือจา­­­ม รวมทั้งผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงก็ควรไปรับการฉีดวัคซีนป้องกันไ­­­ข้หวัดใหญ่สายพันธุ์นี้อีกด้วยเพื่อเป็นการป้องกันอีกทางหนึ่ง­­ค­่ะ 

 สถานการณ์ล่าสุดของการแพร่ระบาดเชื้อไข้หวัดใหญ่ H3N2 

          เนื่องจากมีข่าวลือแพร่สะพัดเกี่ยวกับความอันตรายของไข้หวัดสาย­­­พันธุ์ H3N2 ว่าทำให้เกิดการเสียชีวิต รวมทั้งยังมีข่าวลือที่ว่าเชื้อไวรัสชนิดดังกล่าวกลายพันธุ์ทำใ­­­ห้เกิดการดื้อยา 

          ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล จึงได้ออกมาแถลงให้ทราบว่าไม่ใช่เรื่องจริงแต่อย่างใด เพราะการระบาดของไข้หวัดใหญ่ H3N2 สายพันธุ์สวิตเซอร์แลนด์ที่กำลังระบาดนี้ ในประเทศไทยการระบาดไม่มีความรุนแรง รวมทั้งเชื้อไวรัสดังกล่าวก็ไม่ได้มีการกลายพันธุ์ทำให้เกิดการ­­­ดื้อยาแต่อย่างใด ส่วนผู้ที่เสียชีวิตนั้นก็มีสาเหตุการเสียชีวิตมาจากการติดเชื้­­­อแบคทีเรีย ขณะที่ผู้ป่วยที่ติดเชื่อไข้หวัดใหญ่ H3N2 ในตอนนี้สามารถรักษาจนหายเป็นปกติและกลับบ้านได้แล้วค่ะ 

          นอกจากนี้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยังได้เปิดเผยถึงเรื่องการจัดเตรียมวัคซีนสำหรับปี­นี้ว่าจะมีการเริ่มฉีดเร็วขึ้น โดยจะเริ่มฉีดให้ตั้งแต่เดือนเมษายน จากเดิมที่จะเริ่มประมาณเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้องค์การเภสัชกรรมก็ยังได้เตรียมพร้อมวัตถุดิบในการผลิตย­าโอเซลทามิเวียร์ ที่ใช้ในการต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ไว้ประมาณ 3,000 กิโลกรัม ซึ่งสามารถผลิตเป็นตัวยาได้ถึง 300 ล้านเม็ด เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการค่ะ 

          แม้ว่าจะเป็นไข้หวัดใหญ่ที่มีความรุนแรงเทียบเท่ากับไข้หวัดใหญ­­­่ทั่วไป แต่เราก็ประมาทไม่ได้นะคะ เพราะหากติดเชื้อแล้วก็อาจจะทำให้เราต้องเสียการเสียงาน ต้องหยุดพักรักษาตัวอีกด้วย ดังนั้นทางที่ดีก็ควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรงกันดีกว่าเนอะ จะได้ไม่ต้องเหนื่อยใจกับอาการป่วยและค่ารักษาทีหลัง 







เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ไข้หวัดใหญ่ H3N2 รู้ให้ทัน ก่อนตื่นตระหนก อัปเดตล่าสุด 5 มีนาคม 2558 เวลา 11:58:28 18,516 อ่าน
TOP
x close